โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เหยียบบึ้มเซ่นRBC ‘มทภ.2’ประณามกัมพูชา ทบ.จ่อสร้างกำแพงถาวร

ไทยโพสต์

อัพเดต 28 สิงหาคม 2568 เวลา 4.01 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"ภูมิธรรม" รับฟังข้อเสนอ "ปลอดประสพ" จ่ายชดเชยชาวเขมร แลกออกจากพื้นที่บ้านหนองจาน มั่นใจม็อบไทยชนม็อบกัมพูชาชายแดนสระแก้วไม่บานปลาย "ไทย-กัมพูชา" ลงนามผลประชุม RBC 11 ข้อ ร่วมมือเก็บกู้ระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ไม่ยั่วยุทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน ห้ามโจมตีที่ตั้งทหาร "มทภ.2" หวังเขมรให้ความร่วมมือไม่บิดเบือน ปัดคุยรื้อลวดหนาม ย้ำทำเพื่อป้องกันฐานที่ตั้งแนวเขต "ผบ.ทสส." หนุน ทบ.เตรียมสร้างกำแพงถาวรชายแดน "พลทหาร" เหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย หลังออกลาดตระเวน เพื่อนอีก 2 นายบาดเจ็บ "บิ๊กกุ้ง" ประณามเขมรละเมิดข้อตกลง "บัวแก้ว" ร้องเลขาฯ UN โชว์หลักฐานชัดเขมรใช้ทุ่นระเบิดสังหาร "สว." ย้ำตั้งกมธ.ยกเลิก MOU 43-44 ต้องรอบคอบ เหตุเสี่ยงสูญเสียดินแดน

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์บ้านจอก อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ชายแดนไทย-กัมพูชา อาจเกิดเหตุบานปลายและปะทะกันระหว่างกลุ่มคนไทยและกลุ่มคนกัมพูชาว่า สถานการณ์คงไม่ไปถึงเช่นนั้น ตนได้รับรายงานเมื่อเช้า (27 ส.ค.) มีความสงบดี รัฐบาลได้เตรียมมาตรการไว้ตามกฎหมายบ้านเมือง หากมีอะไรเกินเลยก็พยายามหาทางยุติ ที่สำคัญรัฐบาลยังยึดมั่นในหลักการในการแก้ไขปัญหาโดยไม่ให้เกิดการยั่วยุ โดยเฉพาะฝั่งไทยที่ได้ยืนยันไปอย่างชัดเจน และมีโอกาสได้พูดคุยกับตัวแทนจากต่างประเทศ ซึ่งหลายประเทศก็เข้าใจในเจตนาของไทยว่าไทยมีจุดยืนดังกล่าวตั้งแต่เริ่มต้น ฉะนั้นจึงเป็นมาตรการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแล หากเป็นเรื่องที่ละเมิดหรือผิดกฎหมายตำรวจก็ต้องดำเนินการ ทหารก็เฝ้าระวังตามชายแดน เชื่อว่าไม่น่าจะบานปลาย

นายภูมิธรรมกล่าวถึงข้อเสนอนายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี เสนอให้จ่ายเงินชดเชยแก่ชาวบ้านชาวกัมพูชา เพื่อแลกให้ออกจากพื้นที่บ้านหนองจานว่า ยังตอบอะไรไม่ได้ ต้องขอดูข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งจะทำอะไรก็ตามบ้านเมืองมีกฎเกณฑ์และกติกา เราต้องคำนึงถึงกฎหมายและยึดหลักกฎหมายเป็นหลัก ยังบอกไม่ได้ว่าจะดำเนินการอย่างไร

"แต่ก็ถือว่าเป็นข้อเสนอที่รัฐบาลรับฟัง ขณะนี้ก็มีบุคคลที่มาเสนอ หลายมาตรการมีทั้งแรงไปบ้าง เบาไปบ้าง ซึ่งรัฐบาลก็รับฟังและจะนำไปพิจารณา" นายภูมิธรรมกล่าว

ที่จุดผ่านแดนถาวร ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ตรงข้ามช่องจวม จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา เวลา 12.15 น. มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย-กัมพูชา โดยพล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ทำหน้าที่ประธานฝ่ายไทย และพล.ท.โปว เฮง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ทำหน้าที่ประธานฝ่ายกัมพูชา

พล.ท.บุญสินแถลงผลการประชุม RBC ไทย-กัมพูชาว่า ที่ประชุมได้ลงนามข้อตกลงร่วมกัน 11 ข้อ คือ 1.ทุกฝ่ายเห็นพ้องว่าการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา (GBC) ในห้วงที่ผ่านมา มีผลบังคับใช้ และทั้งสองฝ่ายยอมรับทุกข้อ 2.ขอให้ทั้งสองฝ่ายได้ตกลง เรื่องการสื่อสารตามปกติ หมายถึง การติดต่อสื่อสารระหว่างกำลังทหารในพื้นที่ให้มีมากขึ้น 3.ขอให้ทั้งสองฝ่ายเข้มงวดการออกข้อความที่เป็นเท็จในสังคม การสื่อสารทางออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย ขอความร่วมมือโดยให้ทั้งสองฝ่ายดูข้อเท็จจริง ดูมวลชนฝ่ายตัวเอง โดยฝ่ายไทยได้ขอให้ทำฝ่ายกัมพูชาไปกำกับดูแลในส่วนนี้ เพื่อระมัดระวังในการออกข้อมูลที่เป็นเท็จซึ่งจะนำมาซึ่งความไม่เรียบร้อยในประเทศ

4.ขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ขยายความขัดแย้ง โดยการกระทำใดๆ ไม่มีการยั่วยุทางด้านการทหาร รวมถึงการใช้พลเรือนยั่วยุเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในพื้นที่ตามแนวชายแดน ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน 5.การดำเนินการใดๆต่อที่ตั้งทางทหารของแต่ละฝ่าย ต้องได้รับความคุ้มครอง ให้มีความปลอดภัย โดยไม่กระทำต่อที่ตั้งของแต่ละฝ่าย โดยใดๆ ก็ตาม หมายถึง การปรับปรุงฐานที่มั่น ต้องได้รับความคุ้มครอง เช่น การทำบังเกอร์ ห้ามมีการยั่วยุและทำร้ายซึ่งกันและกันในที่ตั้ง พร้อมขอให้ทั้งสองฝ่ายมีการลาดตระเวนเช่นเดิม ส่วนพื้นที่ในที่ตั้งหน่วยทหารต่างฝ่ายให้มีการปรับปรุงตามสมควร ไม่ให้มีการใช้อาวุธต่อที่ตั้งทหารซึ่งกันและกัน 6.ให้ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำถึงการพัฒนาเชิงบวก ปฏิสัมพันธ์ในแง่ที่ดี หมายความว่า พบปะกัน พัฒนาความสัมพันธ์ไปในทิศทางที่ดี โดยขอความร่วมมือทหารระดับล่าง จนถึงระดับสูง ขอให้เพิ่มการพบปะพัฒนาสัมพันธ์ ให้มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน

RBC ไทย-กัมพูชาตกลง 11 ข้อ

7.ให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามมนุษยธรรม ซึ่งทั้งสองประเทศเป็นสมาชิกอนุสัญญาออตตาวา จึงขอความร่วมมือไม่ให้ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยทางฝ่ายกัมพูชาได้เสนอว่าในประเด็นนี้ ขอนำไปสู่การประชุม GBC ครั้งหน้า เนื่องจากเป็นระดับนโยบาย แต่ในส่วนฝ่ายไทยยืนยันการประชุมในครั้งนี้ว่าให้งดการใช้ทุ่นระเบิด ตามหลักอนุสัญญาออตตาวา 8.ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบจัดตั้งชุดประสานงานซึ่งปัจจุบันมีอยู่แล้ว แต่จะเพิ่มขึ้นไปอีก แต่จะไปตกลงกันในเรื่องรายละเอียดอีกครั้ง ซึ่งเบื้องต้นจะจัดให้ฝ่ายละ 4 นาย ซึ่งปกติก็ประสานงานกันอยู่แล้วในระดับผู้การกรม ถือเป็นเรื่องที่ดี ไม่มีอะไรเสียหาย 9.ทั้ง 2 ฝ่ายยืนยันที่จะให้ความร่วมมือในการปราบปราม ป้องกัน อาชญากรรม ข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การหลอกลวงออนไลน์ สแกมเมอร์ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ การลักลอบ ค้าอาวุธ รวมถึงกิจกรรมที่ผิดกฎหมายข้ามแดนทั้งหมด โดยฝ่ายไทยยืนยันที่จะดำเนินการเรื่องนี้ทันที แต่ฝ่ายกัมพูชาขอให้นำประเด็นนี้เข้าสู่ในการประชุม GBC

10.ทั้งสองฝ่ายยืนยันความสำคัญ ตอบสนองต่อการประท้วง เกี่ยวกับข้อพิพาทต่างๆ ขอให้รีบดำเนินการโดยเร็ว ซึ่งต่อเรื่องนี้ ฝ่ายไทยขอกำหนดเวลาในห้วงแรก แต่ฝ่ายกัมพูชาเสนอว่าการกำหนดห้วงเวลาให้ไปหารือในการประชุม GBC หมายความคือ หากมีการกระทำผิดเอ็มโอยูหรือข้อตกลงต่างๆ มีการรุกล้ำอธิปไตย เมื่อมีการประท้วงทางเอกสารแล้ว ให้อีกฝ่ายได้ตอบสนอง ต่อปัญหานั้นให้รวดเร็ว โดยขอให้กำหนดเป็นห้วงเวลา ตอบรับการแก้ปัญหาที่มีความขัดแย้งกัน เช่น การทำผิดเอ็มโอยู 43 มีการก่อสร้าง ในพื้นที่ ฝ่ายไทยได้ทำหนังสือประท้วงไป ฝ่ายกัมพูชาก็ขอให้ไปหารือในการประชุม GBC 11.ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบให้มีการจัดประชุม RBC ขึ้นตามห้วงเวลาที่กำหนด เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

"ฝ่ายไทยได้เสนอว่าการจัดตั้งคณะผู้สังเกตการณ์ IOT ชุดปัจจุบันสามารถทำงานได้ดี เช่น ผู้ช่วยทูตทหาร จึงเห็นชอบว่าให้คงคณะ IOT ชุดนี้ต่อไป เพียงแต่ข้อนี้ไม่ได้อยู่ในบันทึกการประชุม มีเพียง 11 ข้อที่อยู่ในบันทึกการประชุม เพื่อเจตนาที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น" พล.ท.บุญสินกล่าว

ต่อมา พล.ท.บุญสินให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงการวางระเบิดใหม่ของฝ่ายกัมพูชาว่า ทางกัมพูชาไม่ยอมรับ แล้วยังยืนว่าได้ปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยทุ่นระเบิดอย่างเคร่งครัด แต่ถึงอย่างไรหากยังมีการวางทุ่นระเบิดอีกทางพื้นที่เราก็พร้อมจะตอบโต้ เพราะเป็นการรุกล้ำอธิปไตย ซึ่งการละเมิดเอ็มโอยู 43 ต่างๆ นั้น ต้องดูผลการปฏิบัติต่างจากนี้ว่ามีความจริงใจหรือไม่ และขึ้นอยู่กับผู้นำของกัมพูชาด้วยว่ามีทิศทางอย่างไรต่อไป แต่เราก็พร้อมปฏิบัติทุกรูปแบบเหมือนกัน

"เรื่องรั้วลวดหนามที่กัมพูชาประท้วงเขาก็พูดขึ้นมา ผมก็ยืนยันว่าเป็นการป้องกันฐานที่ตั้งตามแนวเขตที่ถูกต้องตามกฎหมาย และตามหลักยุทธวิธี เรายืนยันว่าไม่รื้อ" พล.ท.บุญสินกล่าว

