ปอดมี 5 อาหาร ที่เปรียบเสมือน "เครื่องราง" กินแล้วช่วยล้างพิษ "ศัตรู" ของมะเร็งปอด
แม้ว่าอาหาร 5 ชนิดที่ได้ชื่อว่าเป็น “ศัตรูตัวฉกาจของมะเร็งปอด” จะเป็นของอร่อย ราคาถูก และคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้คุณค่าและมองข้าม
โรคมะเร็งปอดยังคงเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลก ตามรายงานของสมาคมมะเร็งสหรัฐฯ มะเร็งปอดแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ มะเร็งปอดชนิดไม่ใช่เซลล์เล็ก (ประมาณ 85%) มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (10-15%) และเนื้องอกคาร์ซินอยด์ในปอด (น้อยกว่า 5%) โดยเฉพาะมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็กนั้นมีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ส่วนมะเร็งต่อมไร้ท่อในกลุ่มไม่ใช่เซลล์เล็กถือเป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด
โรคนี้มักพัฒนาขึ้นอย่างเงียบ ๆ โดยอาการต่าง ๆ เช่น ไอเรื้อรัง เสียงแหบ ไอมีเลือด หายใจลำบาก น้ำหนักลด ปวดกระดูก หรือปวดศีรษะ มักจะปรากฏเมื่อโรคเข้าสู่ระยะลุกลามแล้ว นอกจากปัจจัยทางพันธุกรรมแล้ว สารพิษจากสิ่งแวดล้อม เช่น ควันบุหรี่ ก๊าซเรดอน แร่ใยหิน หรือโลหะหนัก ก็ล้วนเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการรักษาทางการแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญยังชี้ให้เห็นว่า มีอาหารบางชนิดที่สามารถช่วยล้างพิษปอด เสริมภูมิคุ้มกัน และอาจช่วยชะลอการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้
5 อาหารที่ถือเป็น “เกราะป้องกันจากธรรมชาติ” สำหรับปอด
ลูกแพร์: กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งทำลายตัวเอง
ตามข้อมูลจากแพทย์อายุรกรรมชาวอเมริกัน ดร.ลินน์ เอลดริดจ์ สาร “ฟลอเรติน” (phloretin) ที่พบในลูกแพร์และแอปเปิล ถูกพิสูจน์ในการทดลองกับเซลล์มะเร็งปอดชนิดไม่ใช่เซลล์เล็กว่า สามารถกระตุ้นกระบวนการ apoptosis หรือการที่เซลล์ “ตั้งโปรแกรม” ให้ทำลายตัวเอง แทนที่จะเพิ่มจำนวนและลุกลามต่อไป ซึ่งผลการยับยั้งเซลล์มะเร็งของลูกแพร์นั้นมีประสิทธิภาพดีกว่าแอปเปิลเสียอีก
นอกจากนี้ ลูกแพร์ยังอุดมด้วยน้ำและไฟเบอร์ ช่วยบรรเทาอาการไอ ช่วยให้ชุ่มคอ และขับเสมหะในทางเดินหายใจ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอดหรือระบบทางเดินหายใจโดยรวม
ชาเขียว: อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เสริมพลังการรักษามะเร็ง
ชาเขียวขึ้นชื่อมานานในด้านการต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะสาร EGCG ที่มีอยู่ในปริมาณสูง งานวิจัยในห้องทดลองและการทดลองในสัตว์บางชิ้นพบว่า EGCG ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปอด แต่ยังสามารถเสริมประสิทธิภาพของเคมีบำบัดในการรักษาโรคได้อีกด้วย
จุดเด่นของ EGCG คือสามารถยับยั้งกระบวนการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง และขัดขวางการสร้างหลอดเลือดใหม่ที่ไปหล่อเลี้ยงเนื้องอก ซึ่งนับเป็นแนวทางที่น่าจับตามองในการสนับสนุนการรักษามะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ
ขิง: ต้านอักเสบและต้านมะเร็งอย่างทรงพลัง
ขิงถือเป็นหนึ่งในอาหารที่มีคุณสมบัติต้านมะเร็ง และดีต่อระบบทางเดินหายใจมาแต่โบราณ ช่วยให้ปอดอบอุ่น ขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ ลดการอักเสบ และช่วยให้ทางเดินหายใจโล่งขึ้น ส่งผลดีต่อการไหลเวียนของอากาศในปอด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดร.เจียง ไจ้เซียน จากไต้หวัน เปิดเผยว่า สารประกอบชนิดหนึ่งในขิงถูกค้นพบว่ามีฤทธิ์ยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งปอด ทั้งในการทดลองในห้องแล็บและในสัตว์ทดลอง นอกจากนี้ ขิงยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบตามธรรมชาติ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยระหว่างการทำเคมีบำบัดสำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอด
ผลเบอร์รี่: “อาวุธลับ” สกัดหลอดเลือดที่เลี้ยงก้อนมะเร็ง
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ ราสป์เบอร์รี่ ฯลฯ อุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นยอด ช่วยกำจัดสารพิษและอนุมูลอิสระในร่างกาย โดยเฉพาะ เดลฟินิดิน ซึ่งเป็นแอนโทไซยานินชนิดหนึ่ง ถูกค้นพบว่ามีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งปอดในการทดลองกับหนู
เดลฟินิดินสามารถขัดขวางการสร้างหลอดเลือดใหม่ที่ใช้หล่อเลี้ยงก้อนมะเร็ง จึงช่วยชะลอหรือหยุดยั้งการลุกลามของเซลล์มะเร็งได้ การรับประทานผลเบอร์รี่อย่างสม่ำเสมอ ยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และปกป้องปอดจากการถูกทำร้ายด้วยอนุมูลอิสระ ส่งผลดีต่อสุขภาพปอดและร่างกายโดยรวม
5.แครอท: ช่วยล้างปอด ยับยั้งการเติบโตของก้อนมะเร็ง
ที่น่าสนใจคือ งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า แครอทยังอุดมไปด้วยกรดคลอโรเจนิก ซึ่งเป็นสารประกอบที่สามารถยับยั้งกระบวนการสร้างหลอดเลือดใหม่ของเซลล์มะเร็ง ส่งผลให้ก้อนมะเร็งขาดสารอาหารและไม่สามารถเติบโตต่อไปได้
แครอทยังเป็นผักที่นำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย จะรับประทานสด ต้ม นึ่ง หรือคั้นเป็นน้ำดื่มก็ล้วนดีต่อสุขภาพปอด อย่างไรก็ตาม ควรบริโภคในปริมาณพอเหมาะ เพราะหากทานมากเกินไป อาจทำให้ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ได้