แรงงานกัมพูชาแห่กลับบ้านเกิดแต่ไร้งาน หวั่นต้องรีเทิร์นไทยเพราะไร้ทางเลือก
แม้สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาจะเริ่มคลี่คลายลง แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แรงงานกัมพูชาที่อาศัยและทำงานในประเทศไทย หลายหมื่นคน ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศ เพราะกังวลด้านความปลอดภัยและถูกเรียกให้กลับ
ตามรายงานของ Nikkei Asia เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงแรงงานไทยที่ระบุว่า ในช่วง 8 วันที่ผ่านมา มีแรงงานกัมพูชาอย่างน้อย 20,000 คน ที่เดินทางกลับบ้าน ขณะที่รัฐบาลกัมพูชาแจ้งตัวเลขแรงงานกลับประเทศสูงถึง 400,000 คน ซึ่งเป็นผลจากการเรียกร้องของผู้นำระดับสูงของกัมพูชา
ส่วนฝั่งนักวิเคราะห์ มองว่า เมื่อแรงงานกัมพูชากลับประเทศไป จะทำให้ไทยเจอปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในภาคแรงงาน เช่น การก่อสร้าง เกษตรกรรม และประมง ซึ่งหากไม่มีแรงงานกัมพูชาที่เคยเติมเต็มตลาด ไทยจะต้องเผชิญความท้าทายหนัก
เมื่อมาดูข้อมูลจากกรมการจัดหางานไทย ระบุว่า แรงงานข้ามชาติที่ขึ้นทะเบียนถูกกฎหมายในไทยมีประมาณ 3.8 ล้านคน แบ่งเป็นแรงงานเมียนมาราว 3.04 ล้านคน กัมพูชา 500,000 คน และลาวประมาณ 280,000 คน นอกจากแรงงานในระบบแล้วยังมีแรงงานผิดกฎหมายอีกจำนวนมาก
ด้าน ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย มองว่า ผลกระทบยังอยู่ในวงจำกัด เพราะแรงงานกัมพูชาส่วนใหญ่ที่ทำงานในกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียงยังไม่เดินทางกลับ อีกทั้งเศรษฐกิจไทยในช่วงนี้ยังไม่ได้ขยายตัวเร็ว ทำให้นายจ้างสามารถใช้แรงงานจากเมียนมาและลาวมาทดแทนได้
ขณะที่ ชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวต่อไปว่า แรงงานกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ยังไม่ต้องการทิ้งงาน จึงทำให้ธุรกิจส่งออกข้าวไทยยังดำเนินไปได้ตามปกติ
ถึงกระนั้น ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กและกลางในไทยกังวลและเรียกร้องให้รัฐบาลปรับนโยบายแรงงาน โดยเฉพาะการลดการพึ่งพาแรงงานข้ามชาติในระยะยาว โดยสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย เสนอให้รัฐบาลสนับสนุนการนำเข้าเครื่องจักรหรือหุ่นยนต์ เพื่อทดแทนแรงงานคน รวมถึงตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการในด้านนี้
ทั้งนี้ ในระยะสั้น กระทรวงแรงงานไทย กำลังเจรจากับรัฐบาลศรีลังกา เพื่อขอแรงงานศรีลังกาเข้ามาทำงานในไทยเป็นการชั่วคราว และคาดว่าจะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในเร็วๆ นี้ เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน
ด้านกัมพูชา นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้ในปี 2024 เศรษฐกิจประเทศเติบโต 6% แต่มีแนวโน้มชะลอตัวเหลือ 4.9% ในปีนี้ เนื่องจากพึ่งพาการส่งออกไปยังสหรัฐฯ เป็นหลัก และอาจไม่สามารถรองรับแรงงานที่กลับบ้านได้เพียงพอ อีกทั้งแรงงานเหล่านี้จะมีรายได้ลดลงถ้าเทียบกับทำงานในไทย
ทั้งนี้ องค์กรสิทธิมนุษยชนในกัมพูชา ยังเตือนว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และอาจยิ่งรุนแรงขึ้นจากสถานการณ์นี้ และยิ่งจะทำให้แรงงานกัมพูชาที่กลับบ้านจำนวนมากไม่สามารถหางานทำได้
ธาโร ขุน เจ้าหน้าที่โครงการ NGO ด้านสิทธิแรงงานในกัมพูชา ย้ำว่า แรงงานกัมพูชาที่กลับมาจากไทย อาจไม่สามารถหาอาชีพได้ในช่วงนี้ และบางส่วนอาจจำเป็นต้องกลับไปทำงานในไทยอีกครั้ง ขณะที่แรงงานกัมพูชารายหนึ่งที่เพิ่งกลับจากงานก่อสร้างในไทย บอกว่า ยังไม่แน่ใจว่าจะกลับไปทำงานที่ไทยอีกหรือไม่ และถ้าไม่ได้งานที่บ้านเกิดก็ไม่รู้ว่าจะหาที่ไหน
อ้างอิง: