‘บาร์บี้’ และเวทมนตร์ทำให้วัยเยาว์ของเราได้ผจญภัย
บิบเบิ้ลหัวเราะเบาๆ พลันกระซิบในลม
“อย่าหยุดฝันนะ บาร์บี้”
กาลครั้งหนึ่ง ณ ดินแดนแฟนตาซีนามแฟรีโทเปีย กลางทุ่งดอกไม้กลีบสีรุ้งกลิ่นหอมละมุน เมฆฟูฟ่องลอยต่ำราวจะเอื้อมมือแตะถึงได้ หญิงสาวปีกบอบบาง ‘เอลินา’ นางฟ้าผมลอนสีบลอนด์ทอง ร่างกายดูบอบบาง ตรงข้ามกับแววตากล้าหาญ ใครๆ ต่างก็จำเธอได้ เพราะปีกของเธอช่างสง่างาม งามจนหมู่มวลนางฟ้าทุกตนเหลียวมองอย่างชื่นชม มันเปล่งแสงสีชมพูอ่อน ขอบปีกเป็นประกาย ยามเธอโผบิน ปีกนั้นจะทิ้งผงระยิบระยับตามทาง
เอลินาอาศัยอยู่ในบ้านดอกไม้ที่อากาศอบอุ่น นอนขดตัวหลับใหลบนเกสรอ่อนนุ่ม ยามเช้าวันหนึ่ง ขณะที่เธอกำลังใช้ปลายนิ้วแตะน้ำค้างบนใบไม้สีทอง
“บิ๊บ บิ๊บ บิ๊บ” เสียงสูงแว่วตามลม เหมือนใครสักคนบ่นพึมพำ
ด้วยความสงสัย เอลินาค่อยๆ เดินตามเสียงนั้นไป พลางห้ามไม่ให้ปีกกระพือเสียก่อน และแล้วก็ได้พบกับก้อนขนกลมสีฟ้าประปรายด้วยสีม่วง ดูเหมือนตุ๊กตาที่จิตรกรปาดแปรงใส่อย่างไม่ตั้งใจ ปีกเล็กจิ๋วใสแจ๋วขยับพึ่บพั่บว่องไวกลางอากาศ พร้อมกับดวงตากลมโตสีน้ำเงินที่หันมองเธอ มันมีเท้าสีม่วงด้วย! ไม่สิ หรือต้องพูดว่าเป็นรองเท้านะ แถมมีผมสีม่วงเหลือบชมพูฟูฟ่องอยู่บนหัวกระจุกหนึ่งด้วย
“สวัสดี” เอลินาทายทัก สิ่งมีชีวิตนั้นตอบกลับอย่างรวดเร็ว แต่เป็นภาษาที่เอลินาไม่เข้าใจ ทว่าสำเนียงฟังดูตลกและท่าทางแปลกๆ ทำให้เธอต้องหัวเราะกุมท้องด้วยความเอ็นดู
และนั่นคือการพบปะกันครั้งแรกระหว่าง‘บิบเบิ้ล’ และเอลินา บิบเบิ้ลตามติดเธอไปทุกที่นับจากนั้น ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนซี้กันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจรู้ได้ แม้แรกเริ่มจะคุยกับเอลินาไม่ค่อยเข้าใจ แต่เอลินาฟังบิบเบิ้ลเสมอ ฟังจนรู้ภาษาของบิบเบิ้ล มีเพียงเธอคนเดียวที่เข้าใจบิบเบิ้ล
บิบเบิ้ลเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใช้คำว่าน่ารักได้สิ้นเปลือง ชอบกินลูกกวาดเป็นชีวิตจิตใจ บ่อยครั้งที่แอบอมไว้ในแก้มไม่ยอมเคี้ยว และเขาก็เป็นเพื่อนตัวเล็กที่ขี้กลัว มักร้องเสียงหลงทุกครั้งที่เจออันตราย “บลิบปี้บลู๊บ! บิ๊บบุ้บบิ๊บ” อย่างเช่นแบบนี้ ถึงอย่างนั้น บิบเบิ้ลก็มีความกล้าหาญนะ เขาพยายามปกป้องเอลินาในวิธีของตัวเอง ไม่ว่าในยามออกผจญภัยในแดนนางฟ้า หรือแดนนางเงือกที่แสนอันตรายก็ตาม ทั้งยังทำให้เอลินายิ้มได้ในวันมืดหม่น
บิบเบิ้ลน่ารักใช่ไหม
และนี่คือเรื่องราวเพียงเล็กน้อยจากภาพยนตร์แอนิเมชัน ‘Barbie Fairytopia’
โลกบาร์บี้คือฝันละมุน
เราจะบินไปทุกที่ที่อยากไป
กลางทศวรรษ 1950 ในประเทศสหรัฐอเมริกา ลึกเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งของครอบครัวเจ้าของธุรกิจของเล่น ‘Mattel’
‘รูธ แฮนด์เลอร์’ และ ‘เอลเลียต แฮนด์เลอร์’ คู่รักที่มีลูกสาวตัวน้อยชื่อ ‘บาร์บาร่า’ และ ‘เคน’ ผู้เป็นลูกชาย บาร์บาร่าชอบเล่นตุ๊กตากระดาษ เรียกได้ว่าหลงใหลเลยทีเดียว เธอคอยสวมบทบาท เลียนเสียงสลับกับเพื่อน เปลี่ยนชุดเดรสให้ตุ๊กตาด้วยสีละลานตา
จนวันหนึ่งที่รูธเฝ้ามองบาร์บาร่า เธอพลันคิดในใจว่าหากมีตุ๊กตาที่ทำให้ลูกได้ฝัน และเรียนรู้ถึงการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ก็คงดีไม่น้อย เรียนรู้ให้มากกว่าการเล่นเป็นแม่ เพราะลูกชายของเธอยังมีปืนของเล่น หรือไม่ก็หุ่นตัวละครที่ทำให้เขาจินตนาการกว้างไกล กว้างไกลกว่าเพศหญิงในยุคนั้นที่ยังคงตกอยู่ใต้วัฏจักรการทำงานบ้าน วนอ่างเลี้ยงลูก ไร้ชีวิตอิสระของตัวเอง
และเหมือนโชคจะเข้าข้าง เมื่อรูธหลือบเห็นตุ๊กตา ‘บิลด์ ลิลลี่’ ขณะไปพักร้อนที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ลิลลี่มีรูปร่างผอมเพรียว ผมบลอนด์ ยืนยิ้มร่าบนรองเท้าส้นสูง ถูกถอดแบบมาจากการ์ตูนล้อเลียนบนหน้าหนังสือพิมพ์ ‘Bild-Zeitung’ ทว่าตุ๊กตาตัวนี้ไม่ได้ผลิตมาเพื่อเด็ก แต่สำหรับผู้ใหญ่
รูธไม่รอช้า เธอผสานแรงบันดาลใจจากตุ๊กตาลิลลี่ยื่นเสนอฝ่ายพัฒนาของเล่นทันที และในปี 1959 ตุ๊กตาบาร์บี้ตัวแรกก็ถือกำเนิดขึ้นที่งาน American Toy Fair ในนิวยอร์ก จากการเปิดตัวในคราวนั้น มาพร้อมกับการ์ตูนสั้นฉายเพื่อโฆษณาบนจอโทรทัศน์ เหล่าบาร์บี้ถูกวาดให้มีบ้าน เพื่อน รถ ทั้งชีวิตในฝัน ก่อนจะเข้าสู่ปี 2001 ที่นับเป็นก้าวแรกของจักรวาลบาร์บี้ ด้วยภาพยนตร์ ‘Barbie in the Nutcracker’
กางปีกใหญ่เข้าไว้
กล้าหาญเข้าไว้
ในหอคอยสูงกลางป่าลึก สาวน้อยวัยเบ่งบานนาม ‘ราพันเซล’ ผมของเธอยาวสลวย ยาวจนลากพื้นเหมือนสายไหมสีทองอ่อนนุ่ม หากย่างเท้าออกไปข้างนอกยามใด ใครก็คงว่าเธอเปล่งประกายเป็นที่สุด ใครก็คงอยากนำกลีบเล็กจิ๋วมาประดับให้เส้นผมนั้นกลายเป็นทุ่งดอกไม้ หรือไม่ก็คงอยากขอสัมผัสสักครั้งหนึ่งว่าสายไหมนี้จะบางเบาราวก้อนเมฆหรือเปล่า น่าเสียดาย ไม่เคยมีใครได้พบเห็นราพันเซล เพราะเธออาศัยอยู่ในหอคอยสูงกลางป่าลึก จะพูดให้ถูกกว่านั้น เธอถูกแม่มดใจร้าย ‘กอเธล’ กักขังไว้ต่างหาก
อาจเป็นโชคดีที่ราพันเซลไม่โดดเดี่ยวมากนัก เพราะเธอมีเพื่อนซี้ตัวเล็กตัวใหญ่อย่างมังกรสาวน้อย ‘เพเนโลปี’ เกล็ดบนร่างกายพร่างพรายด้วยสีม่วงอมชมพู ตากลมโตดูสุกใส เมื่อจ้องมองเข้าไปคงจะรู้ได้ไม่ยากว่าเธอขี้กลัว ทั้งไม่กล้ากางปีกใหญ่จากที่สูง หากต้องพ่นไฟก็มักทำหน้าเหวอพลันส่ายหัว ราวจะบอกเป็นนัยๆ ว่าฉันทำไม่ได้หรอก
และแล้ววันหนึ่ง จานสีเปรอะเปื้อน พู่กันเรียงรายในห้องของราพันเซลถูกต้องมนต์บางอย่าง ยามเธอกรายมือวาดกระดาน ภาพเหล่านั้นเป็นความจริงขึ้นมา จริงกระทั่งเธอก้าวเท้าเข้าไปในที่แห่งนั้นได้ มือที่มีเล็บใหญ่ๆ ของเพเนโลปีจับกับมือเล็กของราพันเซล ทั้งสองได้ออกผจญภัยไปทุกที่ที่อยากจะไปโดยที่กอเธลไม่เคยล่วงรู้ แต่เมื่อความลับเกิดแตกโพละ กอเธลเดือดดาลสาปให้หอคอยถูกบดบัง ทิ้งให้รกร้าง ล้อมรอบด้วยเถาวัลย์ ไม่ว่าใครก็ไม่อาจค้นพบมันได้อีก พู่กันวิเศษของราพันเซลแตกหัก เธอกลายเป็นสาวผมทองนิรนาม ชื่อกลืนหายไปจากโลกใบนี้
แต่อาจเป็นโชคดีอีกครั้งที่ราพันเซลมีเพเนโลปีอยู่ข้างกาย และเพเนโลปีคงคิดไม่ต่างกัน
“ถ้าเธอไม่เชื่อว่าตัวเองกล้า อย่างน้อยก็เชื่อในตัวฉันได้ไหม เพเนโลปี เธอทำได้แน่ ฉันรู้ว่าเธอทำได้”
เพเนโลปีสูดหายใจลึก บินขึ้นสูง พ่นไฟออกมาเป็นครั้งแรกในชีวิต ราพันเซลไม่ได้ถูกกักขังอยู่ในหอคอยอีกแล้ว ใช่ว่าเป็นเพราะมีเจ้าชายปีนขึ้นหน้าต่างอย่างที่เราเคยเห็น บาร์บี้สร้างจินตนาการที่ต่างออกไปถึงเพื่อนในเวทมนตร์ เพื่อนที่ทำให้เราเชื่อในตัวเอง เพื่อนที่เป็นอีกรักหนึ่งอันแสนหวาน และเพื่อนที่เราเลือกเอง
นี่คือเรื่องราวจาก ‘Barbie as Rapunzel’
บนความเป็นไปไม่ได้ในโลกแห่งความจริง ‘บาร์บี้’ ทำให้วัยเยาว์ของเราได้รู้ว่าอาจยังมีความเป็นไปได้ แม้จะมีความหวังไม่มากนักแต่ก็ยังมี บ่อยครั้งเรามักเห็นบาร์บี้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ถึงเธอจะสง่างาม เป็นหญิงสาวในอุดมคติของสังคม ทว่ากลับไร้สุข ด้วยความปรารถนาในตัวเองที่อยากจะเป็นอย่างใจนึกอยาก ไม่ใช่อย่างที่ใครคาดหวังว่าเธอควรเป็นเจ้าหญิงแสนสวยนั่งบนบัลลังก์
เธออยากเป็นนักบัลเลต์ นักร้อง ศิลปินวาดภาพ นักกีฬาโต้คลื่น หรือไม่ก็นักสืบ แต่เธออาจไม่เก็บกระเป๋าออกเดินทาง หากไม่มีเพื่อนตัวน้อยที่คอยกระซิบให้เธอกล้าหาญ หากไม่มีเพื่อนตัวน้อยที่คอยเชื่อในเธอ ในวันที่เธอไม่เชื่อในตัวเองเอาเสียเลย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโลกเวทมนตร์ของบาร์บี้ที่รูธ แฮนด์เลอร์สร้างขึ้น ทำให้วัยเยาว์ของเราน่าจดจำ ดูเหมือนว่ามันจะยังมีสีสดใสไม่เคยซีดจาง เรายังพบเด็กน้อยในตัวเราได้เสมอจากภาพยนตร์เก่า ของเล่นชิ้นเก่า สถานที่เก่าที่เคยวิ่งเล่น ไม่เชื่อลองกลับไปดูบาร์บี้อีกสักครั้งสิ หากอยากคุยกับเด็กน้อยคนนั้น เขาอาจไกวชิงช้ารอเราอยู่ที่ซอกหนึ่งของความทรงจำก็ได้นะ