ปฏิทิน ‘วันติดคุก’
บ้านเมืองตอนนี้ ถูกทั้งศึกนอก-ศึกในหนาบกระหน่ำ
จากภายนอก
ภาษีทรัมป์ ๓๖% เส้นตาย ๑ สิงหา. รัฐบาลยังยักแย่-ยักยัน นอกจากโม้ขี้ฟันกระเด็น จะให้เหลือ ๑๘% ลมๆ แล้งๆ แล้ว
อะไรคือรูปธรรม ที่จะนำไปต่อรองกับเฮียทรัมป์ ก็ยังมองไม่เห็น!
จากภายใน ด้านชายแดน
ทหารไทยลาดตระเวนพื้นที่ช่องบก อุบลฯ ตรงที่ทหารเขมรเคยรุกล้ำเข้ามาขุดคูเลตและเราไล่ออกไป
เหยียบกับระเบิดที่ฝ่ายตรงข้ามลอบฝังไว้ บาดเจ็บ ๓ นาย สาหัสถึงขั้นต้องตัดข้อเท้า ๑ นาย
แล้วภูมิธรรม “นายกฯ รักษาการ” ว่าไง?
ก็ไม่ว่าไง เพราะไม่สนอะไรทั้งนั้น ตั้งหน้า-ตั้งตาไล่ตีหนู “อดีตรัฐมนตรีอนุทิน” พรรคภูมิใจไทย เป็นงานหลัก
เรื่องเขากระโดงบ้าง ย้าย-ขู่ย้ายข้าราชการที่ระแวงว่าเป็นพวกสีน้ำเงินบ้าง หาว่างบท้องถิ่นกระจุกตัวแต่ในพื้นที่สีน้ำเงินบ้าง
“ได้ยินมาว่าแถวๆ พื้นที่บุรีรัมย์ สุรินทร์ ได้เพิ่มขึ้นจากที่เคยได้เป็นร้อยๆ ล้านบาท บางแห่งได้ถึง ๗๐๐ ล้านบาท”!?
ท่านอ้วนฟัดจมเขี้ยว ชนิดไม่เก็บกิริยาผู้ใหญ่!
ทำเอา “กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น” (สถ.) ต้องออกเอกสารชี้แจงเป็นการด่วน
“โครงการตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน ๑๕๗,๐๐๐ ล้านบาท ของ อปท.ทุกแห่ง (ยกเว้น กทม.-พัทยา)
สถ.ได้รับข้อเสนอโครงการของ อปท.รวมทั้งสิ้น ๕,๓๑๖ แห่ง จำนวน ๒๗,๔๙๔ โครงการ งบประมาณ ๑๖๑,๙๕๐,๑๗๐,๙๐๐ บาท ซึ่งเกินกรอบวงเงินในภาพรวม ๑๕๗,๐๐๐ ล้านบาทของงบกระตุ้นเศรษฐกิจ
ประกอบกับได้รับข้อมูลว่าสำนักงบประมาณให้ความสำคัญกับโครงการด้านคมนาคม ประมาณ ๗๐,๐๐๐ ล้านบาท
และโครงการด้านน้ำ ประมาณ ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท รวมทั้งสิ้น ๑๑๐,๐๐๐ ล้านบาท
คงเหลือวงเงินที่จะจัดสรรให้ อปท. ประมาณ ๓๗,๐๐๐ ล้านบาท ……….
สถ.ขอเรียนชี้แจงว่า ได้พิจารณาถึงการกระจายตัวของงบประมาณ และคำขอโครงการต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวทางของสำนักงบประมาณกำหนด
โดยคำนึงถึงโครงการที่มีความพร้อมของข้อมูลแบบรูปรายการและสถานที่ดำเนินการ
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าไม่มี อบต.หรือ อบจ.ใดได้รับงบประมาณถึง ๗๐๐ ล้านบาทแต่อย่างใด……”
เมื่อวานถูกศอกกลับ “อังเคิลฮุน” หน้าแหกไปที ที่ว่าเขาไม่มีราคาที่จะต้องไปฟัง
วันนี้ถูกคำชี้แจงด้วยตัวเลขจริง ไอ้ที่ว่างบกระจุก ที่แท้มันไปจุกอกอยู่ที่กระทรวงคมนาคมของพรรคเพื่อไทยเอง ก็แหกไปอีก!
คุยเรื่องอื่นดีกว่า…..
