ภาษีทรัมป์เขย่าเอเชีย ใครรอด-ใครร่วง ?
วันนี้ (1 ส.ค.2568) BBC วิเคราะห์สถานการณ์ นับตั้งแต่ ปธน.ทรัมป์ ประกาศมาตรการภาษีครั้งใหญ่เมื่อ 2 เม.ย ที่ผ่านมา ประเทศในเอเชียจำนวนมากต่างตกอยู่ในภาวะตึงเครียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประเทศที่มีเศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยการส่งออกและพึ่งพิงตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก หลายประเทศพยายามเร่งเจรจาเพื่อหาทางออกก่อนเส้นตาย 1 ส.ค.
พันธมิตรสหรัฐฯ "ลด" ภาษีสำเร็จ หลังเจรจาเข้ม
ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ เป็นผู้ผลิตรถยนต์และเซมิคอนดักเตอร์ที่สำคัญต่อผู้บริโภคในสหรัฐฯ รวมถึงมีความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้น เดิมต้องเผชิญภาษีที่เสนอไว้ร้อยละ 25 ในเดือน เม.ย. แต่หลังจากการส่งคณะผู้แทนการค้าไปเจรจาที่วอชิงตัน ทั้ง 2 ประเทศสามารถลดอัตราภาษีลงเหลือร้อยละ 15 ได้สำเร็จ ข้อตกลงกับญี่ปุ่นถูกประกาศเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ขณะที่ข้อตกลงกับเกาหลีใต้เปิดเผยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 ก.ค.
ไต้หวัน เป็นหนึ่งในผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของโลกและเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ก็เห็นการลดภาษีจากร้อยละ 32 เหลือร้อยละ 20 อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าอุตสาหกรรมชิปของไต้หวันจะต้องเผชิญภาษีภาคส่วนแยกต่างหากหรือไม่ และ ปธน.ไล่ ชิงเต๋อ ของไต้หวันกล่าวว่าอัตราปัจจุบันเป็นเพียง "ชั่วคราว" เนื่องจากยังคงมีการเจรจากับวอชิงตัน
ออสเตรเลีย ซึ่งเผชิญภาษีร้อยละ 10 ดูเหมือนจะลอยลำกับนโนบายเพิ่มภาษีไปได้ แต่ในทางตรงกันข้าม "นิวซีแลนด์" ที่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน กลับเห็นอัตราภาษีเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 15 รัฐมนตรีการค้านิวซีแลนด์กล่าวว่าประเทศของตนถูก"ลงโทษอย่างไม่เป็นธรรม" และได้ขอหารือกับเอกอัครราชทูตและผู้เจรจาการค้าของสหรัฐฯ เพื่อ "ข้อตกลงใหม่" สำหรับการลดภาษี
ซับซ้อนในความสัมพันธ์ "จีน-อินเดีย"
จีน แม้จะไม่ได้ถูกกล่าวถึงในการประกาศล่าสุด แต่ยังคงเป็น "ช้างที่อยู่ในห้อง" การเจรจาทางการทูตระหว่างปักกิ่งและวอชิงตันมีความเข้มข้นขึ้นในหลายเดือนที่ผ่านมา ปักกิ่งพยายามขอให้สหรัฐฯ ระงับการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีสำคัญ เช่น เซมิคอนดักเตอร์อย่างต่อเนื่อง แลกกับการรักษาสมดุลของแร่หายาก ส่วนสหรัฐฯ คาดว่าจะกดดันจีนในเรื่องการควบคุมการผลิตเฟนทานิล, การปรับปรุงการเข้าถึงตลาดสำหรับบริษัทอเมริกัน, การเพิ่มการซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของสหรัฐฯ โดยจีน และการสนับสนุนการลงทุนของจีนในสหรัฐฯ มากขึ้น ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงที่จะขอขยายการพักรบทางการค้าออกไปอีก 90 วัน ซึ่งเดิมจะหมดอายุในวันที่ 12 ส.ค.
