อังกฤษ-อินเดียลงนามข้อตกลงการค้า ดีลใหญ่สุดหลังเบร็กซิต
อังกฤษ-อินเดียลงนามข้อตกลงการค้า ดีลใหญ่สุดหลังเบร็กซิต
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ระหว่างการเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการของ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย สหราชอาณาจักรและอินเดียลงนามข้อตกลงการค้าที่คฤหาสน์เชกเกอร์ส ส่งผลให้สินค้าหลายประเภทตั้งแต่สิ่งทอ วิสกี้ไปจนถึงรถยนต์ปลอดภาษี ทั้งยังเปิดตลาดแก่ภาคธุรกิจ หลังจากที่เจรจามานานกว่า 3 ปี และเสร็จสิ้นไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ข้อตกลงฉบับนี้ถือเป็นข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักรหลังจากเบร็กซิต โดยทั้งสองประเทศมีพื้นที่เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่ 5 และ 6 ของโลก โดยมีเป้าหมายว่าการสร้างมูลค่าทางการค้าทวิภาคีให้ได้ 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2040 รวมถึงส่งผลให้บริษัทอย่าง Diageo ผู้ผลิตไวน์ ตลอดจนบริษัทรถยนต์อย่าง BMW, Nissan, Aston Martin และ Jaguar Land Rover ได้รับประโยชน์จากอัตราภาษีที่ต่ำลงด้วย
ด้าน นายเคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวว่า ข้อตกลงนี้จะนำไปสู่ผลประโยชน์ครั้งใหญ่แก่สองประเทศ ทำให้ต้นทุนทางการค้าถูกลง เร็วและง่ายมากขึ้นในโลกการค้ายุคใหม่ ขณะที่โมดีกล่าวว่าข้อตกลงนี้เปรียบเสมือน “พิมพ์เขียวของความมั่งคั่งที่สองประเทศที่ร่วมกัน” พร้อมกับย้ำว่าเป็นการเปิดตลาดสินค้าอินเดียตั้งแต่สิ่งท่อ เครื่องประดับ ตลอดจนอาหารทะเล
ภายใต้ข้อตกลงนี้ ภาษีนำเข้าสำหรับวิสกี้จะลดลงทันทีจาก 150% เหลือ 75% และจะลดลงเรื่อยๆ จนเหลือ 40% ใน 10 ปีข้างหน้า ส่วนบรันดีและรัมจะลดลงเหลือ 110% และจะลดลงอย่างต่อเนื่องจนเหลือ 75% สำหรับรถยนต์ อินเดียจะลดภาษีนำเข้าเหลือ 10% ภายใน 5 ปี จากอัตราปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 110%
อีกทั้ง ผู้ผลิตในอินเดียสามารถเข้าถึงตลาดสหราชอาณาจักรสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริด และ 99% ของสินค้าส่งออกจากอินเดียไปยังสหราชอาณาจักรก็จะปลอดภาษี ขณะเดียวกัน สหราชอาณาจักรจะลดภาษีนำเข้ารวม 90% โดยอัตราภาษีนำเข้าเฉลี่ยที่บริษัทอังกฤษต้องจ่ายจะลดลงจาก 15% เหลือ 3%
นอกจากนั้น สหราชอาณาจักรและอินเดียบรรลุความเป็นหุ้นส่วนในหลากหลายด้าน รวมถึงทางกลาโหม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและอาชญากรรมอีกด้วย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : อังกฤษ-อินเดียลงนามข้อตกลงการค้า ดีลใหญ่สุดหลังเบร็กซิต
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th