คนสนิทแฉ เจ้าอาวาสวัดม่วง ปมเงิน 10 ล้าน หายทิพย์ ซัดแรง “อย่าเครียด เดี๋ยวเส้นเลือดแตกตาย”
พระนิทัศน์ อดีตคนสนิทแฉแรง ปมเงิน 10 ล้านวัดม่วง ชี้ไม่หาย ท้าใครกล้าบุกขับไล่ตนจากวัด เจอลูกปืนแน่ ฝากถึงเจ้าอาวาส อย่าเครียดมาก เดี๋ยวเส้นเลือดในสมองแตกตาย
คืบหน้ากรณี เงินจำนวน 10 ล้านบาท ของ พระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง บางแค หายปริศนาไปจากกุฏิ ซึ่งเจ้าอาวาสยืนยันว่าเป็นเงินส่วนตัว ไม่ใช่เงินวัด เก็บสะสมมาตลอดบวช 50 พรรษา นั้น ล่าสุด พระนิทัศน์ ประเสริฐ อดีตพระลูกวัดและคนใกล้ชิด ออกมาแฉหมดเปลือยความจริงอีกด้านผ่านสื่อมวลชน
พระนิทัศน์ ไม่ขอเชื่อว่า “เงิน 10 ล้านที่อ้างว่าหายจะหายจริง” พร้อมขุดพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายกรณีของเจ้าอาวาส ตั้งคำถามว่า เงินที่ถอนออกมาอาจเกี่ยวข้องกับการพนันหรือไม่
พระนิทัศน์ เผยว่า เคยเคารพนับถือเจ้าอาวาส เนื่องจากเป็นพระอุปัชฌาให้บวช แต่ภายหลังกลับถูกกลั่นแกล้งใส่ร้าย ทั้งถูกตำรวจจับถึงในกุฏิ ถูกกล่าวหาว่าเสพยา ทั้งที่ไม่เป็นความจริงไม่มีหลักฐาน ตลอดหนึ่งเดือนถูกตรวจปัสสาวะถึง 3 ครั้งแต่ไม่พบสารเสพติด รวมถึงปมที่อ้างว่าเจอวีซีดีลามกในกุฏิก็เป็นเท็จ ทุกข้อกล่าวหา พิสูจน์แล้วว่าไม่จริง
ในประเด็นเงินวัด 10 ล้านบาทที่หาย พระนิทัศน์กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าเงินหาย เพราะมีการเบิกเงินจริง แต่เจ้าอาวาสกลับบอกเป็นเงินส่วนตัว ทั้งที่ในกรณีปกติจะบอกว่าเป็นเงินวัด พร้อมตั้งข้อสงสัยแรงว่า “หรือเอาไปปั่นบาคาร่า?” อ้างว่านี่เป็นเพียงคำถามเพื่อการพิสูจน์ ไม่ได้หมิ่นประมาท เตรียมนำข้อมูลทั้งหมดส่งให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. โดยเร็วที่สุด
พระนิทัศน์ยังกล่าวอ้างว่า พบพฤติกรรมใช้เงินผิดปกติ เช่น ซื้อบ้านมูลค่าหลายร้อยล้านในหลายจังหวัด ได้แก่ เมืองกาญจน์ ราชบุรี นครปฐม และสนามบินน้ำ ชื่อเจ้าของบ้านตรงตัว ไม่สามารถปฏิเสธได้
เมื่อถูกถามถึงการถูกขับออกจากวัด พระนิทัศน์ตอบแบบไม่ไว้หน้าใครว่า “จะจำวัดที่นี่ต่อ ไม่ไปไหนแน่นอน” พร้อมท้า “ใครกล้ามาบุก อาจเจอลูกปืนได้” อ้างว่า วัดเป็นนิติบุคคล ไม่สามารถบุกรุกได้ตามอำเภอใจ ตนเองก็มีลูกศิษย์คอยช่วยดูแล
ปิดท้ายการให้สัมภาษณ์ พระนิทัศน์ฝากถึงเจ้าอาวาสแบบถึงพริกถึงขิงว่า “อย่าเพิ่งเครียด เดี๋ยวเส้นเลือดในสมองแตกตายเสียก่อน” พร้อมตั้งคำถามกลับว่า “เคยให้อะไรกู กูถึงต้องไปกตัญญูกับมึง?” พร้อมตอกกลับเสียงวิจารณ์ว่า “กูเรียนมาน้อย แค่ ป.6 ดัดจริตไม่เป็น จะให้พูดเพราะๆ ก็ไม่ใช่กู”
ประเด็นนี้ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ขณะที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเดินหน้าสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง