นโยบายภาษีทรัมป์ยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นสหรัฐปิดในแดนลบ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดในแดนลบเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรต่อผลประกอบการของบริษัทและแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวม โดยมีรายงานว่าหลายบริษัทรวมถึง Yum Brands ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ KFC ได้กล่าวถึงภาระภาษีดังกล่าวว่าเป็นปัจจัยลบต่อผลการดำเนินงาน
บริษัท Yum Brands รายงานผลประกอบการไตรมาสสองต่ำกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้หุ้นปรับตัวลดลงถึง 5.1% โดยบริษัทระบุว่าภาระภาษีการค้าส่งผลให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยังเผยว่าขาดดุลการค้าในเดือนมิถุนายนลดลงจากการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคที่ลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดดุลการค้ากับจีนลดลงสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบกว่า 21 ปี
ในภาคบริการ ดัชนีแสดงกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคมชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด โดยธุรกิจต่างๆ ให้เหตุผลว่าภาษีนำเข้าใหม่ส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดในแดนลบ
• ดัชนี Dow Jones Industrial Average ลดลง 61.90 จุด หรือ 0.14% ปิดที่ 44,111.74 จุด
• ดัชนี S&P 500 ลดลง 30.75 จุด หรือ 0.49% ปิดที่ 6,299.19 จุด
• ดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 137.03 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 20,916.55 จุด
ราคาน้ำมันลดลงท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มโอเปกพลัส และอุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนแอลง รวมถึงความไม่แน่นอนจากถ้อยแถลงของทรัมป์เกี่ยวกับอินเดียและการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
• น้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 1.12 ดอลลาร์ หรือ 1.63% ปิดที่ 67.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
• น้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ ลดลง 1.13 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 65.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
โดยทั้งสองประเภทปรับลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบห้าสัปดาห์
ในขณะเดียวกัน ราคาทองคำปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบสองสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อาจถูกปรับลดในระยะใกล้ ขณะรอการตัดสินใจแต่งตั้งกรรมการเฟดจากทรัมป์
• ราคาทองสปอตเพิ่มขึ้น 0.2% มาอยู่ที่ 3,380.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• สัญญาทองคำล่วงหน้าสหรัฐฯ ปิดเพิ่มขึ้น 0.2% ที่ 3,434.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์