เรื่อง “กับระเบิด” เรื่องต้องถึงศาลโลกแน่ รอให้ทางกองทัพเขาตรวจสอบมีความชัดเจนแน่ชัดก่อน จากนั้นต้องเป็นไปตามกระบวนการ
ไม่ยืนให้ทหารเขมรมาผลักอกทหารไทยถึงในบ้านแล้วต้องบำเพ็ญตบะเงียบเฉยหรอก
มาตรการตอบโต้ทางกฎบัตรกฎหมายตามกติกาสากลมันต้องมีแน่ จะปล่อยให้เณรเขกหัวพระเล่นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ มันไม่สวย
ถึงคราวสั่งสอน ก็ต้อง “สั่งสอน” รัฐบาลเพื่อไทย ไม่ใช่ “รัฐบาลไส้ศึก” มิใช่หรือ?!
คนเพื่อไทยนี่ เท่าที่ดู แยกแยะสถานการณ์ไม่ค่อยออก
อย่างกรณีแพทองธารถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลฯ จะมีคำวินิจฉัย และให้ชี้แจงเรื่องที่ถูกร้องเรียนภายใน ๑๕ วัน
ก็ไปเชื่อไอ้พวกหลี่กงกงตกยุค ขอเลื่อนไปอีก ๑๕ วัน!
จะไปเลื่อนทำไม….
ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่หนีไม่พ้น ก็ควรให้มันรู้ผลเร็วๆ เพื่อผลประโยชน์ทางตำแหน่งฐานะและอำนาจหน้าที่นายกฯ ของตัวเอง
เมื่อขอเลื่อน ตัวเองเท่ากับ “แขวนหัว” ห้อยต่องแต่งไปอีก ๑๕ วัน เพื่อไทยเป็นรัฐบาล “ผีหัวขาด” ไม่มีชาติไหนเขาอยากมาติดต่อเจรจาอะไรด้วยหรอก
หรือเวรกรรมจัดล็อก?
ทำไป-ทำมา ก็ไล่เลี่ยกับพ่อในคดี มาตรา ๑๑๒ ที่ศาลอาญานัดตัดสิน วันที่ ๒๒ สิงหา.นั่นแหละ
คดีแพทองธาร ว่าด้วยผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง และไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จากกรณีคลิปสนทนากับอังเคิลฮุน ศาลรัฐธรรมนูญคงมีคำวินิจฉัยไม่ก่อนก็หลังวันที่ ๒๒ พอดีกัน!
สำหรับตัวพ่อ นอกจากคดีมาตรา ๑๑๒ แล้ว ที่จ่อรอว่าจะรีเทิร์นคุกหรือไม่ ในคดี คุกทิพย์ ชั้น ๑๔
ปลายเดือนนี้ก็จบขั้นตอนสอบพยานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลย
ก็จะไปลงเอยในเดือนสิงหา.อีกเหมือนกันในความน่าจะเป็น!
สิงหา.-กันยา.นี่ มีหลายคดีจะมีผลออกมา
และผลนั้น จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการบ้าน-การเมือง “ครั้งใหญ่” ที่ออกมาก่อน เห็นจะเป็นคดี เรื่องผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๔๔
ยังไม่ใช่ที่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์, นายสมชาย แสวงการ, นายเจษฎ์ โทณะวณิก และนายนิติธร ล้ำเหลือ ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.
ขอให้ตรวจสอบการกระทำผิดฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๔๔ ซึ่งต้องห้าม ไม่ให้ไปตัดงบประมาณ เกี่ยวกับเรื่องของการให้เงินกู้ที่กฎหมายบังคับเอาไว้
รายการนี้ ถ้าผิดละก็ “โละ-ล้างประเทศ” ทั้ง ครม. ทั้งรัฐสภา เรียกว่า “กวาดเกลี้ยง” ตั้งต้นกันใหม่ ขนาดนั้นเลยเชียว
เดี๋ยวค่อยคุยกัน เอาตรงนี้ก่อน ….
คือประเด็น มาตรา ๑๔๔ เหมือนกัน “นายภัณฑิล น่วมเจิม” สส.พรรคประชาชน กับพวก ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๔๔ วรรคสาม
กรณี “นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ ๑ (ผู้ถูกร้อง)
เป็นผู้ให้ความเห็นชอบจัดทำโครงการและให้มีการเสนองบประมาณของ “สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร” ๓ โครงการ
ที่นายพิเชษฐ์มีส่วนโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘
และกรณีสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมีคำขอเสนอโครงการทั้ง ๓ โครงการดังกล่าวอีกครั้ง ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.๒๕๖๙
เป็นการเสนอของบประมาณด้วยโครงการที่มีรูปแบบเดียวกันและต่อเนื่องกับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘
ที่นายพิเชษฐ์มีส่วนในการเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำใดๆ ที่มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๙
อันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๔๔ วรรคสอง
เมื่อวาน (๑๗ ก.ค.๖๘) ศาลฯ พิจารณาแล้ว ประเด็นงบปี ๖๘ พิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว เป็นกฎหมายบังคับใช้ไปแล้ว
ไม่เข้าหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามมาตรา ๑๔๔ วรรคสาม
ศาลฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ “ไม่รับคำร้อง” ในส่วนนี้ไว้พิจารณา
ส่วนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๙
ศาลฯ มีมติโดยเสียงข้างมาก (๘ ต่อ ๑) มีคำสั่งรับคำร้องในส่วนนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย
คดีว่าด้วยมาตรา ๑๔๔ ระบุให้ศาลฯ ต้องพิจารณาวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันมีมติรับเรื่องไว้พิจารณา
ศาลฯ จึงให้นายพิเชษฐ์ ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายในวันจันทร์ที่ ๒๑ ก.ค. และไม่อนุญาตให้ขยายเวลายื่นคำชี้แจง
นัดไต่สวนพยานบุคคลในวันพฤหัสบดีที่ ๒๔ ก.ค. เวลา ๑๐.๐๐ น.
ผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องประสงค์จะแถลงการณ์ปิดคดี ให้ยื่นแถลงปิดคดีเป็นหนังสือภายในวันอังคารที่ ๒๙ ก.ค. และศาลฯ นัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ
และลงมติในวันศุกร์ที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๓๐ น.
นัดฟังคำวินิจฉัยเวลา ๑๕.๐๐ น.เป็นต้นไป ณ ห้องพิจารณาคดี ชั้น ๓ ศาลรัฐธรรมนูญ
เร็วทันใจพระเดชพระคุณท่านดีมั้ย?
ท่านรองประธานสภาฯ คนที่ ๑ “นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” จะหงายท้องตกเก้าอี้ ด้วยความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๔๔ วรรคสอง เพียงคนเดียว หรือมี สส.และกรรมาธิการฯ ด้วย
๑ สิงหา.เป็นได้รู้กัน!
ก็มาคุยต่อถึงเรื่องที่ขยักไว้ข้างต้น ที่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ กับคณะ ไปยื่นเรื่องว่าด้วยความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๔๔ ไว้กับ ป.ป.ช.เมื่อเดือนเมษา.
ว่าด้วยความผิดมาตราเดียวกันนี้ แต่ต่างวรรคกันออกไป ซึ่งเรื่องยังอยู่ในขั้นตอนสอบสวนของ ป.ป.ช. ยังไม่ถึงศาลรัฐธรรมนูญ
ผู้ร้องกล่าวหา ทั้งนายกฯ เศรษฐา และนายกฯ แพทองธาร
-คณะรัฐมนตรี
-คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘
-สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดทำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณดังกล่าว ว่า….
มีพฤติการณ์ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๔๔ วรรคหนึ่ง และวรรคสอง
กรณีปรับลดหรือตัดทอนงบประมาณรายจ่ายสำหรับส่งใช้ต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินกู้ และรายจ่าย ตามข้อผูกพันที่กำหนดให้จ่ายตามกฎหมาย
และเข้าไปมีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘
โดยนำงบประมาณไปใช้ “กระตุ้นเศรษฐกิจ” ผ่านโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรือแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต
นี่แหละ ตามมาตรา ๑๔๔ ให้ ป.ป.ช.มีเวลาสอบสวน ๒ เดือน ต้องรวบรวมเรื่องส่งศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฯ ต้องพิจารณาวินิจฉัยภายใน ๑๕ วัน
ดูทิศทางจากคำวินิจฉัยวันที่ ๑ สิงหา.ก็พอมองเห็นแหละว่า ที่นายชาญชัยกับคณะร้องไว้ เมื่อถึงศาลฯ แล้วจะเป็นแบบไหน?
แต่รายที่พรรคประชาชนร้อง กล่าวหาเฉพาะตัวนายพิเชษฐ์ “รองประธานสภาฯ” คนเดียว ว่าผิดตามวรรคสองของรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๔๔ เพียงวรรคเดียว
ส่วนรายของนายชาญชัย กล่าวหาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๔๔ ทั้งวรรคหนึ่ง และวรรคสอง
ถ้าผิด ไปหมดเลย ทั้ง ครม. ทั้ง สส.-สว. ทั้งกรรมาธิการฯ ซึ่งต่างจากเคสของพรรคประชาชน
เรื่องที่คนในรัฐบาลชุดนี้ ต้องตายด้วยกฎหมายยังไม่หมด
แต่เอาแค่นี้ก่อน อลัชชี รู้ตัวว่า “ติดกอล์ฟ” ก็หนีสึก
ผู้ทรงเกียรติล่ะ….
รู้ตัวว่าจะ “ติดคุก” จะหนีไปบวชเป็นพระเขมร ก็รีบๆ ซะนะ!.
-เปลว สีเงิน
๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘
คนปลายซอย