"โจ้ สืบศักดิ์" แฉนักกีฬาตะกร้อโดนหักเงินอัดฉีด จาก 2 ล้านเหลือแสนเดียว
วงการตะกร้อทีมชาติไทยกำลังเผชิญกับประเด็นร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อ "โจ้ สืบศักดิ์" พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ผันสืบ อดีตนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทยชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงปัญหาเงินอัดฉีดของนักกีฬาที่ยังคงไม่คลี่คลาย
ข้อความของ พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ได้เปิดเผยถึงกรณีของนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทยชุดเหรียญทองประเภททีมเดี่ยวในศึกเอเชียนเกมส์ โดยมีนักกีฬาจำนวน 5 คนที่ได้รับเงินอัดฉีดคนละ 2,000,000 บาท แต่กลับถูกหักเงินไปถึงคนละ 1,900,000 บาท เหลือเงินให้นักกีฬาไว้ใช้เพียงคนละ 100,000 บาทเท่านั้น โดย พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ยังระบุอีกว่าในช่วงที่ผ่านมาเรื่องดังกล่าวเงียบหายไป แต่ล่าสุดนักกีฬาได้มาร้องขอความเป็นธรรมและขอเงินคืน ทำให้เรื่องนี้กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง
ย้อนรอยปัญหาเงินอัดฉีดในวงการตะกร้อไทย: ปัญหาเรื้อรังที่ยังไม่จบสิ้น
ปัญหาการหักเงินอัดฉีดนักกีฬาตะกร้อไม่ใช่เรื่องใหม่ และมีข่าวปรากฏเป็นระยะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมักจะมีการกล่าวอ้างว่าเงินส่วนหนึ่งถูกนำไปใช้ในสมาคมฯ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในกลุ่มนักกีฬาและแฟนกีฬา
- กันยายน 2566: ธิดาวรรณ ดาวสกุล อดีตนักตะกร้อทีมชาติไทย โพสต์เปิดประเด็นว่าเธอเคยถูกหักเงินอัดฉีดตั้งแต่สมัยเอเชียนเกมส์ 2010 ที่กวางโจว โดยผู้ฝึกสอนและผู้จัดการทีมในเวลานั้น
- พฤศจิกายน 2566: พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ผันสืบ พร้อมกับอดีตนักกีฬารุ่นเดียวกัน ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อแฉขบวนการหักเงินอัดฉีดที่เกิดขึ้นมานานกว่า 20 ปี โดยมีการยกตัวอย่างกรณีของ พิกุล สีดำ อดีตนักกีฬาหญิง ที่ถูกบังคับให้โอนเงินอัดฉีดเหรียญทองกว่า 1 ล้านบาทให้กับโค้ชและผู้จัดการทีม จนสุดท้ายเมื่อเธอรับไม่ได้กับเงื่อนไขนี้ ก็ถูกกลั่นแกล้งและถูกตัดออกจากแคมป์ทีมชาติ
การหักเงินที่ซับซ้อนและเงินที่หายไป
- ในเอเชียนเกมส์ 2022 ที่หางโจว ทีมตะกร้อไทยคว้ามาได้ 4 เหรียญทอง และได้รับเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติรวมทั้งสิ้น 86.8 ล้านบาท โดย พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ได้เปิดเผยว่ามีการหักเงินนักกีฬาเข้ากองกลางอย่างเป็นระบบ ทั้งการโอนผ่านบัญชีบุคคลที่สาม หรือการนัดรับเงินสดกันที่ร้านอาหาร เพื่อไม่ให้มีหลักฐาน
- มีการคำนวณเงินกองกลางที่ถูกหักจากทั้งทีมชายและทีมหญิง ซึ่งเมื่อนำไปแบ่งให้กับผู้เล่นสำรองและคู่ซ้อมแล้ว พบว่ายังมีเงินจำนวนกว่า 10.1 ล้านบาทที่ "หายไปอย่างไร้ร่องรอย" โดยไม่มีใครออกมาชี้แจงว่าเงินก้อนนี้ถูกนำไปใช้เพื่ออะไร
- แม้จะมีอดีตและนักกีฬาบางส่วนออกมาโพสต์ว่าพวกเขาเต็มใจที่จะแบ่งเงินให้กับคู่ซ้อมเพื่อความสมัครสมานสามัคคี แต่ก็ไม่มีใครสามารถตอบคำถามได้ว่าเงินที่เหลือจำนวนมหาศาลนั้นหายไปไหน
การตรวจสอบและการเปลี่ยนแปลง
- หลังจากประเด็นถูกจุดขึ้น สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทยภายใต้การบริหารของ นายธนา ไชยประสิทธิ์ นายกสมาคมคนใหม่ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และ พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ได้ยื่นเรื่องไปยังคณะกรรมาธิการกีฬาของสภาผู้แทนราษฎร และ ป.ป.ช. ให้เข้ามาตรวจสอบด้วย
- กุมภาพันธ์ 2567: สมาคมฯ มีมติสั่งพักงานทีมผู้ฝึกสอนและผู้จัดการทีมชุดเดิม พร้อมกับแต่งตั้งทีมผู้ฝึกสอนชุดใหม่นำโดย สุพจน์ ตุ้มประชา เพื่อทำหน้าที่คุมทีมสำหรับการแข่งขันสำคัญตลอดปี 2567 เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
แม้ในบางช่วงปัญหาจะเงียบหายไป แต่การออกมาเปิดเผยครั้งล่าสุดของ พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ผันสืบ ที่ระบุว่า "ถึงวันนี้นักกีฬามาร้องขอความเป็นธรรมขอเงินคืนครับ" ก็เป็นเครื่องยืนยันว่าปัญหาเรื้อรังนี้ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน