มาสด้า 100 ปีแห่งปรัชญา "มนุษย์เป็นศูนย์กลาง" สู่ความสำเร็จระดับโลก

เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จากฮิโรชิม่าสู่เวทีโลก มาสด้าเผยเบื้องหลังความสำเร็จ 100 ปี ด้วยเทคโนโลยี SKYACTIV และ Jinba-Ittai สู่การเป็นแบรนด์ที่สร้างสรรค์ยานยนต์

ตลอดระยะเวลากว่าศตวรรษที่ผ่านมา มาสด้า แบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นจากเมืองฮิโรชิม่า ได้พิสูจน์ตัวเองถึงความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ที่ก้าวข้ามทุกความท้าทายในอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตจุกไม้ค็อกสู่แบรนด์รถยนต์ชั้นนำระดับโลก มาสด้าได้รังสรรค์นวัตกรรมและปรัชญาการออกแบบที่ไม่เพียงสร้างความสำเร็จทางธุรกิจ แต่ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างและเชื่อมโยงกับมนุษย์อย่างลึกซึ้ง

ปรัชญา "มนุษย์เป็นศูนย์กลาง"

ความสำเร็จของมาสด้าไม่ได้มาจากการสร้างรถยนต์เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจาก ปรัชญา "มนุษย์เป็นศูนย์กลาง" (Human-Centric) ที่ฝังรากลึกในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ สมรรถนะการขับขี่ ความนุ่มนวล การลดแรงสั่นสะเทือน ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงความรู้สึกถึงคุณภาพอันประณีต มาสด้าเชื่อว่ารถยนต์ที่ดีที่สุดคือรถที่ทำงานร่วมกับผู้ขับขี่ได้อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ดึงศักยภาพโดยธรรมชาติของมนุษย์ในการรักษาสมดุลออกมาได้อย่างเต็มที่

หัวใจสำคัญที่เชื่อมโยงผู้ขับขี่กับรถยนต์ของมาสด้าคือ ปรัชญา Jinba-Ittai หรือ "ความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างคนกับม้า" ซึ่งถูกถ่ายทอดสู่รถยนต์มาสด้าเจเนอเรชั่นใหม่ ทำให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้อย่างแม่นยำดั่งใจคิด เพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในทุกการเดินทาง

SKYACTIV Technology

เพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่เป็นธรรมชาติและทรงพลัง มาสด้าได้พัฒนาเทคโนโลยี SKYACTIV ที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก:

SKYACTIV-Vehicle Architecture โครงสร้างตัวถังและแชสซีส์ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับกลไกทางธรรมชาติของมนุษย์ ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างลื่นไหลและควบคุมได้ง่ายขึ้น
เครื่องยนต์ SKYACTIV-G (เบนซิน) โดดเด่นด้วยอัตราส่วนการอัดที่สูงที่สุดในโลก (14.0:1) มอบสมรรถนะที่ทรงพลัง ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เครื่องยนต์ SKYACTIV-D (คลีนดีเซล) พัฒนาให้ตอบสนองได้รวดเร็ว ประหยัดเชื้อเพลิง และปล่อยมลพิษต่ำ
เกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-Drive ตอบสนองฉับไว เปลี่ยนเกียร์ราบรื่น ให้ทั้งความสนุกในการขับขี่และประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน
โครงสร้างตัวถัง SKYACTIV-Body ผลิตจากเหล็กกล้า High Tensile Steel ที่น้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการควบคุม ลดแรงสั่นสะเทือน และกระจายแรงปะทะเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยว SKYACTIV-Chassis เกาะถนนมั่นคง ให้ความนุ่มนวล และแม่นยำในการเข้าโค้ง

นอกจากนี้ ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการควบคุมรถ ลดแรงเหวี่ยงขณะเข้าโค้ง ทำให้การขับขี่ราบรื่นและมั่นใจในทุกสภาพถนน พร้อมห้องโดยสารที่เงียบสงบ มอบความเพลิดเพลินและความสบายตลอดการเดินทาง

i-Activsense เทคโนโลยีความปลอดภัย

มาสด้าให้ความสำคัญกับความปลอดภัยอย่างสูงสุด ด้วยระบบความปลอดภัยแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทั้งเชิงป้องกันและเชิงปกป้อง:

ความปลอดภัยเชิงป้องกัน i-Activsense ชุดเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะที่ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ เช่น ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ระบบเตือนจุดอับสายตาALH (Adaptive LED Headlights) ไฟหน้า LED อัจฉริยะที่ปรับการทำงานอัตโนมัติ เพิ่มทัศนวิสัยยามค่ำคืน
ความปลอดภัยเชิงปกป้อง โครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ ทำจากเหล็กกล้าทนแรงดึงสูง ดูดซับแรงกระแทกได้ดีการตกแต่งภายในที่ออกแบบตามลักษณะทางกายภาพของมนุษย์เพื่อลดการบาดเจ็บถุงลมนิรภัยรอบคัน (ด้านหน้า ม่านนิรภัย ด้านข้าง และถุงลมนิรภัยที่หัวเข่าในบางรุ่น)

KODO Design

จากแนวคิด Nagare Design สู่ KODO – Soul of Motion มาสด้าได้ยกระดับปรัชญาการออกแบบไปอีกขั้น โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความงดงามและพลังในการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นจังหวะที่เสือชีตาห์กำลังพุ่งทะยาน หรือศิลปะการป้องกันตัวของญี่ปุ่น KODO Design ผสมผสาน

ความรวดเร็ว (Speed) สร้างรูปทรงที่ปลุกเร้าสัญชาตญาณของการควบคุมเครื่องจักรที่เร็วและทรงพลัง
ทรงพลัง (Tense) แสดงออกถึงความแข็งแกร่งและพละกำลังในจังหวะเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวที่ประณีต
ความงดงาม (Alluring) ถ่ายทอดคุณภาพที่สัมผัสได้ถึงความประณีตดุจงานศิลปะที่ทำด้วยมือมนุษย์

รถต้นแบบ Mazda Shinari คือตัวอย่างอันบริสุทธิ์ของ KODO Design ที่นำเสนอความอ่อนโยนแต่เปี่ยมด้วยพลัง ความยืดหยุ่น และความพร้อมในการเคลื่อนไหวอย่างอิสระ ทุกรายละเอียดของรถมาสด้าถูกรังสรรค์อย่างพิถีพิถันตั้งแต่การขึ้นรูปโมเดลจากดินเหนียว ผสมผสานเส้นสายที่เรียบง่ายแต่งดงาม สร้างความสมบูรณ์แบบด้วยสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น

ความสำเร็จของ KODO Design ได้รับการยอมรับทั่วโลกด้วยรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย อาทิ 2020 World Car Design of the Year สำหรับ All-New Mazda3 และ 2020 Red Dot Award สำหรับ All-New Mazda CX-30 ซึ่งเป็นรถยนต์ญี่ปุ่นเพียงแบรนด์เดียวที่เข้ารอบ 3 คันสุดท้ายเพื่อชิงรางวัล 2020 World Car of the Year และ World Car Design of the Year ในรุ่น All-New Mazda CX-30

ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งที่ทำให้มาสด้าเป็นมากกว่าแค่รถยนต์ แต่เป็นยนตรกรรมที่มอบความสุขในการขับขี่และตอบสนองทุกด้านของการใช้ชีวิต มาสด้ายังคงมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรม ควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนให้กับโลก สังคม และผู้คนต่อไปในฐานะแบรนด์ที่รักและเชื่อมั่นในอนาคต