ถามว่า กังวลหรือไม่มีข้อตกลงกันแล้วก็ยังมีการบิดเบือนและฝ่าฝืน แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศอยู่ในที่ประชุมด้วย และมีการตรวจสอบคำพูดในแถลงการณ์ทั้งหมด ตนได้ลงนามทั้ง 11 ข้อ ก็ต้องเป็นไปตามนั้น ไม่มีเพี้ยน

ซักถึงเหตุการณ์ที่กัมพูชานำมวลชนมากดดันในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีส่วนในการกำหนดข้อตกลงอาร์บีซีในวันนี้หรือไม่ พล.ท.บุญสินยอมรับว่า ใช่ ในข้อที่ 4 ที่ระบุว่า มายุยงทั้งทางทหารและพลเรือน รวมทั้งไม่ใช้กำลังทหารและพลเรือนในการสร้างความขัดแย้งตลอดแนวชายแดน ซึ่งเขาก็ยอมรับ

"ในส่วนกองทัพภาค 2 ได้ให้นโยบายกับผู้บังคับหน่วยไปว่าให้มีความเด็ดขาดในการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นจุดไหน ถ้ามีท่าทีจะลุกล้ำอธิปไตยไม่ว่าจะเป็นใครทั้งนั้น ซึ่งเราก็มีแผนปฏิบัติตามขั้นตอนอยู่แล้ว ตั้งแต่การแจ้งเตือน เป็นมาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยหลีกเลี่ยงไม่ให้ประชาชนของสองฝ่ายปะทะกัน" แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว

ทัพบกเล็งสร้างกำแพงถาวร

ถามว่า สถานการณ์ที่ จ.สระแก้ว จะทำให้เกิดการบานปลายหรือไม่ พล.ท.บุญสินกล่าวว่า เชื่อมั่นว่าท่านแม่ทัพภาคที่ 1 จะแก้ไขได้ ให้กำลังใจกัน ในส่วนของเรากองทัพภาคที่ 2 ก็เตรียมเหมือนกัน สำหรับประชาชนตามแนวชายแดนให้ฟังข่าวสารจากฝ่ายความมั่นคงและกองกำลังสุรนารีเป็นหลัก ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีอะไร และไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะใช้กำลัง ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าไปตื่นตระหนก หรือดูจากสื่อโซเชียลแล้วไปขนย้ายข้าวของออกจากบ้าน ต้องตรวจสอบให้ดีก่อน อย่าเพิ่งตกใจ

ที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน จ.เพชรบุรี มีการประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ประจำปี 2568 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับสหรัฐอเมริกา หัวข้อสำคัญของการหารือคือการเน้นย้ำเรื่องความเข้มแข็งในภูมิภาค ต่อสู้กับภัยคุกคามด้านต่างๆ ขับเคลื่อนกลไกของอาเซียนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในห้วงเวลาที่ประเทศมหาอำนาจกำลังแข่งขันกัน โดยการประชุมครั้งนี้มี 29 ประเทศเข้าร่วม ขาดเพียงแค่กัมพูชา เท่านั้น

พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) กล่าวว่า หลายประเทศได้สอบถามถึงสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งไทยได้ใช้โอกาสนี้ในการส่งข้อมูลที่เป็นความจริงไปยังนานาประเทศที่เข้าร่วมประชุม พร้อมย้ำว่าทุกการกระทำเป็นการทำหน้าที่ในการปกป้องผลประโยชน์ดินแดนของไทย รวมทั้งคุ้มครองชีวิตของประชาชน ซึ่งไทยไม่ต้องการเห็นการสู้รบ

ถามถึงการสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พล.อ.ทรงวิทย์กล่าวว่า กองทัพบกกำลังพิจารณาและนำไปปฏิบัติ ทั้งในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 โดยเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ได้ให้เสนาธิการลงไปในพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว และสื่อสารออกมาอย่างชัดเจนว่าพื้นที่ตรงนั้นคือดินแดนของไทย และจะต้องมีการสร้างกำแพงที่แข็งแรง เพื่อปกป้องประชาชนและปกป้องการรุกรานจากฝ่ายตรงข้าม โดยยืนยันว่าตนจะสนับสนุนทุกการกระทำของกองทัพบกอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.45 น. ได้เกิดเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดยังไม่ทราบชนิด ที่บริเวณชายแดนด้านปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ทำให้ข้อเท้าขาขวาท่อนล่างขาด ทราบชื่อต่อมาคือ พลทหารอดิศร ป้อมกลาง สังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23

เจ้าหน้าที่ทหารนำผู้บาดเจ็บส่งไปยัง โรงพยาบาลพนมดงรัก เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เพื่อส่งต่อไปรักษาที่ รพ.สุรินทร์อย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่คณะผู้แทนทางการทูตของสหภาพยุโรปลงพื้นที่ อ.พนมดงรักอีกด้วย

พล.ท.บุญสินกล่าวว่า ขอประณามกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและอนุสัญญาออตตาวาต่อเนื่อง หลังวันนี้เวลาประมาณ 15.45 น. ได้เกิดเหตุพลทหารอดิศรเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว

ทหารเหยียบระเบิดขาขาดอีก

พล.ท.บุญสินระบุว่า เนิน 350 ปราสาทตาควาย เป็นพื้นที่ที่ทหารกัมพูชาวางกำลังหนาแน่น และมีทุ่นระเบิดรอบพื้นที่ โดยวันนี้ทหารไทยออกไปลาดตระเวน ซึ่งเครื่องตรวจ วัตถุระเบิดตรวจหาไม่เจอ เนื่องจากทุ่นระเบิดดังกล่าวเป็นโครงสร้างเป็นพลาสติก คาดเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ เบื้องต้นได้ทำหนังสือประท้วงไปทางฝ่ายกัมพูชาแล้ว และเตรียมกำหนดแผนทางการทหารต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่หน่วยทหารจาก พัน.ร.22 ได้จัดกำลังพลออกลาดตระเวนระหว่างฐานปฏิบัติการ บริเวณ หน้าบังเกอร์ 11-12 ด้านทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้เหยียบกับระเบิดแสวงเครื่องชนิด PMN-2 ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1.พลทหารอดิศร ป้อมกลาง สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 บาดเจ็บข้อเท้าขวาขาด ขณะนี้อยู่ระหว่างลำเลียงทางอากาศจาก รพ.พนมดงรัก ไปยัง รพ.สุรินทร์ พร้อมชุด Sky Doctor 2. จ.ส.อ.ณัฐพงศ์ สีชิน สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่แผ่นหลัง อาการบาดเจ็บเล็กน้อย ส่งกลับเข้ารับการรักษาที่ รพ.พนมดงรัก

3.พลทหารธรรณ์ณธร เทากระโทก สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 บาดเจ็บที่ข้อมือซ้าย อาการไม่รุนแรง ส่งกลับเข้ารับการรักษาที่ รพ.พนมดงรัก

ขณะนี้หน่วยที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย

ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ตอบโต้กรณีนายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงว่าฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชาและละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ต.โอเบยเจือน อ.โอโจรว จ.บันเตียเมียนเจีย ว่าขอยืนยันการดำเนินการดังกล่าวอยู่ในเขตอธิปไตยไทยทั้งสิ้น และจากการปฏิบัติดังกล่าว ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจยของฝ่ายกัมพูชา แต่กลับเป็นฝ่ายกัมพูชาที่สนับสนุนให้ประชาชนกัมพูชามารุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนไทย "เรื่องจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านหนองจานนั้น คือการที่ฝ่ายกัมพูชาได้สนับสนุนให้มีการตั้งชุมชนรุกล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยของไทย ซึ่งถือว่าผิดข้อตกลงตาม MOU 43 จนทำให้ประชาชนไทยได้รับความเดือดร้อน แม้ฝ่ายไทยได้มีการประท้วงไปตามขั้นตอน แต่ก็ไม่เคยได้รับการแก้ไขจากฝ่ายกัมพูชา รวมถึงลักษณะดังกล่าว ไม่ได้เป็นการขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน เพราะบริเวณพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้งอยู่เดิม และเกิดขึ้นมานานกว่า 20 ปี โดยฝ่ายไทยได้ใช้แนวทางแก้ไขด้วยการประท้วงตามเงื่อนไขข้อตกลง MOU 43 มาโดยตลอด แต่ฝ่ายกัมพูชากลับเพิกเฉย" โฆษกกองทัพบกระบุ

