'จีน' คุมเข้มจนท.แบงก์ Wells Fargo 'ห้ามออกนอกประเทศ' รายที่ 2 เดือนนี้
CNN รายงานว่า รัฐบาลปักกิ่งได้สั่งห้ามเจ้าหน้าที่ธนาคาร "เวลส์ ฟาร์โก" (Wells Fargo) ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ในสหรัฐ เดินทางออกนอกประเทศจีน ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์ล่าสุดที่คุกคามความกังวลของผู้บริหารตะวันตกเกี่ยวกับการเดินทางเยือนประเทศจีน หลังจากที่เพิ่งเกิดเคสคล้ายกันนี้กับเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ
เหตุการณ์นี้ได้รับการยืนยันจากโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกัว เจียคุน ซึ่งแถลงยืนยันเมื่อวันจันทร์ว่าปักกิ่งมีคำสั่งห้าม " เหมา เฉินเย่ว" เจ้าหน้าที่ธนาคารเวลส์ ฟาร์โกสาขาแอตแลนตา เดินทางออกนอกประเทศจีน โดยเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนคดีทางอาญา แต่ไม่มีการระบุรายละเอียดชัดเจนของคดีนี้ และความเกี่ยวข้องของเหมาต่อคดีนี้เช่นกัน
“คุณเหมา เฉินเยว่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอาญาที่ทางการจีนกำลังสอบสวนอยู่ และกำหนดข้อจำกัดการเดินทางออกนอกประเทศของเธอโดยเป็นไปตามกกฎหมาย” โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนแถลง และเสริมว่าในระหว่างการสอบสวน เจ้าหน้าที่จะรับรองว่าสิทธิตามกฎหมายของเธอจะได้รับการคุ้มครอง
ทั้งนี้ เหมาทำงานกับเวลส์ ฟาร์โกมาตั้งแต่ปี 2555 ตามข้อมูลในโปรไฟล์ LinkedIn โดยประวัติของเจ้าตัวเกิดที่เซี่ยงไฮ้และปัจจุบันเป็นหัวหน้าฝ่ายธุรกิจแฟกตอริงระหว่างประเทศประจำสาขาแอตแลนตา โดยให้คำปรึกษาแก่บริษัทข้ามชาติเกี่ยวกับกลยุทธ์เงินทุนข้ามพรมแดน
ด้านเวลส์ ฟาร์โก ระบุเพียงว่า กำลังติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิดและดำเนินการผ่านช่องทางที่เหมาะสมเพื่อให้พนักงานสามารถเดินทางกลับสหรัฐได้โดยเร็วที่สุด และขณะนี้ได้สั่งระงับการเดินทางทั้งหมดไปยังประเทศจีนแล้ว
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตามมาไม่นานหลังจากที่รัฐบาลปักกิ่งเพิ่งมีคำสั่งห้าม"เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์" ชาวอเมริกันเชื้อสายจีนรายหนึ่งเดินทางออกนอกประเทศจีน
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า เจ้าหน้าที่รายนี้ทำงานในฝ่ายสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เพิ่งเดินทางมาเยี่ยมครอบครัวในจีนเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ไม่ยอมแจ้งข้อมูลเจ้าหน้าที่ระหว่างการขอวีซ่าว่าตนเองทำงานให้กับรัฐบาลสหรัฐ
ปัจจุบัน กระทรวงต่างประเทศสหรัฐจัดอันดับคำแนะนำการเดินทางไปจีนอยู่ที่ "ระดับ 2" ซึ่งระบุไว้ว่าชาวอเมริกันควร "เพิ่มความระมัดระวัง" เมื่อเดินทางไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ เนื่องจากในจีนอาจมีการการบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นโดยพลการ รวมถึงการห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
เหตุการณ์ดังกล่าวทั้งสองเคสคาดว่าจะสร้างความกังวลในระดับผู้บริหารระดับสูงและคณะกรรมการบริษัทต่างๆ เกี่ยวกับความเสี่ยงในการเดินทางไปเยือนจีน โดยแซม สไตน์ ประธานสภาธุรกิจสหรัฐ-จีน เปิดเผยกับ CNN ว่าเรื่องนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกกระวนกระวายใจและกังวลเกี่ยวกับการเดินทางอีกครั้ง
ขณะที่เดล บัคเนอร์ ซีอีโอของบริษัทรักษาความปลอดภัยระหว่างประเทศ Global Guardian เรียกร้องให้บริษัทในสหรัฐตรวจสอบประวัติพนักงานทุกคนอย่างรอบคอบ เพื่อดูว่ามีความเสี่ยงในการเดินทางไปจีนหรือไม่
“พนักงานที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาล ถือสองสัญชาติ หรือเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมที่มีความอ่อนไหว เช่น การป้องกันประเทศหรือเทคโนโลยีขั้นสูง ไม่ควรเดินทางไปจีน ซึ่งรวมถึงฮ่องกงและมาเก๊า” บัคเนอร์กล่าวในอีเมลถึง CNN “บริษัทต่างๆ ควรอนุญาตให้เดินทางเฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น และควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าผลประโยชน์ที่ได้รับมีมากกว่าความเสี่ยงจากการถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศหรือการกักขังหรือไม่”