โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ตรวจความเป็นไปได้ สหรัฐแข่งจีนเข้าถึงแรร์เอิร์ธเมียนมา

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา

แหล่งข่าววงในสี่รายเผย รัฐบาลทรัมป์พิจารณาข้อเสนอมากมายที่จะเปลี่ยนนโยบายสหรัฐต่อเมียนมาไปอย่างสิ้นเชิงด้วยเป้าหมายดึงแร่ธาตุหายากให้พ้นมือคู่อริทางยุทธศาสตร์อย่างจีน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แม้รับฟังข้อเสนอหลายแผน รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่ตัดสินใจเรื่องแร่ธาตุหายากในเมียนมา ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า อุปสรรคด้านโลจิสติกส์มีมากมาย แต่ถ้าแนวคิดนี้ได้ผล รัฐบาลวอชิงตันก็อาจทำข้อตกลงกับกลุ่มชาติพันธุ์ที่ควบคุมแร่ธาตุหายากส่วนใหญ่ของเมียนมา

ในบรรดาข้อเสนอต่างๆ ที่รัฐบาลได้พิจารณาหนึ่งในนั้นคือ การทุ่มเทพูดคุยกับรัฐบาลทหารเมียนมา เพื่อให้ทำข้อตกลงสันติภาพกับกองกำลังกะเหรี่ยงอิสระ (เคไอเอ) และให้สหรัฐทำงานกับเคไอเอโดยตรงไม่ต้องผ่านรัฐบาลทหาร โดยวอชิงตันเลี่ยงไม่คุยกับผู้นำกองทัพโดยตรงอยู่แล้วนับตั้งแต่โค่นล้มรัฐบาลพลเรือนในปี 2021

แหล่งข่าวเผยว่า ลอบบี้ยิสต์สหรัฐกลุ่มหนึ่ง, อดีตที่ปรึกษาของอองซาน ซูจี รายหนึ่งผู้เคยคุยทางอ้อมกับเคไอเอ และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเสนอแนวคิดดังกล่าวให้กับคนในรัฐบาลทรัมป์ เรื่องนี้ไม่เคยมีการรายงานข่าวมาก่อน

แร่ธาตุหายาก (แรร์เอิร์ธ) เป็นกลุ่มโลหะ 17 ชนิดใช้ทำแม่เหล็กที่เปลี่ยนพลังงานเป็นการเคลื่อนไหว แร่ธาตุหายากชนิดหนักใช้ทำเครื่องบินรบ และอาวุธสมรรถนะสูงอื่นๆ สหรัฐผลิตสินแร่ชนิดนี้ได้น้อยมากต้องพึ่งพาการนำเข้า

รัฐบาลทรัมป์มุ่งเน้นการได้ซัพพลายแร่ธาตุเพื่อแข่งขันทางยุทธศาสตร์กับจีน ที่แปรรูปแร่ธาตุหายากเกือบ 90% ของโลกตามข้อมูลของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ

การมีปฏิสัมพันธ์กับรัฐบาลทหารถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับสหรัฐ เนื่องจากสหรัฐคว่ำบาตรผู้นำกองทัพ และการกระทำรุนแรงต่อชาวโรฮิงญา ที่วอชิงตันเรียกว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ

สัปดาห์ก่อนรัฐบาลทรัมป์ยกเลิกคว่ำบาตรคนสนิทรัฐบาลทหารเมียนมาหลายคน แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่า นี่ไม่ใช่เครื่องบ่งชี้ว่าสหรัฐจะเปลี่ยนแปลงนโยบายต่อเมียนมา

แนวคิดอื่นๆ ที่ผุดขึ้นในรัฐบาล เช่น ผ่อนคลายภาษีที่ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่เก็บเมียนมา 40%, ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรรัฐบาล และคนใกล้ชิด, จับมือกับอินเดียแปรรูปแร่ธาตุหายากชนิดหนักจำนวนหนึ่งที่ส่งออกจากเมียนมา และแต่งตั้งทูตพิเศษทำหน้าที่เหล่านี้

ข้อเสนอจำนวนหนึ่งถูกนำมาหารือกันเมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 ที่สำนักงานของรองประธานาธิบดีเจ ดี แวนซ์ โดย อดัม แคสติลโล อดีตประธานหอการค้าอเมริกันในเมียนมาผู้ทำบริษัทความมั่นคงที่นั่นร่วมหารือด้วย ร่วมกับบรรดาที่ปรึกษาด้านกิจการเอเชียและการค้าของแวนซ์ แต่ตัวแวนซ์ไม่ได้ประชุมด้วย

แคสติลโลเผยกับรอยเตอร์เขาแนะนำว่าสหรัฐควรเล่นบทบาทคนกลางสร้างสันติภาพในเมียนมา และเร่งให้วอชิงตันชิงตัดหน้าจีนด้วยการประเดิมเป็นคนกลางทำข้อตกลงปกครองตนเองระหว่างกองทัพเมียนมากับเคไอเอ

รอยเตอร์สอบถามไปยังรัฐบาลทหารเมียนมาและเคไอเอไม่ได้รับคำตอบ

ขณะที่สำนักงานแวนซ์ปฏิเสธให้ความเห็นเรื่องแคสติลโลมาทำเนียบขาว ผู้สันทัดกรณีรายหนึ่งเผยว่า รัฐบาลทรัมป์กำลังทบทวนนโยบายว่าด้วยเมียนมานับตั้งแต่สาบานตน และกำลังชั่งน้ำหนักเรื่องการหารือภาษี และการค้ากับรัฐบาลทหาร

ด้านทำเนียบขาวไม่ให้ความเห็นกับรอยเตอร์

  • ทบทวนนโยบายเมียนมา

แหล่งข่าวบอกด้วยว่า การหารือของทำเนียบขาวยังเป็นแค่การสำรวจช่องทาง และอยู่ในขั้นต้น อาจไม่มีผลให้ทรัมป์เปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ใดๆ เลย เนื่องจากรัฐบาลระมัดระวังไม่เข้าไปแทรกแซงในความขัดแย้งของต่างชาติ และวิกฤติอันซับซ้อนของเมียนมา

รอยเตอร์สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งในรัฐบาล เรื่องการประชุมวันที่ 17 ก.ค.68

“เจ้าหน้าที่ถือว่าการประชุมนี้เป็นการให้เกียรตินักธุรกิจอเมริกัน และสนับสนุนความพยายามของประธานาธิบดีทรัมป์ในการปรับดุลการค้ากับเมียนมาที่สหรัฐเสียเปรียบ 579 ล้านดอลลาร์”

ด้านแคสติลโล ผู้เปรียบแรร์เอิร์ธสำรองของเมียนมาเสมือน “ห่านทองคำของจีน” กล่าวว่า เขาได้แจ้งทางการสหรัฐว่ากลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์กลุ่มสำคัญโดยเฉพาะเคไอเอกำลังเหนื่อยหน่ายที่ถูกจีนหาประโยชน์ และต้องการร่วมมือกับสหรัฐ"

ทั้งนี้ แร่หายากชนิดหนักส่วนใหญ่ผลิตจากภูมิภาคกะฉิ่นแล้วส่งไปแปรรูปในจีน

แคสติลโลเรียกร้องกับทางการวอชิงตันมาตลอดทำให้ข้อตกลงกับเคไอเอ เช่น ร่วมมือกับพันธมิตรสหรัฐในกลุ่มควอด โดยเฉพาะอินเดีย ในการแปรรูปและจัดหาแร่หายากชนิดหนักไปให้สหรัฐ

เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดียรายหนึ่งผู้ไม่เปิดเผยตัวตนกล่าวว่า ไม่ทราบว่ารัฐบาลทรัมป์ได้สื่อสารแผนใดๆ กับอินเดียหรือไม่ แต่ความเคลื่อนไหวที่กล่าวมา ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเป็นรูปธรรม เพราะต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับแปรรูปแรร์เอิร์ธ

ยังมีอีกหนึ่งแผนการสอดรับกับนโยบายเมียนมาซึ่งทรัมป์รับต่อจากอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน มากกว่า ฌอน เทอร์เนล นักเศรษฐศาสตร์ชาวออสเตรเลีย อดีตที่ปรึกษาของอองซาน ซูจี ที่ถูกรัฐประหารในปี 2021 กล่าวว่า ข้อเสนอเรื่องแรร์เอิร์ธกระตุ้นให้รัฐบาลทรัมป์สนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยในเมียนมาต่อไป

ตอนมาเยือนวอชิงตันหลายเดือนก่อน เทอร์เนลได้พบกับเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ, สภาความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาว และสมาชิกสภาคองเกรส เขาเรียกร้องให้สหรัฐสนับสนุนฝ่ายค้านเมียนมาต่อไป

“แผนการหนึ่งคือ สหรัฐอาจเข้าถึงแรร์เอิร์ธผ่านเคไอเอ” เทอร์เนล กล่าวและว่า เคไอเอก็อยากติดต่อกับคนอื่นๆ นอกเหนือจากจีน

แหล่งข่าวอีกรายเผยว่า ยังมีการหารือผ่านตัวกลางเรื่องแรร์เอิร์ธอีกหลายครั้งระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐกับกลุ่มกบฏกะฉิ่นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เรื่องนี้ไม่เคยมีข่าวมาก่อน

  • ขนส่งแร่ไปอินเดียใต้จมูกจีน?

หลายปีมาแล้วนับตั้งแต่รัฐประหาร เมียนมาระอุด้วยสงครามกลางเมือง กองทัพถูกผลักดันออกจากพื้นที่ชายแดน รวมทั้งแนวเหมืองแรร์เอิร์ธที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้การควบคุมของเคไอเอ

แหล่งข่าวในแวดวงแร์รเอิร์ธรายหนึ่งกล่าวว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐได้ติดต่อพวกเขาเมื่อประมาณสามเดือนที่แล้ว หลังจากที่กลุ่มกะฉิ่นเข้าควบคุมพื้นที่เหมืองชิปเว-ปังวา เพื่อสอบถามข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการทำเหมืองแร่ธาตุหายากในพื้นที่นั้น

อย่างไรก็ตาม ห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุหายากใหม่ๆ ซึ่งจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายแร่ธาตุออกจากพื้นที่ห่างไกล และพื้นที่บนภูเขาของรัฐกะฉิ่นมายังอินเดียแล้วส่งต่อไปยังที่อื่นๆ อาจยังไม่สามารถทำได้

เบอร์ทิล ลินต์เนอร์ นักเขียนชาวสวีเดน ผู้เชี่ยวชาญแถวหน้าด้านรัฐกะฉิ่น กล่าวว่า ความคิดของสหรัฐที่อยากได้แรร์เอิร์ธจากเมียนมาใต้จมูกจีน ดูเหมือน “เสียสติอย่างสิ้นเชิง”เนื่องจากภูมิประเทศที่เป็นภูเขาไม่เอื้ออำนวย และระบบโลจิสติกส์ยังไม่พัฒนา

“ถ้าพวกเขาต้องการขนส่งแรร์เอิร์ธจากเหมืองเหล่านี้ ซึ่งทั้งหมดอยู่บริเวณชายแดนจีน ไปยังอินเดีย ก็มีถนนเพียงเส้นเดียว และแน่นอนว่าจีนต้องเข้ามา และหยุดยั้ง” ลินต์เนอร์ กล่าว

ด้านรัฐบาลทหารดูเหมือนอยากเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับวอชิงตันหลังถูกโดดเดี่ยวมาหลายปี

ตอนที่ทรัมป์ขู่เก็บภาษีเมียนมา เขาใช้วิธีส่งจดหมายส่วนตัวไปถึงมิน ออง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหาร ซึ่งมิน ออง หล่าย ตอบกลับเดียวการยกยอทรัมป์ใหญ่โตถึง “ความเป็นผู้นำเข้มแข็ง” ของเขา พร้อมๆ กับขอให้ลดภาษี และยกเลิกคว่ำบาตร โดยกล่าวว่า เขาพร้อมแล้วที่จะส่งทีมเจรจาไปวอชิงตันหากจำเป็น

กระนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลทรัมป์ กล่าวว่า การตัดสินใจยกเลิกคว่ำบาตรคนสนิทรัฐบาลทหารเมียนมาช่วงก่อนหน้านี้ไม่เกี่ยวข้องกับจดหมายที่มิน ออง หล่าย มีถึงทรัมป์

พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

‘จระเข้’โตแรงสวนตลาดก่อสร้างติดลบ! เล็งตั้งโรงงาน‘เวียดนาม’

27 นาทีที่แล้ว

เศรษฐกิจสหรัฐโตสูงกว่าคาดแตะ 3% ในไตรมาส 2 ทรัมป์ร้องลดดอกเบี้ย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รองนายกฯ เวียดนามพบ'มาริษ'หารือข้อราชการ ยินดีหยุดยิง

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทรัมป์ประกาศภาษี 'อินเดีย' 25%' ลงดาบเจรจาไม่ลงตัว-เมินคำเตือนซื้อพลังงานรัสเซีย

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

Malaysia seeks clarity on Cambodian troops in Thai custody

Thai PBS World

เศรษฐกิจสหรัฐโตสูงกว่าคาดแตะ 3% ในไตรมาส 2 ทรัมป์ร้องลดดอกเบี้ย

กรุงเทพธุรกิจ

Microsoft เผย 40 อาชีพ "AI" ทำแทนไม่ได้ และ 40 อาชีพเสี่ยงโดนแทนมากที่สุด

sanook.com

พ่อแม่ตาย พี่น้องฟ้องแย่งมรดก 13 ล้าน เพิ่งรู้ความจริง ช็อกกลางศาล

Thaiger

กัมพูชา-ไทย ยืนยันทำตาม 'ข้อตกลงหยุดยิง' ในที่ประชุมไตรภาคีกับจีน

สวพ.FM91

กูรูไต้หวัน เตือน! 5 เมนูปลา กินแบบผิดๆ เสี่ยงสารพิษตกค้าง-พยาธิเพียบ

sanook.com

รองนายกฯ เวียดนามพบ'มาริษ'หารือข้อราชการ ยินดีหยุดยิง

กรุงเทพธุรกิจ

Four wins for ASEAN chair Anwar

Thai PBS World

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...