อินเดียแบนเกมออนไลน์ใช้เงินจริง หวังปกป้องประชาชนจากพนัน

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รัฐสภาอินเดียได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและกำกับดูแลการเล่นเกมออนไลน์ (Promotion and Regulation of Online Gaming Bill, 2025) ซึ่งมีผลบังคับใช้เพื่อห้ามการเล่นเกมออนไลน์ทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการใช้เงินจริง โดยกฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายหลักในการควบคุมการฉ้อโกงทางการเงินและการเสพติดการพนันที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในประเทศ

อินเดียผ่านกฎหมายห้ามเกมออนไลน์ที่ใช้เงินจริง หวังแก้ปัญหาการพนันและอาชญากรรมทางการเงิน

ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาสูง (Rajya Sabha) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากที่ผ่านสภาล่าง (Lok Sabha) เพียงหนึ่งวัน แม้จะมีการประท้วงอย่างหนักจากพรรคฝ่ายค้านก็ตาม

ตามรายงานของ The Economic Times กฎหมายใหม่นี้จะสั่งห้ามการดำเนินการ การโฆษณา และการอำนวยความสะดวกทางการเงินของเกมออนไลน์ที่ใช้เงินจริงทุกประเภท รวมถึงเกมยอดนิยมอย่างแฟนตาซีสปอร์ต (fantasy sports) โป๊กเกอร์ รัมมี่ และลอตเตอรี่ออนไลน์ นอกจากนี้ สถาบันการเงินและผู้ให้บริการ e-wallet จะถูกห้ามไม่ให้ดำเนินการธุรกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มเหล่านี้

รัฐบาลอินเดียให้เหตุผลในการออกกฎหมายว่าเป็นการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อปกป้องประชาชนจากความเสี่ยงของการเสพติด การฉ้อโกง และการหาประโยชน์ โดยเจ้าหน้าที่ประเมินว่ามีประชาชนกว่า 450 ล้านคนต้องสูญเสียเงินเกือบ 20,000 ล้านรูปี (ราว 87,000 ล้านบาท) ต่อปีจากการเล่นเกมเหล่านี้

นายเอส. กฤษณัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวว่ากฎหมายฉบับนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแยกแยะระหว่างนวัตกรรมและพฤติกรรมที่เป็นอันตราย "เกมอีสปอร์ต เกมเพื่อการศึกษา และเกมที่มีคุณค่าทางสังคมจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลต่อไป" เขากล่าว พร้อมยกตัวอย่างโครงการริเริ่มต่าง ๆ เช่น สถาบันเทคโนโลยีสร้างสรรค์แห่งอินเดีย และศูนย์ความเป็นเลิศด้านแอนิเมชัน ภาพ และเกม

แม้จะมีความเห็นชอบจากภาครัฐ แต่ภาคอุตสาหกรรมเกมออนไลน์ได้ออกมาแสดงความกังวลอย่างรุนแรง โดยเตือนว่ากฎหมายนี้อาจส่งผลให้เกิดการเลิกจ้างงานกว่า 200,000 ตำแหน่ง บริษัทกว่า 400 แห่งอาจต้องปิดตัวลง และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเป้าหมายของอินเดียในการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเกมระดับโลก

สำหรับบทลงโทษ ผู้ที่ละเมิดกฎหมายดังกล่าวจะต้องเผชิญกับการจำคุกสูงสุดไม่เกิน 3 ปี และ/หรือปรับสูงสุด 10 ล้านรูปี (ราว 4.3 ล้านบาท)