ขณะที่ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ได้มีหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติ จัดส่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชาในอาณาเขตของประเทศไทย โดยเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยฯ มีกำหนดพบกับเลขาธิการสหประชาชาติ ในวันที่ 28 ส.ค.2568 เพื่อหารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวและสถานการณ์ล่าสุดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

ไทยร้อง UNเขมรวางทุ่นระเบิด

ในการดำเนินการดังกล่าว ประเทศไทยพยายามอย่างยิ่งเพื่อจัดการกับปัญหาร้ายแรงนี้ด้วยความโปร่งใส และเป็นไปตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลหรืออนุสัญญาออตตาวา ข้อชี้แจงนี้จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจในสถานการณ์อย่างรอบด้านบนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ในฐานะรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งให้โลกปราศจากทุ่นระเบิด และแสดงความห่วงกังวลอย่างสูงต่อการใช้อาวุธที่สร้างความเสียหายอย่างไม่จำกัด ซึ่งเป็นภัยคุกคามรุนแรงและสร้างความเสียหายถาวรต่อชีวิต เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาพื้นที่ชายแดนและบั่นทอนเสถียรภาพของภูมิภาค

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยยังคงยืนหยัดที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างสันติผ่านช่องทางทางการทูต ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมทั้งดำรงไว้ซึ่งความมั่นคงตามแนวชายแดนและความปลอดภัยของประชาชน

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ทนายไทยในสวีเดน AB. ร่วมกับเครือข่ายคนไทยผู้รักชาติจากหลากหลายประเทศทั่วโลก ได้รวมพลังสร้างความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ จัดทำวิดีโอสุนทรพจน์ของ ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระดับประเทศ ใน 10 ภาษา เพื่อถ่ายทอดข้อเท็จจริงไปสู่ประชาคมโลกอย่างรอบด้าน

วิดีโอดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อ โต้กลับข้อมูลบิดเบือน ที่กล่าวหาประเทศไทยว่าเป็นผู้ริเริ่มใช้ความรุนแรง พร้อมย้ำจุดยืนว่า กองทัพไทยใช้กำลังเพื่อปกป้องประชาชนและอธิปไตยของชาติ หลังเกิดการโจมตีพื้นที่พลเรือน โรงพยาบาล และบ้านเรือน ซึ่งถือเป็น การละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดเจน

“ความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นในสังคมโลก คือการมองว่าประเทศไทยใช้กำลังเกินกว่าเหตุในขณะที่คู่กรณีไม่มีเครื่องบินรบ” ตัวแทนจากบริษัท ทนายไทยในสวีเดน AB. กล่าว และว่า การสื่อสารข้อเท็จจริงด้วยภาษาบ้านเกิดของผู้คนในแต่ละประเทศ จะเป็นพลังจากหัวใจสู่หัวใจที่ช่วยแก้ไขความเข้าใจผิดได้อย่างตรงจุด

นอกจากนี้ วิดีโอยังรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ อาทิ ภาพถ่ายดาวเทียม เอกสารทางประวัติศาสตร์ และข้อมูลด้านมนุษยธรรม เพื่อยืนยันว่าประเทศไทยยึดมั่นในสันติภาพ และพร้อมให้ความช่วยเหลือเพื่อนบ้านมาโดยตลอด ซึ่งปรากฏชัดในประวัติศาสตร์การช่วยเหลือชาวกัมพูชาที่เดือดร้อนในหลายทศวรรษที่ผ่านมา

