'มาร์กอส'เตรียมเข้าทำเนียบขาวพบทรัมป์วันอังคารหวังดีลสำเร็จ
ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ของฟิลิปปินส์ เตรียมพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สัปดาห์นี้ หวังใช้สถานะพันธมิตรหลักในเอเชียช่วยให้ได้ดีลที่เป็นประโยชน์ต่อมะนิลาก่อนเส้นตาย 1 ส.ค.
“ผมคาดว่าการหารือของเราจะเน้นไปที่ความมั่นคงและกลาโหม แน่นอนว่ามีเรื่องการค้าด้วย มาดูกันว่าการเจรจากับสหรัฐจะคืบหน้าไปแค่ไหน สำหรับความเปลี่ยนแปลงที่เราหวังมาบรรเทาผลกระทบจากภาษีที่กำหนดเก็บจากฟิลิปปินส์ในอัตราสูงมาก” มาร์กอสกล่าวก่อนเดินทางออกจากกรุงมะนิลา
ทั้งนี้ มาร์กอสจะเป็นผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนแรกที่ได้พบกับทรัมป์ในการดำรงตำแหน่งวาระที่ 2 ซึ่งทรัมป์ทำข้อตกลงการค้ากับเพื่อนร่วมภูมิภาคอย่างเวียดนามและอินโดนีเซียไปเรียบร้อยแล้ว การเจรจาการค้าจึงเป็นงานยาก แม้ฟิลิปปินส์เป็นพันธมิตรใกล้ชิดที่รัฐบาลวอชิงตันจำเป็นต้องเก็บไว้กับตัวในยุทธศาสตร์แข่งขันกับจีนก็ตาม เพราะแม้แต่พันธมิตรสหรัฐอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ยังไม่บรรลุข้อตกลงการค้ากับทรัมป์
เกรกอรี โพลิง ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากศูนย์ยุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศศึกษาในกรุงวอชิงตัน กล่าวกับรอยเตอร์ว่า มาร์กอสอาจทำได้ดีกว่าเวียดนามที่โดนภาษี 20% และอินโดนีเซียที่ 19%
“ผมจะไม่ประหลาดใจเลยถ้าเห็นการประกาศดีลกับฟิลิปปินส์ด้วยอัตราที่ต่ำกว่าสองประเทศนั้น” โพลิงกล่าว
ปีก่อนสหรัฐซึ่งค้าขายสินค้ากับฟิลิปปินส์มูลค่า 2.35 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็นฝ่ายเสียเปรียบดุลการค้าเกือบ 5 พันล้านดอลลาร์ เดือนนี้ทรัมป์จึงขู่ฟิลิปปินส์ว่า จะขึ้นภาษีจาก 17% ในเดือน เม.ย.เป็น 20%
มาร์กอสซึ่งเดินทางถึงกรุงวอชิงตันในวันอาทิตย์ (20 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น มีกำหนดหารือนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายพีต เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในวันจันทร์ ก่อนพบทรัมป์ที่ทำเนียบขาวในวันอังคาร (21 ก.ค.) ระหว่างนั้นจะได้พบกับผู้นำภาคธุรกิจสหรัฐที่เข้ามาลงทุนในฟิลิปปินส์ด้วย
ทางการฟิลิปปินส์กล่าวว่า มาร์กอสจะเน้นเรื่องความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความกังวลของมะนิลาเกี่ยวกับภาษี โดยเขาจะเน้นย้ำว่า ถ้าอยากให้มะนิลาเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงสำหรับสหรัฐในอินโดแปซิฟิก เศรษฐกิจมะนิลาจะต้องแข็งแกร่ง
สัปดาห์ก่อน ราเควล โซลาโน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่การค้ากำลังทำงานกับคู่เจรจาสหรัฐ เพื่อทำข้อตกลง “ที่ยอมรับได้และเป็นประโยชน์ร่วมกัน” ของทั้งสองฝ่าย
ทรัมป์และมาร์กอสจะหารือกันเรื่องกลาโหมและความมั่นคงด้วย โซลาโนกล่าวว่า ประธานาธิบดีฟลิปปนิส์จะหาทางกระชับความเป็นพันธมิตรทางทหารที่มีมายาวนานให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
เมื่อฟิลิปปินส์ต้องเผชิญแรงกดดันจากจีนอย่างเข้มข้นในน่านน้ำข้อพิพาททะเลจีนใต้ มาร์กอสก็หันไปใกล้ชิดกับสหรัฐมากขึ้น เปิดให้เข้าถึงฐานทัพฟิลิปปินส์ได้มากกว่าเดิมในช่วงที่จีนข่มขู่ไต้หวัน
สหรัฐและฟิลิปปินส์มีสนธิสัญญาทางการทหารร่วมกันมาถึงเจ็ดทศวรรษ และซ้อมรบประจำปีหลายสิบครั้ง รวมถึงการฝึกขีปนาวุธ Typhon ของสหรัฐ ล่าสุดคือขีปนาวุธต่อต้านเรือNMESIS สร้างความไม่พอใจให้กับจีน
โพลิงกล่าวด้วยว่ามะนิลาและสหรัฐมีมุมมองเกี่ยวกับจีนสอดคล้องกันอย่างใกล้ชิด และเป็นที่น่าสังเกตว่ารูบิโอและเฮกเซธทำให้แน่ใจว่า รมว.ต่างประเทศและกลาโหมของฟิลิปปินส์เป็นเจ้าหน้าที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ชุดแรกที่พวกเขาได้พบ ทรัมป์เองก็ดูเหมือนตอบรับกับมาร์กอสเช่นกัน ดูจากการคุยกันทางโทรศัพท์หลังเลือกตั้ง