“หุ้นชิป” ฉุดตลาดเกิดใหม่ดิ่ง หลังทรัมป์ขู่ขึ้นภาษี-TSMC เจอสอบขโมยข้อมูล
ดัชนีหุ้นตลาดเกิดใหม่ร่วง หลังนักลงทุนแตกตื่นกับคำขู่ขึ้นภาษีเซมิคอนดักเตอร์ของทรัมป์ และข่าวสอบสวนการขโมยข้อมูลจาก TSMC ขณะที่ตลาดเงินผันผวน ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐ
วันที่ 6 สิงหาคม 2568 เวลา 16.31 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์กดดันดัชนีหุ้นตลาดเกิดใหม่ให้ปรับตัวลง หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีสินค้ากลุ่มนี้ พร้อมกับมีการสอบสวนคดีขโมยความลับทางการค้าจากบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. (TSMC) ซึ่งสร้างความวิตกให้กับนักลงทุน ขณะที่สกุลเงินของประเทศกำลังพัฒนาเคลื่อนไหวผันผวน
ดัชนี MSCI Emerging Markets ลดลง 0.2% โดยการร่วงของหุ้น TSMC มีน้ำหนักมากที่สุดและเป็นตัวการหลักที่ดึงดัชนีลงทั้งหมด จากการประเมินตามสัดส่วนของหุ้นในดัชนี
ในตลาดเงิน สกุลเงินที่อ่อนค่าหนักสุดคือกลุ่มเอเชีย ขณะที่แรนด์แอฟริกาใต้และเปโซเม็กซิโกกลับแข็งค่า แม้นอกเหนือจาก TSMC ดัชนีจะมีทั้งหุ้นที่เพิ่มขึ้นและลดลงพอ ๆ กัน แต่หุ้นกลุ่มอีคอมเมิร์ซจีนอย่าง Tencent ปรับตัวขึ้น ขณะที่ผู้ผลิตชิปเกาหลีใต้อย่าง Samsung และ SK Hynix ปรับตัวลง
นักลงทุนเริ่มประเมินใหม่หลังตลาดหุ้นเกิดใหม่พุ่งต่อเนื่องมานาน 7 เดือน ซึ่งเป็นแนวโน้มขาขึ้นที่ยาวที่สุดนับตั้งแต่ปี 2560 แต่คำขู่ของทรัมป์ที่จะขึ้นภาษี ทำให้แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่เริ่มสั่นคลอน โดยเฉพาะในหลายประเทศที่ยังไม่สามารถเจรจาข้อตกลงการค้าได้สำเร็จ เช่น อินเดีย ซึ่งถูกขู่ด้วยมาตรการภาษีขั้นรุนแรง
แม้เศรษฐกิจภาคการบริโภคของจีนยังคงอ่อนแรง และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังถ่วงอยู่ แต่การคาดการณ์ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ เป็นปัจจัยบวกเล็กน้อยที่หนุนตลาด ปริมาณการซื้อขายในดัชนี MSCI ลดลง 24% จากค่าเฉลี่ย 30 วัน เนื่องจากเข้าสู่ช่วงวันหยุดฤดูร้อนของประเทศซีกโลกเหนือ
หุ้น TSMC ร่วงลง 2.2% ในตลาดไทเป ซึ่งเป็นการร่วงแรงที่สุดตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน หลังอัยการจับกุมผู้ต้องสงสัย 6 ราย ฐานขโมยความลับจากบริษัท ซึ่งเป็นการเปิดทางสู่การสอบสวนที่อาจกระทบความมั่นคงระดับชาติ และกระทบต่อผู้นำอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลกที่เป็นหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนตลาดหุ้นเกิดใหม่ในปีนี้ หุ้น Samsung และ SK Hynix ก็ปรับลดลงอย่างน้อย 1.6% ในตลาดโซล
ข่าวลบถาโถมกลุ่มหุ้นชิปอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแค่ประเด็นของไต้หวัน นักลงทุนยังจับตาว่าทรัมป์จะออกมาตรการใหม่เมื่อไร หลังเขาเผยว่าสหรัฐ จะประกาศภาษีใหม่ต่อการนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ภายในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ข่าวผลประกอบการบริษัททั่วโลกก็ยังกดดันตลาด โดยเฉพาะในสหรัฐ เช่น Super Micro Computer ที่ปรับลดคาดการณ์รายได้, GlobalFoundries รายงานผลประกอบการไม่ถึงเป้า และ AMD เตือนว่ายังประเมินไม่ได้ว่าจะกลับไปทำตลาดจีนได้เมื่อไร
จากมุมมองของนักวิเคราะห์ทางเทคนิค ดัชนี MSCI ตลาดเกิดใหม่ร่วงลงหลังแตะระดับ 68 บนชาร์ต Relative Strength Index (RSI) รายเดือน ซึ่งใกล้กับระดับ overbought ที่ 70 ซึ่งมักเป็นสัญญาณนำก่อนการปรับฐาน ดัชนีลดลงประมาณ 2% จากจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม
พันธบัตรรัฐบาลยูเครน (สกุลดอลลาร์) ปรับตัวขึ้นแรงที่สุดในดัชนี Bloomberg EM Sovereign Total Return โดยนักลงทุนจับตาการเคลื่อนไหวของรัสเซีย ซึ่งอาจพิจารณาหยุดโจมตีทางอากาศชั่วคราว ขณะเดียวกันรัฐบาลยูเครนแต่งตั้งหัวหน้าสำนักความมั่นคงเศรษฐกิจ เพื่อทำตามเงื่อนไขของ IMF
พันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นของอินเดียร่วง หลังจากก่อนหน้านี้อินเดียใกล้บรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ แต่กลับกลายเป็นเป้าหมายของภาษีรุนแรง เช่น การเก็บภาษีเพิ่มจากการซื้อพลังงานจากรัสเซีย ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 0.07% มาอยู่ที่ 6.40% ขณะที่ค่าเงินรูปีแข็งขึ้นหลังธนาคารกลางอินเดียคงดอกเบี้ยไว้ตามคาด แม้เงินเฟ้อชะลอตัว
นักวิเคราะห์ Piotr Matys จาก In Touch Capital Markets กล่าวว่า “แรนด์แอฟริกาใต้ได้ประโยชน์มากที่สุดจากการที่ตลาดคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนกันยายน …แรงหนุนนี้เกิดขึ้นหลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐต่ำกว่าคาด และทรัมป์เพิ่มแรงกดดันทางการเมืองต่อประธานเฟดให้ลดดอกเบี้ย”
อ้างอิง : bloomberg.com