SET ปิดส่งท้ายสัปดาห์ยืนเหนือ 1,250 จุดสำเร็จ! จับตาพาวเวล-การเมืองป่วน
ความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายวันนี้ (22 ส.ค.68) อยู่ที่ 1,253.39 จุด เพิ่มขึ้น 8.60 จุด คิดเป็น +0.69% มูลค่าการซื้อขาย 37,999.28 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,257.99 จุด ลดลงต่ำสุด 1,245.30 จุด
ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หุ้นไทยปิดพุ่ง 8.60 จุด นักลงทุนยังสลับเก็งกำไรเฉพาะหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว โดยมี Sector ปรับขึ้นหนุนดัชนี คือ กลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, HANA, KCE) กลุ่มสายการบิน (THAI), และกลุ่ม ICT (ADVANC, TRUE) ส่วน Sector ที่ปรับลง คือ กลุ่มปิโตรฯ (PTTGC, IVL)
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ DELTA, HANA, KCE ราคาเด้งรับสหรัฐบรรลุดีลภาษีกับสหภาพยุโรปกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรปไว้ที่ระดับ 15% จากเดิมขู่จะขึ้นเป็น 30% สำหรับ Auto และ 100% สำหรับกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ เป็นจิตวิทยาบวกโดยตรงต่อกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กฯ
ผสานกับวานนี้ HANA มี Analyst meeting โทนเป็นบวกโดยเฉพาะไลน์ธุรกิจเกี่ยวกับ AI Part จะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปลายปีนี้
GULF ควงคู่ GUNKUL ปรับขึ้นรับมติ กพช. ประกาศอนุมัติให้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมทั้งหมดที่ยังไม่ได้เซ็น PPA จากรอบการประมูลในเฟส 1 และ 2 เป็นบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีส่วนโรงไฟฟ้าเป็นพลังงานลม คือ GULF 528MW, และ GUNKUL 284MW
THAI ราคาพุ่ง ประเมินการฟื้นตัวในเชิง Technical Rebound หลังจากที่ดัชนีร่วงแรง -38% ในช่วง 5 วันก่อนหน้า ในเชิงปัจจัยพื้นฐานนักวิเคราะห์คงคำแนะนำขาย ราคาเป้าหมาย 7.65 บาท ส่วนคำแนะนำในเชิงกลยุทธ์หากราคายังไม่สามารถกลับไปยืนเหนือระดับ 13 บาท (ค่าเฉลี่ย 10 วัน) ยังแนะนำให้ระมัดระวังการลงทุนเก็งกำไรเมื่อยืนเหนือ 13 บาทเท่านั้น
PTTGC, IVL, SCC เกิดแรงขายทำกำไรหลังจากราคาหุ้นพุ่งแรงรับธีม Anti Involution จีน และเกาหลีใต้ คุมกำลังการผลิตส่วนเกินไปแล้ว โดย WTD หุ้น PTTGC บวก 18.9%, IVL บวก 5.6% และ SCC บวก 12.4% เทียบกับ SET ลดลง -0.4%
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส ระบุว่า คืนนี้เวลา 21.00 น. ตามเวลาไทย ติดตามพาวเวล กล่าวสุนทรพจน์เล็งว่าจะส่งสัญญาณเพิ่มจำนวนครั้งการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากเดือน ก.ย. อีกหรือไม่ โดย FED Watch Tool ให้น้ำหนักเหลือเพียง 75.3% (ลดลงจากสัปดาห์ก่อนที่ 92.1%) ที่ FED จะลดดอกเบี้ย 25 bps. ในเดือน ก.ย. แตะ 4.25% และมุมมองต่อเศรษฐกิจจะเสี่ยงเผชิญ Stagflation เงินเฟ้อสูง เป้าของ FED คือ 2% แต่เศรษฐกิจชะลอ?
ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้คู่กรณียื่นแถลงปิดคดีภายใน 25 ส.ค.68 เดิม 27 ส.ค.68 เพื่อให้ตุลาการมีเวลาทำความเห็นส่วนตน หากไม่ยื่นภายในกำหนดให้ถือว่าไม่ติดใจจะยื่น ก่อนนัดวินิจฉัย 29 ส.ค.68 เวลา 15.00 น. โดยมีสองฉากทัศน์จากนี้ 1. นายกฯ ไม่รอด ศาลวินิจฉัยให้สิ้นสุดความเป็น รมว. และพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ทันทีสภาโหวตเหลือนายกฯใหม่
2.นายกฯ รอด ศาลวินิจฉัยว่าไม่สิ้นสุด และสามารถดำรงตำแหน่งต่อได้แต่จะเจอสภาพการบริหารประเทศด้วยเสียงปริ่มน้ำในสภาฯแรงกดดันจากม๊อป กรณีอื่น(น้ำหนักน้อย)คือ นายกฯ ลาออก ศาลจะพิจารณาสั่งจำหน่ายคดีก็ได้ เว้นแต่การพิจารณาคดีต่อไป จะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ศาลอาจไม่จำหน่ายคดี
ล่าสุดทักษิณ พ้นผิดคดี ม.112 - พ.ร.บ.คอมฯ โดยศาลอาญายกฟ้อง ปมให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีเมื่อปี 58 แต่ 9 ก.ย.68 คดีนอนชั้น 14 ยังเสี่ยง หากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งออกมาไม่เป็นคุณต่อทักษิณ อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล โดยเฉพาะหากมีการเปลี่ยนแปลงในพรรคเพื่อไทยหรือพันธมิตรทางการเมือง อาจนำมาสู่การยุบพรรค และยุบสภาตามมาได้ คาดดัชยีหุ้นไทยแกว่งช่วง 1,243-1,264 จุด