‘วาติกัน’ รัฐแรกของโลกเป็นกลางทางคาร์บอน สร้างโซลาร์ฟาร์มผลิตไฟฟ้าใช้ในประเทศ
“นครรัฐวาติกัน” กลายเป็นรัฐแรกของโลกที่เป็นกลางทางคาร์บอน หลังจากอิตาลีได้ตกลงสร้างฟาร์มโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ ด้วยพื้นที่ 2,530 ไร่ ในซานตา มาเรีย ดิ กาเลเรีย ทางตอนเหนือของกรุงโรม สำหรับผลิตไฟฟ้าใช้ในวาติกัน โดยการพัฒนาพื้นที่ในครั้งนี้ยังจะช่วยอนุรักษ์การใช้ประโยชน์ที่ดินทางการเกษตร และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ตามแถลงการณ์ของวาติกัน
วาติกันจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าจากอิตาลีสำหรับแผงโซลาร์เซลล์ แต่จะไม่ได้รับการช่วยเหลือทางการเงินเหมือนกับชาวอิตาลี ที่รัฐใช้จูงใจให้หันมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ขณะที่อิตาลีจะสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการจัดทำบัญชี เพื่อบรรลุเป้าหมายพลังงานสะอาดของสหภาพยุโรปได้
สำหรับไฟฟ้าส่วนเกินที่ผลิตได้จากฟาร์มแห่งนี้จะถูกมอบให้กับชุมชนท้องถิ่น ตามข้อมูลเจ้าหน้าที่กล่าวโดยไม่เปิดเผยชื่อ เนื่องจากข้อตกลงนี้ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ
เจ้าหน้าที่วาติกันประเมินว่าการพัฒนาฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์แห่งนี้จะใช้งบประมาณไม่เกิน 114 ล้านดอลลาร์ และเมื่อได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาอิตาลีแล้ว สัญญาก่อสร้างดังกล่าวอาจถูกนำไปประมูล
อาร์ชบิชอปพอล กัลลาเกอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศวาติกัน ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกับฟรานเชสโก ดี นิตโต เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำนครรัฐวาติกัน รัฐสภาอิตาลีต้องอนุมัติข้อตกลงนี้ เนื่องจากข้อตกลงนี้มีผลกระทบต่อการเงินของดินแดนดังกล่าว ซึ่งมีสถานะนอกอาณาเขตในอิตาลี
ซานตา มาเรีย ดิ กาเลเรีย มีเสาอากาศวิทยุคลื่นสั้นและคลื่นกลางของวาติกัน 24 ต้นตั้งอยู่ เพื่อใช้สำหรับส่งสัญญาณข่าวสารจากคริสตจักรคาทอลิกเป็นภาษาต่าง ๆ มากมายทั่วโลก ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ประชาชนเริ่มบ่นถึงปัญหาสุขภาพ รวมถึงกรณีของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในเด็ก โดยพวกเขาโทษว่าเป็นเพราะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากหอส่งสัญญาณ
ในช่วงทศวรรษ 1990 ซึ่งเป็นช่วงที่ความขัดแย้งเกี่ยวกับเสาส่งสัญญาณวิทยุทวีความรุนแรงขึ้น ประชาชนได้ฟ้องร้องเจ้าหน้าที่วิทยุวาติกัน และอ้างว่าการปล่อยมลพิษเกินขีดจำกัดที่กฎหมายของอิตาลีกำหนดไว้ แต่ศาลได้ตัดสินให้เครื่องส่งสัญญาณพ้นผิด ในปี 2012
ทางด้านวาติกันประกาศว่าจะลดเวลาการส่งสัญญาณจากเสาส่งสัญญาณลงครึ่งหนึ่ง ไม่ใช่เพราะความกังวลด้านสุขภาพ แต่มาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดต้นทุนในการแพร่ภาพทางอินเทอร์เน็ต
ในปี 2024 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงขอให้วาติกันศึกษาการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ โดยหวังว่าจะนำคำสอนของพระองค์เกี่ยวกับความจำเป็นในการเปลี่ยนผ่านจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และแสวงหาแหล่งพลังงานสะอาดที่ปล่อยคาร์บอนเป็นกลางมาปฏิบัติจริง
สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 เสด็จเยือนพื้นที่ดังกล่าวในเดือนมิถุนายน และทรงยืนยันว่าพระองค์ทรงประสงค์ที่จะทรงทำให้วิสัยทัศน์ของฟรานซิสเป็นจริง ลีโอได้สืบทอดเจตนารมณ์ด้านนิเวศวิทยาของพระสันตะปาปาฟรานซิสอย่างแข็งขัน โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ใช้บทสวดมนต์และบทอ่านชุดใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกทางสิ่งแวดล้อมของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส