โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

มาเลเซียลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 5 ปี รับภาษีทรัมป์พ่นพิษ

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ธนาคารกลางมาเลเซีย ประกาศ "ลดอัตราดอกเบี้ย" ลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ในการประชุมวันนี้ (9 ก.ค. 68) โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายข้ามคืน (ORP) ลง 0.25% สู่ระดับ 2.75% เพื่อพยุงเศรษฐกิจแดนเสือเหลองท่ามกลางแนวโน้มการเติบโตที่อ่อนแอลง และความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้นใน การค้าโลก

ครั้งสุดท้ายที่ธนาคารกลางมาเลเซียปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายข้ามคืน คือในเดือนก.ค. 2020 หลังจากนั้นมา แบงก์ชาติมาเลเซียได้ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมทั้งหมด 1.25 bsp ระหว่างเดือนพ.ค. 2022 - พ.ค. 2023 จากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.75% เป็น 3.00% และคงที่ในระดับนี้มาตั้งแต่เดือนก.ค. 2023

การตัดสินใจของแบงก์ชาติมาเลเซียในครั้งนี้ มีขึ้นตามมาเพียง 1 วันหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศภาษีศุลกากร 25% สำหรับสินค้าส่งออกของมาเลเซียไปยังสหรัฐ จากเดิมที่ 24% ที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ โดยมาเลเซียเป็นหนึ่งใน 14 ประเทศที่ทรัมป์ส่งจดหมายแจ้งเรื่องจะขึ้นภาษีนำเข้า

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีสัญญาณว่าเศรษฐกิจมาเลเซียกำลังชะลอตัว

การเติบโตของจีดีพีมาเลเซียไตรมาสแรกชะลอตัวลงเหลือ 4.4% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพ.ค. ลดลงมาอยู่ที่ 1.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 51 เดือน ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงเหลือ 1.8% จาก 2.0% ในเดือนก่อน แม้ว่าราคาสินค้าบางประเภทจะยังคงเพิ่มขึ้นสูง

ขณะเดียวกัน ค่าเงินริงกิตมาเลเซียยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยแข็งค่าขึ้นไปแล้ว 5-6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในปีนี้ หลังจากปิด ณ สิ้นปี 2024 ในฐานะสกุลเงินที่มีผลงานดีที่สุดในเอเชียโดยแข็งค่าไปเพียง 2.7% ตลอดทั้งปีนี้ค่าเงินมาเลเซียยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยได้รับแรงหนุนจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่แคบลง ดุลการค้าและบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลอย่างต่อเนื่อง และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าโดยรวม

นักวิเคราะห์จาก MIDF Research คาดว่าค่าเงินริงกิตจะอยู่ที่ 4.10 ต่อดอลลาร์ในปีนี้ แต่ก็มีการคาดการณ์บางส่วนว่าค่าเงินอาจดีดตัวกลับเป็น 3.90 ภายในสิ้นปีเช่นกัน

รายงานของ Fitch BMI เมื่อวันอังคารเตือนว่า "มาเลเซีย ไทย และกัมพูชา" อาจจะได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากภาษีนำเข้าใหม่ของสหรัฐใต้สถานการณ์จำลองทั้งหมด โดยมาเลเซียอาจต้องเสียภาษีนำเข้า 25% ขณะที่ไทยและกัมพูชาอาจต้องเสียภาษีนำเข้าสูงถึง 36% รายงานยังระบุด้วยว่าผลกระทบต่อการส่งออกจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 2 ประการ ได้แก่ ระดับของอัตราภาษีที่สูงขึ้นที่ส่งต่อไปยังผู้บริโภคในสหรัฐ และความอ่อนไหวของผู้ซื้อต่อการเปลี่ยนแปลงราคา

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

นิสสัน เสริมทัพนาวารา เพิ่ม 3 รุ่นใหม่ คิงแค็บ ยกสูง เริ่ม 7.58 แสน

28 นาทีที่แล้ว

ปชน.พร้อมเปิดดีลทุกพรรค รับร่างนิรโทษฯ 5 ฉบับรวม 112 ถกต่อในสภา

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘มันนิกซ์’มุ่งเติบโตคุณภาพ ดัน‘สินเชื่อนาโน’5.7หมื่นล้าน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘ทักษิณ’ ช็อก สัมพันธ์ไทย-กัมพูชาร้าว เผย ความเป็นพี่น้อง 'ฮุน เซน' จบแล้ว

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

9 สัญญาณเตือน ร่างกายกำลังขาดแมกนีเซียม

เดลินิวส์

สาวญี่ปุ่นไปเดินเล่นริมทะเล เจอ "ของล้ำค่า" ข้ามกาลเวลามากว่า 100 ปี (มีคลิป)

sanook.com

พระเอกดัง ชี้แจงด่วน!! หลังขายคอนโดสุดหรู การเงินช็อต (ต่างประเทศ)

News In Thailand

ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีนำเข้า ‘ทองแดง’ 50% แย้มมีแผนขึ้นภาษี ‘ยา’ แตะ 200%

สวพ.FM91

นอนไม่หลับ แพทย์แผนจีนแนะนำ 3 วิธีง่ายๆ กดจุด ฝึกหายใจ และดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้!

sanook.com

งานวิจัย เตือน! หากชอบดื่ม "กาแฟ" ประเภทนี้? เสี่ยงตาบอดถาวรพุ่งพรวด 700%

sanook.com

อากาศร้อนจัดในเกาหลีใต้ ทำให้ประชาชนล้มป่วยแล้วมากกว่า 1,200 คน

เดลินิวส์

ช็อกวงการบันเทิง!! คู่รักซุปตาร์ ยื่นเอกสารขอหย่ากันแล้ว

มุมข่าว

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...