ไทม์ไลน์ 3 คดีร้อน 'ทักษิณ–แพทองธาร' ชี้ชะตาการเมืองไทย
การเมืองไทยในเดือนสิงหาคม–กันยายน 2568 กำลังเข้าสู่ห้วงเวลาที่เรียกได้ว่าเป็น “จุดตัดสำคัญ” ของ "ชินวัตร" ตระกูลการเมืองใหญ่ที่สุดตระกูลหนึ่งของไทย
ทั้งอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร และนายกรัฐมนตรีปัจจุบัน แพทองธาร ชินวัตร ต้องเผชิญกับคดีใหญ่ที่มีผลสะเทือนทั้งในทางกฎหมายและทางการเมืองพร้อมกัน
คดีแพทองธาร "คลิปเสียงฮุน เซน”
ต้นเรื่องมาจากคลิปเสียงที่เป็นการสนทนาระหว่างน.ส.แพทองธาร กับอังเคิล "สมเด็จฮุน เซน" ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อคลิปถูกเผยแพร่ในเดือนมิถุนายน ได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง และนำไปสู่คำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญจากสมาชิกวุฒิสภา 36 คน ที่มีไทม์ไลน์สำคัญของคดีดังนี้
1 ก.ค. 2568
- ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 2 รับคำร้อง พร้อมสั่งให้แพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว
4 ส.ค. 2568
- ทีมทนายฝ่ายผู้ถูกร้องส่งคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร
21 ส.ค. 2568
- ศาลนัดไต่สวนพยานบุคคลสำคัญสองราย ได้แก่ น.ส.แพทองธาร และเลขาธิการสมช.
27 ส.ค. 2568
- วันครบกำหนดการยื่นแถลงปิดคดี
29 ส.ค. 2568
- วันนัดอ่านคำวินิจฉัย เวลา 15.00 น.
แพทองธาร เคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อหลังถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยยืนยันว่า “พร้อมเคารพกระบวนการยุติธรรม และจะต่อสู้คดีด้วยข้อเท็จจริง” พร้อมกล่าวสั้นๆ ว่า “สิ่งที่ทำทุกอย่างยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก”
พิพากษา 'ทักษิณ' คดี ม.112
คดีที่สังคมจับตามองอีกคดีคือการที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากเหตุให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558
คดีนี้อัยการยื่นฟ้องเมื่อกลางปี 2567 ศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 500,000 บาท พร้อมเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ ที่มีไทม์ไลน์สำคัญล่าสุดของคดีดังนี้
16 ก.ค. 2568
- ศาลอาญาสืบพยานฝ่ายจำเลย มีบุคคลสำคัญอย่างวิษณุ เครืองาม และธงทอง จันทรางศุ ขึ้นเบิกความ
22 ส.ค. 2568
- ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษา
นายทักษิณ เคยให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางมาศาลว่า “ผมมั่นใจว่าคำพูดเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ไม่มีเจตนาจะหมิ่นเบื้องสูง และจะขอใช้กระบวนการศาลเพื่อพิสูจน์ความจริง” พร้อมย้ำว่า “วันนี้ผมสู้คดีด้วยใจสงบ ไม่ได้สู้เพื่อตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อยืนยันว่าความยุติธรรมยังคงอยู่ในประเทศนี้”
ศาลฎีกาฯ นัดชี้ขาด คดี “ชั้น 14”
อีกคดีที่สร้างแรงกดดันให้ตระกูลชินวัตร คือ “คดีบังคับโทษ” ที่ประชาชนรู้จักกันในชื่อ “คดีชั้น 14” จากกรณีที่ทักษิณถูกส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจทันทีในคืนแรกหลังเดินทางกลับไทยเมื่อสิงหาคม 2566 และพักโทษในเวลาต่อมา
ตลอดปี 2567–2568 ศาลฎีกาฯ ไต่สวนพยานทั้งจากกรมราชทัณฑ์และทีมแพทย์ และวันที่ 9 ก.ย. 2568 ศาลฎีกาฯ แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำสั่งชี้ขาดว่าจะบังคับโทษอย่างไร
ทักษิณ กล่าวถึงคดีนี้สั้นๆ ว่า “สุขภาพของผมไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นข้อเท็จจริงที่ทุกคนเห็น” และย้ำว่า “ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย”
สิ่งที่น่าสนใจคือเส้นเวลาของคดีเหล่านี้เดินหน้าคู่ขนานกันตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของแพทองธาร ถึง 9 กันยายน ที่ต้องจับตาว่าผลการตัดสินจะออกมาอย่างไร