นักข่าวรัสเซียแจ้งความ ถูกแก๊งร่วมชาติอุ้มรีดทรัพย์ อัดคลิปเรียกค่าไถ่
นักข่าวรัสเซียโร่แจ้งความ ถูกแก๊งร่วมชาติอุ้มรีดทรัพย์ ใช้ปืน-กุญแจมือ-ถุงดำคลุมหัว อัดคลิปขู่เมียเรียกค่าไถ่ สูญกว่า 2.5 ลบ. ตร.คุมแก๊งต้องสงสัยสอบ
เมื่อเวลา 21.00 น. (26 มิ.ย. 2568) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา สาขาย่อยโค้งดงตาล รับแจ้งความจากชายชาวรัสเซีย อายุประมาณ 28 ปี ทราบชื่อต่อมาคือ นายเดวิด ซึ่งมีอาชีพเป็นผู้สื่อข่าวพิเศษของสำนักข่าวแห่งหนึ่งในประเทศรัสเซีย โดยเดินทางเข้าร้องทุกข์ในสภาพบาดเจ็บ ใบหน้ามีแผลฟกช้ำ และมีร่องรอยถูกทำร้ายหลายแห่งตามร่างกาย
นายเดวิด ให้การผ่านล่ามว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันเดียวกัน ขณะพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในซอย 14 ย่านจอมเทียน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้ถูกกลุ่มชายชาวรัสเซียร่วมชาติประมาณ 4 คน บุกเข้าห้องพัก โดยอาศัยเพื่อนร่วมชาติอีกคนเป็น "นกต่อ" พาเปิดประตูให้ ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะบุกเข้ามาพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่ ใช้กุญแจมือแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจล็อกข้อมือทั้งสองข้าง จากนั้นนำถุงดำคลุมศีรษะและใช้อาวุธปืนฟาดศีรษะหลายครั้ง เพื่อข่มขู่ให้ติดต่อภรรยาที่พำนักอยู่ย่านบางรัก กรุงเทพมหานคร
ระหว่างเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายได้บันทึกคลิปวิดีโอขณะผู้เสียหายถูกทำร้าย โดยเห็นสภาพร่างกายสะบักสะบอม ใบหน้ามีบาดแผล พร้อมถือบัตรนักข่าวของผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐานประกอบการเรียกค่าไถ่ จากนั้นส่งคลิปดังกล่าวไปให้ภรรยาของ นายเดวิด พร้อมข้อความข่มขู่ว่า หากแจ้งตำรวจหรือไม่นำทรัพย์สินตามคำสั่งมาส่งตามจุดนัดพบ สามีของเธอจะไม่รอดชีวิต
ด้วยความตกใจและหวาดกลัว ภรรยาของผู้เสียหายจึงยอมทำตามข้อเรียกร้องโดยนำ "นาฬิกาหรู RolexDaytona" มูลค่าประมาณ 600,000 บาท ไปวางไว้ตามจุดนัดหมายในพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมส่งพิกัดโลเคชันให้กับคนร้าย
ต่อมาเมื่อถึงเวลานัดหมาย ภรรยาของนายเดวิด สามารถบันทึกภาพชายต้องสงสัย สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาวสีดำ ซึ่งคาดว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุขณะเข้ามารับของไว้ได้
อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนร้ายยังไม่หยุดเพียงเท่านั้นแต่ได้ขู่กรรโชกต่อเนื่อง บังคับให้ นายเดวิด โอนเงินดิจิทัลประเภท Bitcoin มูลค่ากว่า 1.9 ล้านบาท ไปยังกระเป๋าเงินที่ระบุไว้ รวมมูลค่าความเสียหายจากทรัพย์สินทั้งสองรายการกว่า 2.5 ล้านบาท
หลังได้รับทรัพย์สินครบ กลุ่มคนร้ายได้นำตัว นายเดวิด ขึ้นรถยนต์และขับออกจากพื้นที่ ก่อนนำตัวไปปล่อยทิ้งในเขตเมืองพัทยา โดยระหว่างทางยังมีการทำร้ายร่างกายเพิ่มเติม พร้อมทั้งทุบทำลายทรัพย์สินภายในรถ อาทิ หน้าจอแสดงผลและกระจกหน้ารถได้รับความเสียหายอย่างหนัก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยบางรายไว้ได้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการlอบสวนข้อเท็จจริง รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งจากภาพกล้องวงจรปิด พยานบุคคล รวมถึงการตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมผ่านระบบบล็อกเชน เพื่อขยายผลติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป