3 โบรกฯ คาดแนวโน้มหุ้นบ่าย แนะกลยุทธ์การลงทุน
#ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า จีดีพี ไตรมาส 2/68 ของสหรัฐฯ โต 3.0% QoQ สูงกว่าคาดที่ 2.5 % สอดคล้องกับพาวเวล ที่บ่งชี้ว่านโยบายการเงินในปัจจุบันอยู่ในระดับที่คุมเข้มเล็กน้อย แต่ก็ไม่ฉุดรั้งเศรษฐกิจจากความแข็งแกร่งตลาดแรงงาน ล่าสุดการจ้างงานนอกภาคเกษตรจาก ADP ก.ค. อยู่ที่ 1.04 แสนตำแหน่ง สูงกว่าคาดที่ 7.7 หมื่นตำแหน่ง ขณะที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง มิ.ย. ที่ผ่านมา CPI แตะ 2.7%YoY และ Core CPI แตะ 2.9%YoY สูงกว่าเป้า FED ที่ 2% ส่งผลให้ FED คงดอกเบี้ยที่ 4.50% และยังไม่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยว่าเป็นเมื่อไหร่ ขณะที่บ้านเรา Real Interest Rate อยู่ที่ 2% มีโอกาสลดดอกเบี้ยในรอบการประชุม 3 ครั้งที่เหลือของปีนี้ 25-50 bps. บวกต่อหุ้น MTC, SAWAD, TIDLOR, KTC, AEONTS รอย่อซื้อ
-อินเดียและเกาหลีใต้ปิดดีการค้าสำเร็จ แม้ว่าอินเดียจะถูกตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้า 25% สูงกว่าค่าเฉลี่ยในเอเชียที่ 22% เนื่องจากอินเดียยังใช้มาตรการการค้าที่เข้มงวดต่อสหรัฐฯและมีการซื้ออาวุธ-พลังงานจากรัสเซียในช่วงสงครามยูเครน ขณะที่เกาหลีใต้บรรลุอัตราภาษีนำเข้าที่ 15% ลดลงจากเดิมที่25% ครอบคลุมเฉพาะรถยนต์เซมิคอนดักเตอร์ยา แต่เหล็ก อลูมิเนียม ยังคงที่อัตรา50% ทองแดงอยู่ช่วงอัตรา 25%-30% เช่นเดิม
-คลังปรับจีดีพีปี 2568 ขึ้นเล็กน้อยสู่ 2.2% จาก 2.1% สอดคล้อง IMF ที่ประเมินไทยโต 2.0% จาก 1.8% รับแรงหนุนจากภาคส่งออก การลงทุน การบริโภคภาคเอกชน ตามคำขอรับการส่งเสริมจาก BOI รวมกว่า 1 ล้านลบ. จาก 1,880 โครงการในครึ่งแรกปี 2568 และการบริโภคภาครัฐ ตามโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 157,000 ลบ. (อนุมัติแล้วกว่า 115,000 ลบ.) ขณะที่ช่วงเวลาที่เหลือในปีนี้ปัจจัยเสี่ยงหลัก คือภาษีนำเข้าที่เราต้องเผชิญผลกระทบจริง
-ไทยรู้อัตราภาษี 1 ส.ค. ช่วงเช้าตามเวลาสหรัฐฯ ตรงกับช่วงเย็นตามเวลาไทย หลังไทยได้ส่งร่างเอกสารฉบับสุดท้าย (Final Draft) กลับไปยังสหรัฐฯ เพื่อรอทรัมป์ประกาศอย่างเป็นทางการ หลายฝ่ายคาดไทยจะจบอัตราภาษีได้ที่19–20% ใกล้เคียงเพื่อนบ้านในอาเซียนอย่างอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ที่19%เวียดนาม 20% ระวัง Sell on Fact หลังตลาดขึ้นรับประเด็นนี้ถึง 18% (จาก Low 1054 จุด แตะ High 1245 จุด) ฐานแน่น 1180-1200 จุด แต่รอบหลักไปต่อ SET บ่ายนี้คาดวิ่งช่วง 1,232-1,,248 จุด
บล.เอเอสแอล ระบุว่า ตลาดปรับตัวออกข้าง ตลาดพักตัวและมีแรงขายทำกำไรออกมา ก่อนที่ผลการเจรจาการค้ากับสหรัฐจะออกมาโดยทาง รมว.คลังนายพิชัย จะรู้ผลภายใน 24 ชั่วโมงและได้ทำการเจรจาครอบคลุมในทุกด้านแล้ว ซึ่งสหรัฐก็เผยว่าได้บรรลุข้อตกลงกับไทยแล้ว คาดหวังจะได้ข้อสรุปอัตราภาษีสหรัฐที่ 15-20%
ด้านปัจจัยต่างประเทศวานนี้ผลการประชุมเฟด มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25-4.50% ตามคาด ด้านถ้อยแถลงของเจอโร พาวเวลแสดงถึงมุมมองไม่เร่งลดอัตราดอกเบี้ย กล่าวว่านโยบายการเงินของเฟดในปัจจุบันอยู่ในระดับที่คุมเข้มเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยฉุดรั้งเศรษฐกิจ, กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐรายงานจีดีพีไตรมาส 2/68 ขยายตัว 3.0% มากกว่าที่ตลาดคาด สะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐ ฟื้นตัวแข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาสล่าสุด
กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีปรับตัวลงทดสอบแนวรับ SMA 5 วันที่ 1,230 จุด ยืนเหนือได้จึงปรับตัวกลับขึ้น ระยะสั้นเน้นยืนเหนือ 1,230/1,220 จุด ไม่ควรต่ำกว่าเพื่อคงกรอบขาขึ้น
บล.โกลเบล็ก คาดดัชนีภาคบ่ายเคลื่อนไหว Sideway up จากที่ตลาดคาดว่าไทยจะบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐได้ในวันนี้ เป็นปัจจัยหนุนต่อดัชนี มองกรอบดัชนีภาคบ่ายอยู่ที่ 1,235-1,250 จุด
ภาวะตลาดหุ้นช่วงเช้าดัชนีพักฐาน เนื่องจากนักลงทุนจับตาผลการเจรจาทางการค้าระหว่างไทยและสหรัฐในวันนี้ ขณะที่วานนี้การประชุมเฟดยังไม่มีสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. เป็นปัจจัยกดดันดัชนี มีแรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มขนส่ง และอิเล็กทรอนิกส์ มีแรงซื้อนำโดยหุ้น