‘อดีตบิ๊กศรภ.’ วิเคราะห์ คดีนายกฯอุ๊งอิ๊ง ‘ทักษิณ’ ได้กำไรพอแล้ว เตือนอย่าเข้าไปยุ่งอาจพังได้
27ส.ค.2568 - พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กหัวข้อ คดีนายก อุ๊งอิ๊ง จะกระทบต่อศาลรัฐธรรมนูญ ไหม! มีเนื้อหาดังนี้
กรณีคดีของนายกอุ๊งอิ๊ง จะจบแบบใดนั้น มีการวิพากษ์วิจารณ์ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกันมากมายเกือบทุกพื้นที่ของสื่อ เช่น เรื่องการรับถุงขนมบ้าง การให้ข้อสอบกับ นายก อุ๊งอิ๊ง ก่อนมาให้การในศาลบ้าง ฯลฯ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ผมไม่รู้ว่าเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ หรือเป็นเพราะสังคมเคยพบเห็นว่าในอดีตเคยมีการทำในลักษณะนี้ ก็เป็นไปได้ (คนทำก็ติดคุกทุกครั้ง)
แต่สำหรับผมยังเชื่อมั่นในระบบศาลของประเทศไทยทุกศาล เพราะ
(1) คดี นายกอุ๊งอิ๊ง นั้นเป็นคดีดัง ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีไทย แล้วไปเกี่ยวข้องกับนายฮุนเซน และยังเป็นต้นเหตุของการเกิดสงครามระหว่างไทย-กัมพูชา ขึ้นมาในยุคที่ผู้คนคาดไม่ถึง ซึ่งเป็นสงครามที่ทำให้ประเทศ 3 ประเทศ เกิดความภาคภูมิใจยิ้มไม่หุบอยู่ทุกวันนี้ (สวีเดน, กริพเพน กลายมาเป็นเครื่องบินที่ถูกจับตาดูทันที สหรัฐ, F-16 รุ่นแทบปลดประจำการไปแล้ว ยังทำหน้าที่รบร่วมกับเครื่องบินรบ ยุคที่ 4 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และ จีน, รถถัง VT-4 ที่ทำให้ กัมพูชาไร้ทางต้านโดยสิ้นเชิง )
(2) คดี นายกอุ๊งอิ๊ง จึงดังทำให้วงการศึกษาทางนิติศาสตร์ และ ศาลทั่วโลกจับตาดูกันอยู่แบบใกล้ชิดเลย แล้วตุลาการคนไหนจะหน้ามืด กล้ารับถุงขนมกันละครับ
ส่วนเนื้อคดีเอง ก็มีหลายจุด ที่ตุลาการคนไหนจะนำไปบิดเบือนให้ผิด กลายมาเป็นถูก ก็ทำได้ลำบากมาก ครับ นอกจากนั้น ความเป็นมาของเหตุการณ์ คลิปลับนี้ ยังเป็นเรื่องส่วนตัว ที่ส่งผลกระทบต่อความั่นคงของชาติอย่างชัดเจน กล่าวคือ
1.ความสัมพันธ์ระหว่าง ครอบครัวฮุนเซน และ ครอบครัวคุณทักษิณ ที่ยืดยาวมามากกว่า 20 ปีนั้น เป็นที่รู้กันทั่วโลก ค่อนข้างจะเป็นไปในทำนองที่ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบกัมพูชามาโดยตลอด ตั้งแต่การทำเพิกเฉย(แม้จะมีการประท้วงทางการทูตเป็นร้อยครั้งเก็บเป็นหลักฐานไว้) ปล่อยให้กัมพูชาค่อยๆรุกเข้ายึดครองภูมะเขือ บ้านหนองจาน การยอมรับ MOU43 -44 การมารื้อรั้วกั้นปราสาทตาเมือนธมเมื่อปี 54 ไปจนถึงการลอบเข้ามาเผาศาลาตรีมุข ฯลฯ ล้วนเป็นเรื่องที่กระทบต่อเขตอธิปไตยของไทยทั้งสิ้น
