ผลสำรวจดีลอยท์ ICE นิยมเพิ่ม คาดหวังอีวี ชาร์จ 0-80% ไม่เกิน 20 นาที
ดีลอยท์ ประเทศไทย เผยแพร่รายงาน“2568 Global Automotive Consumer Study: Southeast Asia Perspectives” ปี 2568 ฉบับล่าสุด จากการสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภค 6,029 คนใน 6 ประเทศ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีผู้บริโภคชาวไทยกว่า 1,000 คน
รายงานระบุว่าพฤติกรรมผู้บริโภคที่น่าสนใจและต่างจากแนวโน้มทั่วโลกอยู่หลายประเด็น โดยเฉพาะความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มรถเครื่องยนต์สันดาป (ICE) ขณะที่ความภักดีต่อแบรนด์กำลังเปลี่ยนไป
และยังพบพฤติกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคนไทยที่ให้ความไว้วางใจแก่ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ (Dealer) ในการดูแลข้อมูลของรถมากกว่าบริษัทผู้ผลิต
ข้อค้นพบเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายและโอกาสสำหรับผู้ประกอบการในระบบนิเวศยานยนต์ในการปรับกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
ผู้บริโภคไม่ได้เดินตามกระแส EV อย่างเดียว
ดีลอยท์ระบุว่าแม้ว่าทิศทางอุตสาหกรรมจะมุ่งหน้าสู่รถพลังงานไฟฟ้า (EV) แต่ผลสำรวจกลับพบว่าผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลับมาให้ความนิยมเครื่องสันดาปภายใน (ICE) เพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้ว
สำหรับไทย ความต้องการ ICE เพิ่มขึ้นจาก 32% เป็น 36% ที่น่าสนใจ คือ ความนิยมในรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 17% เป็น 21% สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยมองหาทางเลือกที่ยืดหยุ่นเพื่อตอบโจทย์การใช้งาน
ผลสำรวจพบว่ามีความกังวลในการใช้งาน BEV ในประเทศไทย เช่น ราคา ระยะทางการขับขี่ ระยะเวลาในการชาร์จ
อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทย ความกังวลด้านการขาดแคลนสถานีชาร์จสาธารณะลดลงอย่างมาก จาก 46% ในปีก่อน เหลือเพียง 26% ในปีนี้ ซึ่งอาจสะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังพบว่าผู้บริโภคไทย 46% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในภูมิภาค คาดหวังว่าการชาร์จจาก 0-80% ควรใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที
รูปแบบการใช้งานจริง และความคาดหวังต่อรถยนต์ไฟฟ้า
ผลสำรวจยังเผยให้เห็นถึงรูปแบบการใช้งานรถยนต์ของคนไทย โดยชาวไทยเกือบครึ่ง หรือ 48% ขับรถทางไกลกว่า 100 กิโลเมตร มากกว่า 5 ครั้ง/เดือน และ 49% ใช้รถยนต์ส่วนตัวทุกวัน พฤติกรรมเหล่านี้สะท้อนถึงความจำเป็นของผู้บริโภคชาวไทยในการใช้รถยนต์ส่วนตัวที่มีสมรรถนะสูงและน่าเชื่อถือ
เมื่อเจาะจงถึงความคาดหวังต่อ BEV พบว่า 40% ของผู้บริโภคชาวไทยคาดหวังระยะทางการขับขี่มากกว่า400 กิโลเมตรขึ้นไป โดยปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการชาร์จรถนอกบ้าน คือ ระยะเวลาในการชาร์จที่รวดเร็ว 22% ตามมาด้วยความปลอดภัยส่วนบุคคล 15% และจุดที่ตั้งหาง่าย เข้าถึงสะดวก 15%