รัฐบาลไทยเตรียมประท้วงกัมพูชา และดำเนินการตามอนุสัญญาออตตาวา เพื่อตอบโต้กรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด
วันนี้ (21 กรกฎาคม 2568) พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงข่าวสรุปการประชุมกรณีมาตรการตอบโต้กัมพูชา กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบระเบิด ขณะลาดตระเวนบริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา
พลเรือตรีสุรสันต์ระบุว่า ทางการไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านทุ่นระเบิดได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่เหตุ ซึ่งอยู่บนเส้นทางลาดตระเวนของฝ่ายไทยที่ปฏิบัติตามปกติ และกรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นเหตุสุดวิสัย
ทั้งนี้ พบทุ่นระเบิดเพิ่มอีก 2 จุดในบริเวณใกล้เคียงรวมเป็น 7 ทุ่น โดยยืนยันว่า เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 สภาพใหม่พร้อมทำงาน จากรัสเซีย ซึ่งประเทศไทยและกองทัพไทยไม่เคยมีทุ่นระเบิดดังกล่าวอยู่ในสารบบยุทโธปกรณ์ นอกจากนี้ การกลบทุ่นยังเป็นร่องรอยใหม่ เพราะไม่มีวัชพืชขึ้นโดยธรรมชาติหรือรากไม้ขึ้นปกคลุม
ด้าน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบ.ทก.ก็ได้ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมดังกล่าว โดยยืนยันว่าทุ่นในจุดนั้นเป็นของประเทศอื่น ไม่ใช่ของไทยแน่นอน
พร้อมกันนี้เขาระบุว่า ทางกัมพูชากระทำผิด 2 เรื่อง คือ การวางทุ่นระเบิดใหม่ และมีระเบิดใหม่อยู่ในครอบครอง หากอ้างอิงตามอนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty) หรืออนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคลและการทำลายทุ่นระเบิด ซึ่งทั้งไทยและกัมพูชาต่างก็เป็นภาคี ทั้งนี้ผู้ลงนามในอนุสัญญาออตตาวา ต้องทำลายทุ่นระเบิด ไม่ว่าจะทำลายหมดทันทีหรือทำลายในภายหลัง
ส่วนแนวทางตอบโต้ พล.อ.ณัฐพลระบุถึงการประชุมออตตาวา ซึ่ง มีกำหนดในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมปีนี้ ดังนั้นหากฝ่ายไทยส่งฟ้องเรื่องที่เกิดขึ้นภายในวันนี้หรือระยะเวลาอันใกล้ ก็ต้องรอการพิจารณาในเดือนธันวาคมอยู่ดี จึงควรใช้เวลาที่เหลือทำสำนวนคดีให้รอบคอบ เพราะหากทำสำนวนไปไม่รอบคอบ ศาลอาจไม่รับฟ้อง หรือทำไปแล้วฝ่ายกัมพูชาสามารถโต้กลับมาได้ ทางไทยก็จะเสียความน่าเชื่อถือ จึงขอให้สื่อและประชาชนเข้าใจหน่วยงานภาครัฐ
เมื่อนักข่าวถามว่า จะยื่นฟ้องคณะกรรมการออตตาวาในนามรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการในนามรัฐบาล แต่อยู่ภายใต้การอำนวยการของ ศบ.ทก. อีกทั้งจะมีการประท้วงเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังฝ่ายกัมพูชา และส่งข้อมูลไปยังประเทศที่สนับสนุนเงินให้กัมพูชา เพื่อแจ้งว่า ปัจจุบันกัมพูชาได้ละเมิดอนุสัญญาดังกล่าว
“พูดเลยว่าเขาผิด 2 เรื่อง และจะส่งข้อมูลไปยังประเทศที่เป็นสปอนเซอร์ของกัมพูชา ที่สนับสนุนเงิน ในพันธกรณีที่เกี่ยวกับออตตาวาว่าสนับสนุนเงินเขาไป ปัจจุบันเขาเป็นแบบนี้ ก็แล้วแต่เขาจะพิจารณา” พล.อ.ณัฐพลระบุ
ส่วน มาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในการแถลงข่าวสรุปการประชุม ศบ.ทก.ว่า ไทยยืนยันจุดยืนในการเจรจากรอบทวิภาคีกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อร่วมกันแก้ไขสถานการณ์ในเวลานี้ผ่านกลไกต่างๆ เช่น เจบีซี อาร์บีซี และจีบีซี โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ฝ่ายกัมพูชาจะให้ความร่วมมือในกรอบเหล่านี้อย่างจริงจังและสุจริตใจ โดยเริ่มจากการเข้าร่วมการประชุมเจบีซีครั้งต่อไป ที่กำหนดจัดช่วงเดือนกันยายนนี้ เพื่อให้สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างทั้งสองคลี่คลายลง
“รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย เป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ” เธอกล่าวย้ำ
อ้างอิงจาก