BAFS ครึ่งปีแรกกำไรพุ่ง 199.4 ล้าน รับอานิสงส์การบิน-ขนส่งน้ำมันฟื้น
ม.ล. ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน BAFS Group ในไตรมาส 2 ของปี 2568 มีกำไรสุทธิ จำนวน 56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น29% และมีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ด้วยรายได้รวม876.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบิน ปริมาณขนส่งน้ำมันทางท่อที่เพิ่มขึ้น และการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รองรับภาวะเศรษฐกิจที่มีความท้าทายรอบด้าน ขณะที่ EBITDA มีจำนวน 422.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกในปี 2568 ของ BAFS Group มีกำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทจำนวน199.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 9% ตามการฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจ Aviation และการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจ Utilities โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,843.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ EBITDA เติบโต 9% มาอยู่ที่ 944.4 ล้านบาท
ทั้งนี้สถานการณ์ภาคท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีในช่วงที่ผ่านมา กำลังเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ส่งผลให้ภาพรวมภาคการท่องเที่ยวครึ่งแรกของปี 2568 ชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่ยังคงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันอากาศยานยังอยู่ในระดับที่เอื้อต่อธุรกิจของกลุ่มบริษัททำให้การดำเนินการของ BAFS Group ยังคงเติบโตและมีกำไรอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลของผลการดำเนินงานงวดหกเดือนแรกของปี 2568 ในอัตราหุ้นละ 0.11 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 29 ส.ค. 2568 และให้กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 11 ก.ย. 2568
กลุ่มธุรกิจAviation ในช่วงครึ่งปีแรกมีการฟื้นตัวด้วยอัตราที่ชะลอลงเล็กน้อย โดยมีปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานอยู่ที่ 2,679 ล้านลิตร จากเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 5,400 ล้านลิตร ซึ่งสอดคล้องกับการชะลอตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แต่ในภาพรวมพบว่าการเดินทางทางอากาศยังคงมีเสถียรภาพ เนื่องจากสายการบินยังคงรักษาจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศได้ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน และแม้ว่าปริมาณการเติมน้ำมันของจีนจะลดลงเล็กน้อย
แต่ในทางกลับกันจำนวนเที่ยวบินจากอินเดียแสดงสัญญาณการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยมีปริมาณการเติมน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักคือการขยายเส้นทางบินตรงระหว่างเมืองรองของอินเดียกับประเทศไทย นอกจากนี้ เส้นทางการบินอื่นๆ รวมถึงเส้นทางบินภายในประเทศยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนภาพรวมของธุรกิจเติมน้ำมันอากาศยานได้
กลุ่มธุรกิจUtilities มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการทำการตลาดเชิงรุก โดยในครึ่งปีแรกมีปริมาณขนส่งน้ำมันอยู่ที่ 704 ล้านลิตร เติบโตขึ้นถึง 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 55% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปีที่ 1,290 ล้านลิตรนอกจากนี้ โครงการเชื่อมต่อระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือระยะที่ 3 (อ่างทอง-สระบุรี) ในปัจจุบันมีความคืบหน้าของการก่อสร้างโครงการราว 32% มั่นใจเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2569
ขณะที่กลุ่มธุรกิจPower ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด บจ. บาฟส์ คลีน เอนเนอร์ยี่คอร์เปอเรชั่น ได้ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) กำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 0.9 เมกะวัตต์แล้วเสร็จ โดยเริ่มเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ (COD) และทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ BAFS ได้ดำเนินโครงการยกระดับการให้บริการระบบเติมน้ำมันอากาศยานเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ด้วยความสามารถในการจัดเก็บข้อมูล เชื่อมโยงและวิเคราะห์ข้อมูลแบบอัตโนมัติในรูปแบบ Real-time สนับสนุนระบบการเติมน้ำมันให้มีความรวดเร็ว แม่นยำ ปลอดภัย ลดความผิดพลาด และเพิ่มความโปร่งใสในการตรวจสอบข้อมูล โดยการนำระบบ IRIS (Intelligent Refuelling Information System) หรือระบบจัดการเติมน้ำมันอัจฉริยะเข้าสู่กระบวนการปฏิบัติงานจริง (Go live) ในไตรมาสที่ผ่านมา
“ความสำเร็จของระบบ IRIS สะท้อนถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของ BAFS ในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ทันสมัย แข็งแกร่งด้านมาตรฐานการบริการ และสอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน” ม.ล. ณัฐสิทธิ์กล่าว