จุดเปลี่ยนเทรนด์ออฟฟิศ! "ไฮบริด เวิร์กสเปซ" ยุคนี้กำลังมาแรง
โลกหลังโควิด-19 พฤติกรรมการทำงานของผู้คนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่การเข้าออฟฟิศเต็มเวลาคือกิจวัตร กลับกลายเป็นความคุ้นเคยใหม่ที่ “บ้าน–คาเฟ่–พื้นที่ทำงานร่วม” สามารถแทนที่ได้อย่างลงตัว เทรนด์นี้กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก และประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ปรับตัวเร็วที่สุดในเอเชียแปซิฟิก
Marc Descrozaille ประธานเจ้าหน้าที่บริหารภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียแปซิฟิก ของบริษัท International Workplace Group (IWG) กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์การทำงานแบบไฮบริดและการใช้พื้นที่แบบยืดหยุ่น (Flexible Workspace) ไม่ใช่เพียงทางเลือกสำหรับองค์กร แต่กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่
“ประเทศไทยถือเป็นผู้นำในภูมิภาคที่เริ่มต้นเปลี่ยนผ่านสู่การทำงานแบบไฮบริด อีกทั้ง ไม่เพียงฟื้นตัวจากโควิดได้เร็ว แต่ยังเดินหน้าเต็มที่เรื่อง digital transformation มีความต้องการในการกระจายศูนย์ธุรกิจ ซึ่งพื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่นคือคำตอบที่ลงตัวที่สุดในตอนนี้”
จากข้อมูลของ IWG ตลาด Co-working Space ในไทยคาดว่าจะเติบโตแตะ 550.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 ซึ่งสะท้อนว่าการเติบโตของกลุ่ม SME สตาร์ทอัพ และมืออาชีพอิสระในประเทศยังแข็งแรง สวนทางกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา IWG ขยายจำนวนศูนย์บริการในไทยจาก 25 แห่ง เป็นมากกว่า 50 แห่ง และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 61 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยมีจุดยุทธศาสตร์กระจายอยู่ในกรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต ชลบุรี และระยอง รองรับทั้งบริษัทขนาดใหญ่และผู้เช่ารายย่อยที่ต้องการความยืดหยุ่น
“500 บริษัทชั้นนำของโลก ซึ่งกว่า 85% ใช้บริการและกลุ่มลูกค้าหลักของ IWGรวมถึงกลุ่ม SME และนักธุรกิจรายย่อยที่เติบโตจากการมีพื้นที่ทำงานที่คล่องตัว เรามีสมาชิกทั่วโลกกว่า 8 ล้านคน”
IWG ยังเดินหน้าใช้กลยุทธ์ขยายตัวแบบ Capital-Light ซึ่งคล้ายกับธุรกิจโรงแรม โดยการจับมือกับเจ้าของอาคารหรือผู้ประกอบการท้องถิ่น เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนร่วมกัน ตัวอย่างเช่น การร่วมมือกับ Brighton Grand Hotel Pattaya และ Century Movie Plaza เพื่อนำพื้นที่ว่างในอาคารมาปรับให้เป็นเวิร์กสเปซพร้อมใช้ ยืดหหยุ่น รองรับพฤติกรรมการทำงานที่เปลี่ยนไปของคนรุ่นใหม่
“นี่คือการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะหลายอาคารมีพื้นที่เปล่าที่ไม่ได้ใช้งาน เมื่อปรับให้เป็น flexible workspace ที่พร้อมใช้ ก็ช่วยให้พื้นที่นั้นกลับมาสร้างมูลค่าได้”
เขายังชี้ว่าความต้องการในแต่ละเมืองหรือแต่ละย่านมีความแตกต่างกัน บางพื้นที่เน้นพื้นที่ส่วนตัว บางพื้นที่เน้นการสร้างคอมมูนิตี้ หรือบางแห่งต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกในแนวคิด 15-Minute City ที่ผู้คนในปัจจุบันที่มักมีวิถีชีวิตที่จำเป็นต้องทำกิจกรรมหลายอย่างในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้การออกแบบบริการของ IWG ต้องปรับให้เข้ากับแต่ละบริบทนั้นอย่างยืดหยุ่น
“ในภาวะที่เศรษฐกิจยังคงกดดัน องค์กรต้องการความยืดหยุ่นในการบริหารต้นทุน และพนักงานเองก็ต้องการ work-life balance มากขึ้น นี่คือเหตุผลที่ hybrid flexible model จะเป็นแนวทางหลักของอนาคต และเราพร้อมสนับสนุนทั้งภาคธุรกิจและเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ให้เดินหน้าไปพร้อมกัน”
สำหรับประเทศไทย Marc ยังยํ้าว่าแม้จะเผชิญความท้าทายทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง แต่ยังคงเป็นหนึ่งในตลาดที่น่าจับตามองที่สุดในเอเชีย เพราะมีศักยภาพของกำลังซื้อ การกระจายตัวของเมือง และแรงผลักจากเทคโนโลยี
“ในยุคปัจจุบันนี้ไม่ใช่แค่ออฟฟิศ แต่เรากำลังพูดถึงโครงสร้างพื้นฐานของการทำงานยุคใหม่ ซึ่งทุกคนต้องการความคล่องตัว ความยั่งยืน และความคุ้มค่า และ IWG ก็สามารถเป็นผู้มอบโซลูชันได้ตามความต้องการที่หลากหลาย”
หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,111 วันที่ 6 - 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2568