‘ลาว’ เตรียมรับมือผลกระทบ ‘ภาษีทรัมป์’ คาดส่งผลต่อแรงงานกว่า 20,000 ชีวิต
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ว่า ลาวมีแนวโน้มที่มืดมนในระหว่างกำลังนับถอยหลังสู่เส้นตาย ในการบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐอเมริกาให้ทันก่อนวันศุกร์ (1 ส.ค.) หลังผู้นำสหรัฐขู่เก็บภาษีนำเข้า 40% จากประเทศแห่งนี้ ซึ่งถือเป็นอัตราสูงสุดที่ทรัมป์ได้ประกาศไว้
อนึ่ง ลาวมีการส่งออกที่จำกัด มีอำนาจต่อรองน้อย และห่วงโซ่อุปทานเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับจีน ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการค้าของสหรัฐ ขณะที่สหรัฐขาดดุลการค้ากับลาวมากกว่า 760 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24,810 ล้านบาท) เมื่อปีที่แล้ว และมีโรงงานเพียงไม่กี่แห่งที่จัดหาสินค้าให้กับตลาดสหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียง 3-6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของประเทศ
ภาษีศุลกากรอาจส่งผลกระทบต่อแรงงานประมาณ 20,000 คน หรือมากกว่า และอาจสูงกว่านี้มากหากบริษัทต่าง ๆ ปิดตัวลง โดยโรงงานประมาณ 35-40 แห่ง อาจได้รับผลกระทบหากผู้ซื้อตื่นตระหนกกับภาษีศุลกากร ขณะที่การหาตลาดทางเลือก จะต้องใช้เวลา รวมถึงการเจรจาและความพยายามอย่างมาก ซึ่งอาจใช้เวลาหลายปี
ทั้งนี้ทั้งนั้น สหรัฐมุ่งเน้นไปที่ “การขนถ่ายสินค้าไปยังประเทศที่สาม” ซึ่งเป็นแนวทางที่สหรัฐใช้กล่าวหาบางประเทศว่า ช่วยจีนหลบเลี่ยงภาษี ด้วยการบรรจุสินค้าใหม่เพื่อส่งไปยังตลาดอเมริกา โดยนายเคซีย์ โทลซ์แมน ประธานสมาคมธุรกิจลาว-อเมริกัน อธิบายว่า การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ในลาว อาจเป็นหนึ่งใน “ความสงสัย” ของรัฐบาลวอชิงตัน
เขาเสริมว่า ข้อตกลงใด ๆ ก็ตาม อาจจำเป็นให้ลาวต้องบังคับใช้กฎที่เข้มงวดยิ่งขึ้น เกี่ยวกับการขนส่งและประเทศต้นทาง เพื่อให้แน่ใจว่า “สินค้าไม่ได้มาจากจีนและติดป้ายลาว” นอกจากนั้น สหรัฐอาจขอให้รัฐบาลเวียงจันทน์ ปราบปรามศูนย์หลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต หรือขอสัมปทานสำหรับสินค้าอเมริกัน.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES