โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ประวัติไม้ยมก (ๆ) เส้นทาง 600 ปี ของเครื่องหมายคำซ้ำในภาษาไทย

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ร่องรอยของไม้ยมก (ๆ) พบมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยแล้ว ก่อนจะมีพัฒนาการเรื่อยมาจนอยู่ในรูปแบบที่เราเห็นในปัจจุบัน ไม้ยมกมาจากไหน เป็นมายังไง ? นี่คือประวัติไม้ยมก (ฉบับย่อ)

ก่อนอื่น คำว่า ยมกเป็นคำมคธ-สันสกฤต แปลว่า สอง หรือ คู่ เราพบคำเดียวกันนี้อยู่ในคัมภีร์พุทธศาสนาตอนที่พระพุทธเจ้าทรงทำ “ยมกปาฏิหาริย์” คือปาฏิหาริย์คู่ โดยพระองค์ทรงบันดาลให้ท่อน้ำกับท่อไฟพุ่งออกจากพระวรกายพร้อมกัน

อักษรไทยที่ใช้ในสมัยพ่อขุนรามคำแหงยังไม่มีไม้ยมก คำไหนพูดซ้ำ ก็เขียนคำเดิมนั้นซ้ำไปเลย ดังใน จารึกพ่อขุนรามคำแหง(จารึกหลักที่ 1) ว่า “เมื่อชั่วพ่อกูกูพร่ำบำเรอแก่พ่อกู กูบำเรอแก่แม่กู”

กระทั่งถึงสมัย จารึกวัดศรีชุม(จารึกหลักที่ 2) จึงปรากฏเครื่องหมายคล้ายเลข 2 ไทย (๒) ที่หมายถึง ซ้ำแต่เป็นเครื่องหมายคล้ายเครื่องหมายถูกหรือไม้หันอากาศไม่มีหัว อยู่บนตัวอักษร เช่น วงั, ญงัฯลฯ ออกเสียงว่า วัง, ยังตามลำดับ ซึ่งแต่เดิม (จารึกพ่อขุนรามฯ) คำเดียวกันจะเขียนว่า วงง, ญงงกล่าวคือ เขียนตัวหลังซ้อนกัน เพื่อเป็นตัวสะกดของพยัญชนะต้นกับเสียง อะ

บทบาทของสัญลักษณ์ข้างต้นในจารึกวัดศรีชุม จึงมีหน้าที่เหมือนไม้ยมก

เครื่องหมายดังกล่าวปรากฏอยู่ในจารึกวัดศรีชุม 14 คำ แม้จะเป็นจารึกที่ไม่ระบุศักราช แต่สันนิษฐานกันว่า ผู้แต่งจารึกหลักนี้คือ มหาเถรศรีศรัทธาสร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 1884-1910 ห่างจากจารึกพ่อขุนรามคำแหง (สร้าง พ.ศ. 1826) ราว ๆ 60-80 ปี

จะเห็นว่า ไม้ยมกยุคแรกเป็นเครื่องหมายอักษรซ้อน หรือแทนตัวอักษร 2 ตัวเท่านั้น ไม่ใช่คำซ้ำ

ต่อมาจึงมีผู้ประดิษฐ์ไม้ยมกอีกรูปแบบขึ้น คือเขียนเป็นเลข 2 ไทย (๒) แบบเก่า ซึ่งใช้กันมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยเรื่อยมาถึงอยุธยา เป็น “๒” ที่หางไม่ได้ตวัดหักยกขึ้นอย่างในปัจจุบัน แต่ลากลงไปอีกบรรทัด เลข 2 แบบโบราณนี้จะเขียนท้ายคำที่กล่าวซ้ำ หรือกล่าว 2 หน ปรากฏอยู่ใน จารึกวัดเขมา หรือจารึกสุโขทัยหลักที่ 14 ดังว่า

