"หมอเจด" ชี้ใครบ้าง? เสี่ยงป่วย "นิ่วในถุงน้ำดี" เหมือน "กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่"
จากกรณีที่ "กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่" ตรวจพบและต้องผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีนั้น ทางด้าน หมอเจด นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงของโรคนิ่วในถุงน้ำดี เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับประชาชนที่ต้องการดูแลสุขภาพ
“ไม่อยากเป็นนิ่วในถุงน้ำดี แบบ “พี่กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่” ทำตามโพสต์นี้ !
1. วันก่อนเห็นข่าว “กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่” โพสต์ภาพตัวเองนอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาล พร้อมโชว์ก้อนนิ่วที่ผ่าออกมาแล้ว และเขียนอัปเดตว่า “ปวดท้องมา 3 วัน นึกว่าโรคกระเพาะ สุดท้ายทนไม่ไหว ไป CT Scan เจอนิ่วในถุงน้ำดี ต้องผ่าด่วน ตอนนี้ปลอดภัยแล้วนะ ขอพักแป๊บ เดี๋ยวลุยต่อ”
อ่านแล้วหลายคนใจหาย เพราะอาการปวดท้องที่คิดว่าเล็กน้อย กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องผ่าตัดทันที เดี๋ยววันนี้มาเช็กกันว่ามันมีอาการยังไง แล้วเราจะป้องกันยังไงดี
2. นิ่วในถุงน้ำดีมันเกิดจากอะไร ต่างจากนิ่วในไตไหม? ต้องบอกแบบนี้นะว่า นิ่วไม่ได้เหมือนกันทั้งหมดนะ
- นิ่วในไต มักเกิดจากเกลือแร่กับแคลเซียมจับตัวในปัสสาวะ
- นิ่วในถุงน้ำดี เกิดจากคอเลสเตอรอลในน้ำดีตกตะกอนจนกลายเป็นก้อนแข็ง ๆ
ร่างกายเรามีน้ำดีไว้ช่วยย่อยไขมัน ตับจะผลิตน้ำดี แล้วเก็บไว้ในถุงน้ำดี พอเรากินของมัน ๆ ถุงน้ำดีจะบีบน้ำดีออกมาช่วยย่อย แต่ถ้าคอเลสเตอรอลในน้ำดีเยอะเกิน หรือถุงน้ำดีบีบตัวไม่ดี น้ำดีค้างอยู่นาน ๆ ก็จะจับตัวเป็นก้อนนิ่วได้ นึกภาพง่าย ๆ เหมือนน้ำซุปที่ทิ้งไว้นานจนไขมันจับเป็นก้อน แบบนั้นเลยครับ
3. ใครบ้างที่เสี่ยงเจอนิ่วในถุงน้ำดี กลุ่มที่มักจะเตือนเป็นพิเศษมีอยู่หลายแบบเลย เช่น
- ผู้หญิงอายุเกิน 40 ปี
- คนที่มีไขมันในร่างกายเยอะ
- คนทำงานนั่งเยอะ ไม่ค่อยขยับ
- คนที่น้ำหนักตัวเยอะ
- ชอบกินของทอด มันจัด หนังไก่ หนังหมู
- หรือบางคนมีพันธุกรรมช่วยเพิ่มความเสี่ยง
หมอยังมีสูตรจำง่าย ๆ เรียกว่า “4F” คือ Female (ผู้หญิง), Forty (อายุ 40+), Fat (ไขมันเยอะ), Fertile (ฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง)
4. ป้องกันได้ยังไงบ้าง ข่าวดีคือเรื่องนี้ป้องกันได้เยอะเลยครับ เริ่มจากชีวิตประจำวันนี่แหละ
- เลือกไขมันดี น้ำมันมะกอก น้ำมันอะโวคาโด ไขมันปลาโอเมก้า-3 ช่วยบาลานซ์น้ำดีได้ดีกว่าของทอด
- กินโปรตีนไขมันน้อย เนื้อปลา ไก่ไม่ติดหนัง เต้าหู้ ลดหนังไก่ หนังหมู ของมัน ๆ
- เพิ่มผักและไฟเบอร์ เพราะช่วยลดการดูดซึมพวกไขมันเข้าสู่กระแสเลือดได้
- ขยับตัวหลังอาหาร ไม่ต้องวิ่ง แค่เดินเล่นเบา ๆ ช่วยให้ถุงน้ำดีบีบตัว น้ำดีไม่ค้าง
- คุมน้ำหนัก ช่วยทั้งเรื่องน้ำดีและสุขภาพโดยรวม
5. เช็กตัวเอง อย่ารอให้ถึงขั้นต้องผ่า อาการเตือนที่หลายคนเจอก่อนเป็นหนัก เช่น
- ปวดจุกแน่นชายโครงขวาหลังกินของมัน
- คลื่นไส้อาเจียนหลังมื้อใหญ่ ๆ
- ท้องอืด แน่นท้องแบบผิดปกติ
- ถ้าเริ่มมีอาการบ่อย ๆ อย่ามัวเดาว่าเป็นโรคกระเพาะ ลองไปอัลตราซาวด์เช็กถุงน้ำดีดีกว่า จะได้รักษาทันเวลา
เรื่องของพี่กอล์ฟเป็นสัญญาณเตือนที่ดีเลยครับ นิ่วในถุงน้ำดีไม่ได้อยู่ไกลตัวขนาดนั้น โดยเฉพาะถ้าเราเข้ากลุ่มเสี่ยง ยิ่งถ้าเป็นคนไม่ค่อยขยับตัว กินของทอดบ่อย อายุเกิน 40 ยิ่งต้องระวัง เริ่มง่าย ๆ จากมื้อนี้เลยครับ เปลี่ยนน้ำมันให้ดีขึ้น กินผักเพิ่มหน่อย เดินย่อยหลังอาหารสัก 10 นาที ปรับเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกวัน ช่วยลดโอกาสเป็นนิ่วได้เยอะจริงๆ