เช็ก 30 รายชื่อผู้ให้บริการขอประวัติจ่ายค่าน้ำไฟ นำไปขอสินเชื่อ
นางสาววิภาวิน พรหมบุญ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ร่วมกับ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง และ การประปาส่วนภูมิภาค เปิดตัว “บริการขอประวัติการใช้และชำระค่าน้ำ – ค่าไฟ” ผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ เพื่อใช้ประกอบการสมัครขอสินเชื่อ ภายใต้โครงการ Your Data ที่สนับสนุนให้ประชาชนใช้สิทธิส่งข้อมูลของตนผ่านช่องทางดิจิทัลเพื่อได้รับบริการที่ตอบโจทย์มากขึ้น
บริการดังกล่าวมุ่งพัฒนาบริการให้กับประชาชนที่มีชื่อในทะเบียนผู้ใช้น้ำ-ไฟ (คู่สัญญา) สามารถขอประวัติการใช้และชำระค่าน้ำ-ค่าไฟของตนเองบนแอปพลิเคชันทางรัฐ ได้สะดวก ปลอดภัย และไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับนำไปยื่นประกอบการสมัครขอสินเชื่อกับผู้ให้บริการทางการเงิน ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีรายได้ประจำ
นอกจากนี้ ผู้ให้บริการสินเชื่อที่ได้รับข้อมูลประวัติดังกล่าวจากประชาชนสามารถนำข้อมูลไปประมวลผลได้โดยอัตโนมัติ (machine - readable) มีการรับรองด้วยลายมือชื่อดิจิทัล (digital signature) และตรวจสอบได้ว่าข้อมูลไม่ถูกปลอมแปลงแก้ไข ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการให้บริการทางการเงินแก่ประชาชนโดยรวม
ธปท. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนจะได้รับประโยชน์จากข้อมูลประวัติการใช้และชำระค่าน้ำ-ค่าไฟ และในอนาคตจะสามารถต่อยอดไปใช้กับบริการทางการเงินอื่น ๆ ได้ต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเรียกดู และดาวน์โหลดเอกสารดังกล่าว และนำไปยื่นเพื่อประกอบการสมัครขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.2568 เป็นต้นไป
สำหรับผู้ให้บริการสินเชื่อที่เข้าร่วมรับข้อมูลประวัติการประวัติการใช้และชำระค่าน้ำ – ค่าไฟ ที่พร้อมให้บริการในปี 2568 จำนวน 13 แห่ง และปี 2569 อีก 17 แห่ง รวม 30 แห่ง แบ่งเป็น ธนาคารพาณิชย์ 6 แห่ง สถาบันการเงินเฉพาะกิจ 2 แห่ง และผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-bank) 22 แห่ง
ขณะเดียวกัน ในระยะถัดไป ธปท.จะร่วมกับกรมสรรพากร และผู้ให้บริการทางการเงิน ในการให้บริการขอข้อมูลแบบการยื่นภาษี เพื่อนำไปประกอบการใช้บริการทางการเงินได้ คาดว่าจะให้บริการได้ภายในสิ้นปี 2568
ส่วนข้อมูลอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น ข้อมูลเงินฝาก ข้อมูลสินเชื่อ ข้อมูลการชำระเงิน ข้อมูลภาคประกัน และข้อมูลในตลาดทุน อาทิ ข้อมูลการมีหลักทรัพย์ โดย ธปท. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อยู่ระหว่างผลักดัน คาดว่าในปี 2569 จะเริ่มให้บริการส่งข้อมูลได้