ญี่ปุ่นแบกหนี้ ‘สูงทุบสถิติ’ กว่า 7 ล้านล้านบาท การคลังเหนื่อย
เว็บไซต์นิกเกอิ เอเชียรายงานว่ารัฐบาลญี่ปุ่น เตรียมเสนอวงเงิน 220,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 7 ล้านล้านบาท สำหรับการชำระหนี้ ในปีงบประมาณถัดไป ซึ่งถือเป็น “ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์” อันเป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น
เมื่อวันอังคาร กระทรวงการคลัง ได้ยื่นคำของบประมาณดังกล่าวต่อพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายกำลังจัดทำร่างงบประมาณสำหรับปีงบประมาณ 2026 ที่จะเริ่มในเดือนเมษายน
ค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้ดังกล่าวจะ “เพิ่มขึ้น 15%” จากงบปีปัจจุบัน และพุ่งทะลุ 30 ล้านล้านเยนเป็นครั้งแรก ซึ่งการเพิ่มขึ้นนี้ สร้างความเสี่ยงที่จะลดความยืดหยุ่นในการใช้จ่ายด้านอื่น ๆ
โดยรวมแล้ว คำของบประมาณเบื้องต้นทั้งหมด คาดว่าจะทะลุ 120 ล้านล้านเยนเป็นครั้งแรก ขณะที่ญี่ปุ่นต้องเผชิญภาระค่าใช้จ่ายจากการดูแลสังคมผู้สูงอายุ
ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ได้ยื่นคำของบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 34.79 ล้านล้านเยน และกระทรวงกลาโหมก็ยื่นของบ 8.8 ล้านล้านเยน ซึ่งถือว่าสูงสุดเช่นกัน
สำหรับการจ่ายดอกเบี้ยนั้น เป็นที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 24% เป็น 13.04 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตัวเลขนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานอัตราดอกเบี้ย 2.6% เพิ่มขึ้นจาก 2% ที่ใช้ในงบประมาณปีงบประมาณ 2025
จากหนี้ที่กองสูงขึ้นเรื่อย ๆ เช่นนี้ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีรุ่นใหม่แตะ 1.62% เมื่อวันอังคาร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 ปี โดยนักลงทุนในตลาดพันธบัตรกำลังสะท้อนความคาดหวังว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงความกังวลต่อสถานการณ์การคลังของญี่ปุ่นที่ย่ำแย่ลง
ขณะเดียวกัน พรรครัฐบาลที่นำโดย LDP ซึ่งปัจจุบันไม่มีเสียงข้างมากเด็ดขาดทั้งในสภาสูงและสภาล่าง ก็กำลังเผชิญแรงกดดันให้ลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่าย
ไม่เพียงเท่านั้น หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น ยังส่งผลให้ภาระดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้น ปัจจุบันยอดคงค้างของพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นแบบทั่วไป มีมูลค่าเกินกว่า 1,000 ล้านล้านเยนแล้ว
แม้ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ จนทำให้อัตราส่วนหนี้ต่อ GDP มีแนวโน้มลดลง แต่ภาระหนี้ยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับมาตรฐานสากล ทำให้แม้เพียงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเล็กน้อย ก็สามารถทำให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยพุ่งสูงได้อย่างรวดเร็ว
ในส่วนงบประมาณที่จำเป็นและไม่สามารถเลี่ยงได้ เช่น เงินเดือนและค่าจ้างบุคลากร หรือค่าใช้จ่ายพื้นฐานของรัฐ ปีนี้ กระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ “ได้รับอนุญาตให้ของบเพิ่มขึ้นได้” เพื่อให้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น เช่น กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยว ได้ยื่นขอเพิ่มงบประมาณขึ้น 10% ซึ่งแตกต่างจากปีก่อน ๆ ที่มีกฎว่า หน่วยงานแต่ละแห่งควรยื่นคำขอไม่เกินระดับค่าใช้จ่ายของปีที่ผ่านมา
อ้างอิง: nikkei