อินเดีย ปธน.ทรัมป์ กล่าวถึงมาโดยตลอดว่าเป็น "เพื่อนที่ดี" แต่เรียกเก็บภาษีร้อยละ 25 สำหรับสินค้านำเข้าจากอินเดีย พร้อมกับ "บทลงโทษที่ไม่ระบุรายละเอียด" สำหรับการซื้อน้ำมันและอาวุธจากรัสเซีย รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าความสัมพันธ์ของเดลีกับมอสโกยังคงเป็น "จุดที่น่ารำคาญ" ในความสัมพันธ์อินเดีย-สหรัฐฯ อัตรานี้ถือเป็นการลดลงเล็กน้อยจากภาษีเดิมที่เสนอไว้ร้อยละ 27
เวียดนาม "ต้นแบบ" การเจรจา
เมื่อ ปธน.ทรัมป์ ประกาศอัตราภาษีอย่างน่าตกใจเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ไม่มีที่ใดจะได้รับผลกระทบมากเท่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีแบบแผนเศรษฐกิจที่สร้างขึ้นบนการส่งออกทั้งหมด การเก็บภาษีในตอนแรกสูงถึงร้อยละ 49 ในบางประเทศ กระทบหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่ผู้ส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ในไทยและเวียดนาม ไปจนถึงผู้ผลิตชิปในมาเลเซียและโรงงานเสื้อผ้าในกัมพูชา
ในบรรดา 10 ประเทศในอาเซียน "เวียดนาม" เป็นประเทศแรกที่ได้เจรจากับสหรัฐฯ และเป็นประเทศแรกที่บรรลุข้อตกลง โดยลดอัตราภาษีจากร้อยละ 46 เหลือร้อยละ 20 แม้มีบางรายงานชี้ว่าเวียดนามไม่เห็นด้วยกับตัวเลขของทรัมป์ แต่เวียดนามก็กลายเป็นบรรทัดฐานสำหรับการเจรจาในภูมิภาคนี้
เท่ากับว่าประเทศส่วนใหญ่ในอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ บังกลาเทศ ศรีลังกา ไทย และ เวียดนาม ขณะนี้ต้องเผชิญภาษีที่ร้อยละ 19-20
บรูไน มีอัตราที่สูงกว่าเล็กน้อยที่ร้อยละ 25
ลาว และ เมียนมา ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยเผชิญภาษีสูงถึงร้อยละ 40 ซึ่งเป็นอัตราที่สูงเป็นอันดับ 2 ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการเข้าถึงตลาดที่จำกัด กำลังซื้อที่ต่ำ และความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน อาจมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของทำเนียบขาว
ขณะที่สิงคโปร์ อัตราภาษียังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ร้อยละ 10 เนื่องจากสิงคโปร์มีการนำเข้าจากสหรัฐฯ มากกว่าการส่งออก
ปากีสถานเฮ! ภาษีต่ำสุดเอเชียใต้ หนุนอุตฯ สิ่งทอ
ปากีสถาน มีอัตราภาษีที่ร้อยละ 19 ซึ่งต่ำที่สุดในบรรดาประเทศในเอเชียใต้ และต่ำกว่าคู่แข่งอย่างอินเดียอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างปากีสถานกับสหรัฐฯ อบอุ่นขึ้นภายใต้สมัยที่ 2 ของทรัมป์ เนื่องจากปากีสถานเคยเสนอชื่อทรัมป์สำหรับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในเดือน มิ.ย. อัตราภาษีที่ค่อนข้างต่ำนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมสิ่งทอของปากีสถานเป็นพิเศษ สิ่งทอคิดเป็นเกือบร้อยละ 60 ของการส่งออกทั้งหมดของประเทศ โดยส่วนใหญ่ส่งไปยังสหรัฐฯ
ในขณะเดียวกัน คู่แข่งหลักของปากีสถานในภาคส่วนนี้ ได้แก่ อินเดีย บังกลาเทศ และเวียดนาม ล้วนถูกเก็บภาษีที่สูงกว่า
อัฟกานิสถาน ฟิจิ นาอูรู และ ปาปัวนิวกินี อยู่ในกลุ่มอัตราที่ต่ำกว่า โดยแต่ละประเทศเผชิญภาษีร้อยละ 15
คาซัคสถาน ได้ภาษีร้อยละ 25
ดีลภาษียังไม่จบ ความไม่แน่นอนยังคงอยู่
เป็นที่น่าสังเกตว่าอัตราที่ประกาศในวันนี้ (1 ส.ค.2568) ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ดร. เดบอราห์ เอล์มส์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายการค้าของ Hinrich Foundation ชี้ว่าคำสั่งของประธานาธิบดีระบุว่า
ประธานาธิบดีสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข [อัตราภาษี] โดยอิงจากการสนทนาหรือเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และ ประธานาธิบดีสามารถตัดสินใจอะไรก็ได้ที่ต้องการ และให้อำนาจหน่วยงานในการแก้ไขอุปสรรคทางการค้าในแบบที่เห็นสมควร
อ่านข่าวอื่น :
เปิดลิสต์ "ทรัมป์" ปรับภาษีโลก "ซีเรีย" หนักสุด 41%
รัฐบาลปลื้มปิดดีลภาษีสหรัฐฯ สำเร็จที่ 19% ช่วยรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ
เอกชนมั่นใจไทยแข่งขันได้ หลังสหรัฐฯ ลดภาษีนำเข้า เหลือ 19 %
"ทรัมป์" ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทย 19% เท่ากัมพูชา มาเลเซีย มีผล 1 ส.ค.