MIND: งานวิจัยชี้ คนสุขภาพจิตดี จะมีเพื่อนอย่างน้อย 5 คน ไว้แชร์เรื่องราวสำคัญในชีวิต (ถ้ามีเพื่อนเพียง 3 คน เสี่ยงสุขภาพจิตแย่ได้)
ทุกวันนี้ความเหงาถือเป็นภัยใหญ่ของมนุษยชาติ และคนทำงานด้านสาธารณสุขก็เริ่มเห็นตรงกันทั้งโลกว่าคนยิ่งแก่ ยิ่งควรจะมีกิจกรรมทางสังคม ไม่เช่นนั้นสุขภาพจิตจะไม่ดี และจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพสารพัด
แต่อีกด้านหนึ่ง คำถามเรื่อง ‘ความเหงา’ บางทีมันก็เป็นมิติเชิงปริมาณ เพราะจริงๆ แล้ว ‘มาตรวัด’ ว่าเรามีเพื่อนหรือไม่ มันไม่ใช่ว่าวันๆ หนึ่งเราคุยกับคนกี่คน แต่มันคือว่าเวลาที่เรามีเรื่องสำคัญในชีวิตแล้วเรา ‘อยากคุย’ จริงๆ เรามีคนสักกี่คนที่เราพร้อมจะส่งข้อความไปหา หรือยกหูโทรศัพท์โทรไปเล่าให้ฟัง
ผลวิจัยจากบริษัทประกันออสเตรเลียอย่าง Medibank ชี้ว่าจริงๆ แล้วเส้นแบ่งที่แท้จริงนั้นไม่ใช่ว่าคนเราจะมี ‘เพื่อน’ แบบที่ว่ามานี้หรือไม่มี แต่ประเด็นเชิงปริมาณว่ามีกี่คนก็สำคัญ
ถ้าจะอธิบายง่ายๆ เป็นตัวเลขก็คือ เขาพบว่าคนที่สุขภาพจิตดีคือคนที่มี ‘เพื่อนที่พร้อมปรับทุกข์’ อย่างน้อยๆ 5 คนขึ้นไป และยังพบอีกว่าหากมีเพื่อนจำนวน 3 คน หรือน้อยกว่านั้น จะเริ่มส่งผลต่อสุขภาพจิตในทางลบอย่างชัดเจน
งานไม่ได้อธิบายว่าทำไมถึงเป็นตัวเลขนี้ แต่ข้อเท็จจริงก็คือ ในวัฒนธรรมปัจจุบันของตะวันตก ที่ในเวลาจัดงานแต่งจะมี ‘เพื่อนเจ้าบ่าว’ และ ‘เพื่อนเจ้าสาว’ มาร่วมงาน โดยทั่วไปก็จะมี 3-5 คน และมันก็สะท้อนว่า เอาเข้าจริงคนคนหนึ่งก็จะมีเพื่อนที่สนิทกันมากๆ ประมาณนี้เอง
อย่างไรก็ตาม งานชิ้นนี้ได้ชี้ให้เห็นว่า ยิ่งเรามีเพื่อนที่สามารถปรับทุกข์ด้วยจำนวนมาก ก็ยิ่งมีแนวโน้มจะมีสุขภาพจิตที่ดี ฉะนั้นโดยหลักๆ แล้วอธิบายจากมุมคนเริ่มมีอายุ ถึงเราจะมีเพื่อนที่คุยกันสนิทใจได้ แต่คนที่สามารถคุยได้ทุกเรื่องจริงๆ นั้นจะลดลงไปตามกาลเวลา และมันไม่ได้เกิดจากเรื่องบาดหมางใดๆ แต่มันเกิดได้จากตั้งแต่เพื่อนทำงานยุ่งมากๆ เพื่อนต้องดูแลลูกที่ยังเล็กมากๆ เพื่อนต้องดูแลพ่อแม่ที่เจ็บป่วย หรือกระทั่งเพื่อนเสียชีวิต ดังนั้นถึงแม้เรามีเพื่อนจริงๆ 5 คน แต่เวลาเรามีเรื่องใหญ่ๆ ในชีวิต อาจมีเพียงแค่ 1-2 คนเท่านั้นที่พร้อมจะคุยกับเราในตอนนั้น และถ้าเรามีเพื่อนแค่ 2-3 คน โอกาสที่ทุกคนจะยุ่งกันหมดและไม่สามารถปรับทุกข์กับเราได้ก็มีสูง
ใดๆ ก็ตาม สิ่งที่ต้องไม่ลืมก็คือ นี่อาจไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบสองทาง คนที่พร้อมจะปรับทุกข์กับเพื่อนคนหนึ่งทุกเรื่อง ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะพร้อมคุยกับเราทุกเรื่องเช่นกัน เพราะบางคนที่สะดวกใจจะคุย ‘เรื่องงาน’ แบบหมดไส้หมดพุง ก็อาจไม่พร้อมจะแลกเปลี่ยน ‘เรื่องหัวใจ’ ก็ได้ ดังนั้นคีย์สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ เราอาจต้องมีเพื่อนไว้แสตนด์บายการปรับทุกข์แต่ละเรื่องเอาไว้ 2-3 คน จึงไม่แปลกที่ตัวเลขจากวิจัยจะชี้ว่าจำนวนเพื่อนที่ให้เราสามารถปรับทุกข์ด้วยได้ โดยเฉลี่ยอย่างต่ำคือ 5 คน ที่จะช่วยให้เรามีสุขภาพจิตดี
แน่นอน มีมากกว่านี้ก็อาจดีต่อสุขภาพจิต แต่ในเชิงความสัมพันธ์ การมีเพื่อนจำนวนมากเกินไปก็ใช่ว่าจะดี เพราะความสัมพันธ์ทั้งหลายมีต้นทุนต้องรักษา การมีเพื่อนเยอะๆ แต่ไม่มีกิจกรรมร่วมกันเลยก็เสี่ยงที่จะห่างหายกันไป และทำให้เราไม่รู้สึกสนิทกับใครในที่สุดเลยได้ นี่จึงทำให้การมีเพื่อนสนิทในปริมาณที่ ‘พอดี’ จึงเป็นสิ่งสมดุลมากกว่า และก็ไม่แปลกเท่าไรที่มนุษย์บนโลกนี้ไม่ว่าจะมาจากที่ไหนหรือมีฐานะอย่างไร ก็ยากจะมีเพื่อนสนิทจริงๆ เกิน 5 คน เพราะมนุษย์เรานั้นมีแรงรักษาความสัมพันธ์ให้แนบเน่นได้เต็มที่ก็ประมาณนี้นี่เอง