‘กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย’ ติดตามสถานการณ์อุทกภัยจากพายุวิภา เผยยังมีพื้นที่น้ำท่วม 4 จังหวัด 12 อำเภอ
เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัย และดินถล่มจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนวิภา โดยมีหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ประสบภัย ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าร่วมประชุม
นายสหรัฐ กล่าวว่า ปภ. ได้ติดตามสถานการณ์น้ำและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “วิภา” และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่ส่งผลให้ช่วงวันที่ 21 ก.ค.-1 ส.ค. เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ จ.น่าน เชียงราย พะเยา ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก อุตรดิตถ์ และเลย รวม 72 อำเภอ 329 ตำบล 1,923 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 66,538 ครัวเรือน 208,678 คน มีผู้เสียชีวิต 6 ราย แบ่งเป็นจังหวัดน่าน 5 ราย และจังหวัดแพร่ 1 รายปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.น่าน เชียงราย สุโขทัย และพิษณุโลก รวม 12 อำเภอ 30 ตำบล 173 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,385 ครัวเรือน 31,025 คน โดยสถานการณ์ระดับน้ำในภาพรวม จ.น่าน เชียงราย และสุโขทัย ระดับน้ำลดลง ส่วน จ.พิษณุโลก ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
นายสหรัฐ กล่าวต่อว่า จากการติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่ม จากอิทธิพลของพายุโซนร้อนวิภา และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มาอย่างต่อเนื่อง ภาพรวมสถานการณ์ส่วนใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเริ่มคลี่คลายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยจังหวัดได้เร่งดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย จัดกิจกรรม Big Cleaning Day เพื่อทำความสะอาดพื้นที่ต่างๆ และสิ่งสาธารณประโยชน์ ให้กลับสู่ปกติโดยเร็ว ขณะที่บางพื้นที่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงปฏิบัติการแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องครอบคลุมทุกด้าน พร้อมดูแลด้านการดำรงชีพ มอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัย รวมถึงจัดทีมช่างเข้าซ่อมแซมบ้านเรือนที่พักอาศัย ซึ่งในส่วนของ ปภ. ยังคงให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัย ในพื้นที่ 4 จังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่
“ขอเน้นย้ำ ทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยต้องทำงานใกล้ชิดกับประชาชน โดยให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัยอย่างเร็วที่สุด สำหรับพื้นที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายให้ระดมเจ้าหน้าที่ พร้อมเครื่องมือ เครื่องจักรกลสาธารณภัย เข้าช่วยเหลือประชาชนในการฉีดล้างทำความสะอาดบ้านเรือน พื้นที่สาธารณะ พร้อมจัดทีมช่างเข้าซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน สิ่งสาธารณูปโภคพื้นฐาน ให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว และยังคงติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงแจ้งประชาชนให้ทราบสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ได้ทันท่วงที พร้อมประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจความเสียหายและจัดทำบัญชีความเสียหายทุกด้าน และเร่งการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะด้านชีวิต การเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ ขอให้เร่งรัดการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาโดยด่วนตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องตลอดจนทำความเข้าใจกับประชาชนถึงขั้นตอนต่างๆ ในการเยียวยาและให้ความช่วยเหลือ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน นอกจากนี้ให้ทุกจังหวัดรายงานและบันทึกข้อมูลผลกระทบและความเสียหายทุกด้านจากสถานการณ์อุทกภัย ตามที่ได้ทำการสำรวจเข้าในระบบข้อมูลสาธารณภัยของ ปภ. ให้ครบถ้วนและสมบูรณ์โดยเร็ว” นายสหรัฐ กล่าว