“อีบุนรักลูกธรรมบุตรผ้าขาวเทพแลอำแดงยอด มีสรธาแลไว้บริบัดพระเจ้าส่งบุญไปแก่เผือ ส่วนกูไส้ปรารถนาโพธิสมภาร เมื่อใดแลกูไปมิถึงแก่โพธิสมภาร แลกูเกิดมาชาติใด ๆก็ดี ขอกูมีปรีชญาและสมบัดิเกิดมาแก่กูทุก ๆกำเนิด…”

จารึกวัดเขมาสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2079 ซึ่งเป็นช่วงเวลาทับซ้อนกับสมัยอยุธยาแล้ว (พระเจ้าอู่ทองสร้างอยุธยา พ.ศ. 1893)

ส่วนการใช้ไม้ยมกในอยุธยาก็มีพบร่องรอยอยู่บ้าง เช่น บันทึกรายวันของโกษาปานสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. 2199-2231) ความว่า “แลผ้าห่มนอนสองชั้น ๆหนึ่ง ผ้าฉีดสุรัดลายเพดานใส่สำลี”

อย่างไรก็ตาม คนยุคอยุธยาคงไม่ได้เคร่งครัดเรื่องการใช้ไม้ยมกมากนัก จึงยังพบการเขียนคำซ้ำอยู่เพื่อความสวยงามทางวรรณศิลป์ ดังปรากฏใน “กาพย์เห่เรือ” ของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศ ดังนี้

เรื่อยเรื่อยมารอนรอนพิพากรจะตกต่ำ

สนธยาจะใกล้ค่ำ รำพึงหน้าเจ้าตราตรู

เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียงนกบินเฉียงไปทั้งหมู่

ตัวเดียวมาพลัดคู่ เหมือนพี่อยู่ผู้เดียวดาย”

นอกจากนี้ ใน “จินดามณี” ตำราอักษรศาสตร์สมัยอยุธยายังไม่พบการใช้ไม้ยมก หรือในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น วรรณคดีสำคัญ 2 เรื่องอย่าง “นิราศนรินทร์” และ “นิราศลำน้ำน้อย” ก็ไม่มีไม้ยมกเช่นกัน

ไม้ยมกสมัยรัตนโกสินทร์มาปรากฏอีกครั้งอยู่ท้ายตำรา “พิศาลการันต์”ชุดมูลบทบรรพกิจ ของ พระยาศรีสุนทรโวหาร(น้อย อาจารยางกูร, พ.ศ. 2365-2434) ซึ่งมีชีวิตอยู่ปลายรัชกาลที่ 2 ถึงรัชกาลที่ 5

ตำราดังกล่าวเป็นหนังสือสอนภาษาไทย ว่าด้วยการใช้เครื่องหมายทัณฑฆาต (์) แต่ในตัวอย่างคำที่ใช้ไม้ตรี (๊) ได้ปรากฏคำที่ใช้ไม้ยมก คือ “ไก่ร้องกุ๊ก ๆ, เป็ดร้องก๊าบ ๆ, จิ้งตกทักจ๊ก ๆ, หนูร้องจิ๊ด ๆ, นกร้องจิ๊ก ๆ”รวมถึงโคลงนำบทด้วย ดังว่า

“อักษรบ่อนนี้ชื่อ การันต์

คือบอกตัวสำคัญ เพิ่มท้าย

หากเติมเพื่อเพ็ญผัน ตามพากย์

เปลี่ยน ๆ เวียนยักย้าย ย้อมสร้อยเศศเสริม”

เรียกได้ว่าทั้งเลข ๒ กับไม้ยมกในสมัยสุโขทัย อยุธยา เรื่อยมาถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ล้วนเขียนแบบเดียวกันหรือคล้ายกันมาก ๆ คือหางตกและตวัดซ้ายอยู่ใต้บรรทัด

