ถอดรหัสปรากฏการณ์ "ลาฟูฟู" เมื่อกระแสของปลอมกลายเป็นความนิยมเทียบเคียง "ลาบูบู้" ของจริง

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาพไฮไลต์

จากกระแสความคลั่งไคล้ใน "ลาบูบู้" (Labubu) ตุ๊กตาเอลฟ์มอนสเตอร์จาก Pop Mart ที่ทำให้หาซื้อได้ยาก และมีราคาที่พุ่งสูงขึ้นทำให้เกิดตลาดใต้ดินของของเลียนแบบที่เรียกว่า "ลาฟูฟู" (Lafufu) ซึ่งถึงแม้จะเป็นของปลอม แต่ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน และกำลังกลายเป็นกระแสใหม่ในหมู่คนรุ่นใหม่ที่มองว่าการสะสมของปลอมไม่ใช่เรื่องน่าอายอีกต่อไป

ตุ๊กตา Labubu ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะในหมู่แฟชั่นนิสต้า เซเลบริตี้ และผู้มีชื่อเสียงที่นิยมนำพวงกุญแจ Labubu มาห้อยกระเป๋าจนเป็นเทรนด์แฟชันที่ใครก็ขาดไม่ได้

นอกจากนี้ยังมีการประมูลตุ๊กตา Labubu ขนาดเท่าตัวจริงไปในราคาสูงถึง 170,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.5 ล้านบาท) อีกด้วย จากความต้องการที่มากเกินไปถึงขนาดที่ Pop Mart ในอังกฤษต้องหยุดขายชั่วคราวในเดือนพฤษภาคม เพราะผู้คนแห่กันไปซื้อจนเกิดความวุ่นวาย และทะเลาะวิวาทกัน

ความน่าดึงดูดของ Labubu ส่วนหนึ่งมาจากเทรนด์ ความหายาก กระแส และองค์ประกอบที่น่าสนใจ โดยตุ๊กตาแท้จำนวนมากมาใน กล่องสุ่มแบบจำกัดจำนวน ทำให้ผู้ซื้อไม่รู้ว่าจะได้ตัวไหนจนกว่าจะเปิดออก และยังสร้างตลาดซื้อขายต่อที่เฟื่องฟู ซึ่งบางตัวมีราคาสูงกว่าราคาปลีกถึง 20-30 ดอลลาร์

กำเนิด "ลาฟูฟู" และความดึงดูดใหม่ที่คาดไม่ถึง

ในขณะที่ Labubu ตัวจริงหายาก Lafufus (ลาฟูฟู) ใช้เรียกตุ๊กตาปลอมก็เริ่มเข้ามามีบทบาท โดยมีจำหน่ายทั้งตามท้องตลาดและทางออนไลน์ในราคาที่ถูกกว่า และหาซื้อง่ายกว่ามาก แม้ว่าบางตัวอาจดู "แปลกๆ" ไปบ้างก็ตาม

วิกตอเรีย บิสตริตสกี้ นักวิเคราะห์วัย 25 ปีจากแคลิฟอร์เนีย ผู้เริ่มต้นสะสม Labubu ตัวจริง แต่กลับมาหลงใหลใน Lafufu หลังจากที่คู่หมั้นของเธอซื้อ Lafufu จากปั๊มน้ำมันมาให้โดยไม่ได้ตั้งใจกล่าวไว้ว่า "Lafufu กลายเป็นความตื่นเต้นครั้งใหม่ เพราะฉันจะได้เห็นว่ามันจะออกมาเป็นยังไง จากบนแพลตฟอร์ม TikTok ของคนอื่นที่แกะกล่อง Lafufu แล้วหน้าตาไม่เหมือนกันสักตัว" เธอกล่าว

สำหรับบิสตริตสกี้ เสน่ห์ของ Lafufu คือการได้เห็นว่าพวกมันเลียนแบบของจริงได้ "แย่ขนาดไหน" ยกตัวอย่าง Lafufu ที่เธอได้มาจากปั๊มน้ำมัน มีหูที่เบี้ยวและดวงตาสีชมพูสดใส ซึ่งไม่มีอยู่ใน Labubu ของจริงเลย

ของปลอมที่ไม่น่าอาย กระแสใหม่ของ Gen Z และ Millennials

แน่นอนว่าตัวแทนของ Pop Mart ไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับของปลอมนี้ แต่เสน่ห์ของ Lafufu อาจหยั่งรากลึกในกระแสการเลียนแบบและของปลอม ที่กำลังเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลและ Gen Z ที่พยายามทำให้การซื้อและครอบครองสินค้าหรูปลอมเป็นเรื่องปกติและไม่มีตราบาบ

ในชุมชน Labubu บน Reddit ผู้ใช้ต่างพากันมาแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งซื้อ Lafufu ที่ดีที่สุด (Shein และ Alibaba เป็นสองเว็บไซต์ยอดนิยม) และบน TikTok ผู้คนก็โพสต์วิดีโอแกะกล่อง Lafufu อย่างภาคภูมิใจ เช่น วิดีโอของบิสตริตสกี้ที่โพสต์อวดของเลียนแบบของเธอพร้อมแคปชั่นว่า "Labubus? ไม่หรอก ฉันลงทุนกับ Lafufus หัวโล้นของฉันไปหมดแล้ว" ซึ่งมียอดเข้าชมเกือบสามล้านครั้ง

วิธีแยกแยะ "ลาบูบู้" ของจริงกับ "ลาฟูฟู"

การจะแยกแยะ Labubu ของจริงออกจาก Lafufu ต้องใช้การสังเกตอย่างละเอียด:

Labubu ของจริง ควรมีฟัน 9 ซี่พอดี และใบหน้าสีชมพูพีช
มาใน กล่องเคลือบด้าน พร้อม รหัส QR อย่างเป็นทางการ
มีตราประทับที่ขาขวา ซึ่งจะมองเห็นได้เฉพาะผ่านหลอดไฟ UV

ในทางตรงกันข้าม Lafufu มักจะมีฟันมากกว่า 9 ซี่ และมาในกล่องที่มีผิวมันวาว อย่างไรก็ตามสำหรับของปลอมมีความแตกต่างออกไปเล็กน้อย เช่น การเย็บบนอุปกรณ์เสริมของตุ๊กตา แต่สำหรับแฟนๆ Lafufu บางคน พวกมันก็ยังคงเป็นที่ต้องการไม่แพ้ของจริง

บิสตริตสกี้ เล่าว่า “Lafufu ตาสีชมพูของเธอ มีคนเสนอเงินให้ฉัน 200 เหรียญ ซึ่งมันมีค่ามหาศาล” จากกระแส "ลาฟูฟู" นี้เป็นเพียงแฟชั่นชั่วคราว หรือไม่แน่ว่านี่อาจเป็นการสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงมุมมองต่อสินค้าลอกเลียนแบบในสังคมปัจจุบันจากคนรุ่นใหม่ๆ แล้วก็เป็นได้

ข้อมูล: The New York Times

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ถอดรหัสปรากฏการณ์ "ลาฟูฟู" เมื่อกระแสของปลอมกลายเป็นความนิยมเทียบเคียง "ลาบูบู้" ของจริง