2.ครั้งนี้ ความฮึกเฮิมว่าคุณทักษิณ เป็นเบี้ยล่าง ฮุนเซน จึงเตรียมเข้ามายึด ปราสาทตาเมือนธมอีก ส่งทหารเข้ามาลอบวางทุ่นระเบิดหลายครั้ง เมื่อทหารไทยโดนกับระเบิดเข้าสองครั้ง ฮุนเซนก็ขู่ว่าถ้าทหารไทยขึงลวดหนามอีกก็จะเกิดสงครามแน่ พอทหารไทยเริ่มปิดพรมแดน ฮุนเซนก็เริ่มเดือดร้อน โทรศัพย์มาข่มขู่ นายกอุ๊งอิ๊ง จนเกิดคำตอบ ของนายกฯไทย ตามที่ทราบกันอยู่แล้ว (ดูภาพระบายสีแดงประกอบ) เสียงของนายกอุ๊งอิ๊ง ที่ระบุว่า “เรื่อง มทภ.2 ไม่ใช่พวกของเรา” นั้น ทำให้คนคิดกันไปว่า นายกฯ เป็นพวกฮุนเซน หรือ? ซึ่งขัดต่อหน้าที่ของ นรม.ไทยโดยตรง ส่วน “ การจะยอมให้เปิดชายแดน ” นั้น ถือว่าเป็นการกระทำโดยพลการไม่ผ่านกลไกทางด้านความมั่นคง ฯลฯ แต่นายกอุ๊งอิ๊ง แก้ว่าเป็นการพูดแบบการทูตบ้าง เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองบ้าง ก็ต้องไปรอฟังศาลท่านวินิฉัยต่อไปครับ
3.นายกไทยนั้นอ่อนแอ มาตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่งแล้ว พอเกิดเรื่องนี้ขึ้น ทหารเขมรก็ได้ใจ เริ่มยิงก่อน ในรูปแบบสงครามโบราณ แต่ทหารไทยได้ตอบโต้กลับ ในรูปแบบสงคราม 3 มิติ จน 5 วันผ่านไป เขมรก็ซมซาน วิ่งโร่ไปขอให้ สหรัฐฯช่วยยุติศึกที ก่อนที่ไทยจะยึดพื้นที่คืนไปได้ทั้งหมด ความอหังกาของฮุนเซนที่เคยแสดงออก สั่งให้ฝ่ายไทยต้องเป็นฝ่ายเปิดด่านก่อน รวมถึงการขู่ว่า ถ้าขึงลวดหนามจะเกิดสงครามทันทีนั้น หายไปหมด “ฮุนเซน ยอมรับทุกเงื่อนไข ” ทหารไทยจึงสามารถทวงพื้นที่ที่กัมพูชายึดไป คืนมาได้เกือบทั้งหมด
การรบครั้งนี้ ทหารได้สร้างบารมีให้คุณทักษิณ กลับมาอยู่เหนือ ฮุนเซน ปลดแอกของฮุนเซนออกไปเกือบทั้งหมด ผมว่าคุณทักษิณก็ “กำไร“มากพอแล้ว เรื่องของ “นายกอุ๊งอิ๊ง” ก็ให้เขาสู้ไปตามแบบของเขา อย่าเข้าไปยุ่งเลยครับ อย่าถึงขั้นได้ทั้ง 3 อย่างพร้อมๆกัน คือ (1) ชนะฮุนเซน (2) ได้ตำแหน่งของลูกสาวคืนมา และ (3) พังศาลรัฐธรรมนูญไปด้วย
ถ้าออกมารูปนี้ ผลสะท้อนจะกลับมาที่ตัวคุณทักษิณ แบบไม่เบาแน่ๆ
อาจจะถึงขั้นทำให้คุณทักษิณ ”พัง“ ตามไปด้วยนะครับ