กระทั่งมาถึงยุคที่ต้องกลายเป็นตัวพิมพ์ ตัวอักษรแต่ละตัวต้องอยู่ในฐานของตัวเอง จะยื่นล้ำมาบรรทัดของตัวอื่นไม่ได้ หางของเลขสองที่เคยตวัดลงมาใต้ตัวอักษร จึงถูกปรับให้ยื่นกลับขึ้นไป ส่วนไม้ยมกก็ถูกปรับให้ยื่นลงมาตรง ๆ ดังที่เห็นกันในปัจจุบัน

ไม้ยมก (ๆ) ก็คือเลข ๒ ที่หางเหยียดตรงลงเพื่อให้เหมาะสมกับการเป็นตัวพิมพ์ หรืออีกนัยหนึ่งก็เพื่อความแตกต่างหรือป้องกันความสับสนกับเลข ๒ (จริง ๆ) นั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

อ้างอิง :

ภาษิต จิตภาษา. ไม้ยมก ๓ สมัย. นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2540.

ณัฐฐวรรณ ชั่งใจ. พัฒนาการของการซ้ำที่ใช้เครื่องหมายไม้ยมก (ๆ) ในภาษาไทย.วารสารรามคำแหง ฉบับมนุษยศาสตร์ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2.

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 18 สิงหาคม 2568

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ประวัติไม้ยมก (ๆ) เส้นทาง 600 ปี ของเครื่องหมายคำซ้ำในภาษาไทย

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ศิลปวัฒนธรรม

รัชกาลที่ 2 รับสั่งจำคุกพระราชาคณะ 3 รูป ที่ทำผิด “เมถุนปาราชิก”

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

'เศรษฐี' ในพระไตรปิฎก ความร่ำรวยที่อุปถัมภ์พระพุทธศาสนา

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

‘Creative Spark’ จุดประกายความคิดสร้างสรรค์จากผู้เชี่ยวชาญระดับแถวหน้าสู่ครีเอทิฟรุ่นใหม่

a day magazine

ตาม หมอธรรม ไปรู้จัก ผีอีสาน กับวิถีพุทธผีที่ยังคงฝังรากลึกในลุ่มน้ำโขง

Sarakadee Lite

ทำไมคนบนโลกออนไลน์ถึงโหดร้ายกว่าโลกจริง

Thairath Plus - ไทยรัฐพลัส

พี่ชายคนนี้ ลองเปลี่ยน ชีวิตตัวเอง ออกกำลังกาย แบบไซตามะ วิดพื้น 100 ซิตอัป 100 สควอต 100 วิ่ง 10 กิโลฯ ติดต่อกัน 1,000 วัน

CatDumb

วัดโคกขาม กราบหลวงพ่อสัมฤทธิ์ สัมผัสพลังศรัทธาข้ามกาลเวลา

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

CORTIS บอยกรุ๊ปใหม่ของ Big Hit Music เดบิวต์อย่างเป็นทางการกับซิงเกิล What You Want

THE STANDARD

‘คิดอย่างหมอยา ทำอย่างครีเอทีฟ’ วิธีที่ Chum Chum เสิร์ฟสมุนไพรแบบใหม่ให้คนกลับมาดื่มซ้ำ

Capital

Jin วง BTS ขึ้นแคมเปญล่าสุดของ FRED สำหรับไลน์เครื่องประดับ Force 10

THE STANDARD

ข่าวและบทความยอดนิยม

รัชกาลที่ 2 รับสั่งจำพระราชาคณะ 3 รูป ที่ทำผิด “เมถุนปาราชิก”

ศิลปวัฒนธรรม

ประวัติไม้ยมก (ๆ) เส้นทาง 600 ปี ของเครื่องหมายคำซ้ำในภาษาไทย

ศิลปวัฒนธรรม

'เศรษฐี' ในพระไตรปิฎก ความร่ำรวยที่อุปถัมภ์พระพุทธศาสนา

ศิลปวัฒนธรรม
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...