วิดีโอนี้ถูกจัดทำขึ้นใน 10 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ, สเปน, อิตาลี, โปรตุเกส, เยอรมัน, จีน, รัสเซีย, สวีเดน, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์ และสวิส โดยมีกำหนด เผยแพร่พร้อมกันทั่วโลก เพื่อสร้างการรับรู้เชิงบวกและปกป้อง ศักดิ์ศรีของประเทศไทยในเวทีนานาชาติ

ที่รัฐสภา นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) แถลงว่า ที่ประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ซึ่งเป็นการประชุมลับของวุฒิสภา โดยได้ตั้งคณะกรรมการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. เป็นผู้เสนอ จำนวน 25 คน โดยที่ประชุมใช้เวลาพิจารณาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ผู้เสนอญัตติเห็นว่า MOU 2543 ว่าด้วยเรื่องการสำรวจและปักปันเขตแดนจากการยึดถือเส้นเขตแดนที่ต่างกันคือไทยยึดตามแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ขณะที่กัมพูชายึดตามแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 และ MOU 2544 ว่าด้วยการอ้างสิทธิ์พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล 26,000 ตารางเมตรล้วนทำให้ไทยเสียเปรียบ

"เห็นว่า MOU ทั้ง 2 ฉบับที่รัฐบาลไทยในอดีตได้ทำกับรัฐบาลกัมพูชานั้นมีปัญหา จะทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงสูญเสียดินแดนทั้งทางบกและทางทะเล อันเป็นผลประโยชน์ของชาติ ซึ่ง MOU เห็นว่าทั้ง 2 ฉบับเป็นส่วนที่ทำให้ไทยเสียเปรียบ จึงต้องพิจารณายกเลิกอย่างรอบคอบและรอบด้าน" โฆษก กมธ.วิสามัญกิจการวุฒิสภาระบุ.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

อย่าไว้ใจ ‘เขมร’

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นโยบาย’ด้นสด’?

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ขายฝันซ้ำซาก

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘อิ๊งค์’ไปต่อเมิน2พันล.พลิกขั้ว

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

“ภูมิธรรม” นำทีมทลายบ่อน “นวย ดอนเมือง” รวบนักพนัน 176 ราย พบเงินสะพัดหลักร้อยล้าน

เดลินิวส์

คณะมนตรีความมั่นคงฯ ยกเว้นสหรัฐ ชี้ภาวะอดอยากในฉนวนกาซาคือวิกฤตที่มนุษย์สร้างขึ้น

JS100
วิดีโอ

สน.บางรัก สนธิกำลัง กก.ดส. และตำรวจ 191 บุกตรวจเข้มสถานบันเทิงย่านสีลม ไร้ปัสสาวะสีม่วง

สวพ.FM91

พบ พระ-เณร สำนักสงฆ์ดัง ถือซองเดินเรี่ยไร จับตรวจฉี่ม่วงปรี๊ด ยอมรับเสพยาบ้าทั้งคู่

Khaosod

มาตรการภาษีสหรัฐฯที่ร้อยละ 50 เริ่มบังคับ โมดีเรียกร้องประชาชนสนับสนุนสินค้าในประเทศ

JS100

ทำยังไงดี?! สาวตั้งกระทู้ปวดใจ ‘ลุง PM’ วัย 45 ตามจีบไม่เลิก ชาวเน็ตแห่เมนต์สนั่น!

เดลินิวส์

กฟน. แจ้งไฟฟ้าดับวันนี้ 28-29 ส.ค. 68 กทม. นนทบุรี สมุทรปราการ

ฐานเศรษฐกิจ

หนังสือเรียน ป.5 ยกย่อง "อดีตพระอลงกต" ชาวพุทธตัวอย่าง สพฐ. สั่งถอดเนื้อหาแล้ว

sanook.com

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...