อสังหาฯภูธรคึก จับเทรนด์ย้ายถิ่น–เกษียณ โครงการหรูบุกตลาดโคราช
ในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเผชิญแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและปัญหาหนี้ครัวเรือน เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กลับเลือกเดินเกมสวนกระแส ด้วยการเร่งขยายการลงทุนสู่หัวเมืองใหญ่ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่นครราชสีมาและขอนแก่น กลายเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของบริษัทที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างจังหวัด หลังจากเริ่มต้นบุกภูมิภาคมาตั้งแต่ปี 2562
นายภวรัญชน์ อุดมศิริ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเพื่อที่อยู่อาศัย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ยังคงชะลอตัวทั่วประเทศ สัญญาณลบที่เคยจำกัดอยู่เพียงกรุงเทพฯ และปริมณฑล เริ่มส่งผลไปยังหัวเมืองต่างจังหวัดมากขึ้น ทำให้กำลังซื้อหดตัวและการขอสินเชื่อมีอุปสรรค อย่างไรก็ตาม การวางยุทธศาสตร์ในอีสานยังเป็นเป้าหมายที่บริษัทเชื่อว่าจะสร้างการเติบโตระยะยาว
โคราชถูกมองว่าเป็น “ประตูสู่อีสาน” ด้วยจำนวนประชากรมากเป็นอันดับสองของประเทศ และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่หลากหลาย ทั้งอุตสาหกรรม เกษตรกรรม การศึกษา การแพทย์ และการท่องเที่ยว ขณะที่ขอนแก่นถือเป็น “เมืองมหาวิทยาลัย” และศูนย์กลางด้านการแพทย์ มีรายได้ต่อหัวประชากรสูงกว่าโคราช จึงดึงดูดผู้พัฒนาโครงการรายใหญ่เข้ามาแข่งขันจำนวนมาก
เฟรเซอร์สเลือกใช้กลยุทธ์ที่แตกต่าง โดยเน้นพัฒนาโครงการในโซนใจกลางเมือง เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนที่พร้อมจ่ายเพื่อทำเลและคุณภาพโครงการ แทนที่จะกระจายไปยังรอบนอกที่แข่งขันกับผู้ประกอบการท้องถิ่นซึ่งมีต้นทุนตํ่ากว่า
การพัฒนาตลาดอีสานของเฟรเซอร์ส เริ่มจากแบรนด์ “โกลเด้น นีโอ” และ “นีโอ โฮม” ซึ่งจับตลาดทาวน์โฮมและบ้านแฝดในระดับราคา 2-7 ล้านบาท แต่ในปัจจุบันบริษัทปรับพอร์ตสู่แบรนด์ “แกรนดิโอ” บ้านเดี่ยวหรูที่ราคา 5-20 ล้านบาท เพื่อรองรับกำลังซื้อที่แข็งแรงกว่า โดยเฉพาะกลุ่มแพทย์ ข้าราชการระดับสูง นักธุรกิจท้องถิ่น และผู้พิพากษา ที่ยังมีศักยภาพแม้เศรษฐกิจชะลอตัว
นายภวรัญชน์ ยอมรับว่า การยกระดับราคาเป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย เนื่องจากกลุ่มลูกค้าระดับกลางประสบปัญหาการขอสินเชื่อมากขึ้น แต่กลุ่มบนยังมีความมั่นคงทางการเงินและพร้อมลงทุนในบ้านคุณภาพ
นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบการแข่งขันในโคราชยังไม่รุนแรงเท่าขอนแก่น เนื่องจากผู้ประกอบการแบ่งทำเลค่อนข้างชัด ลูกค้าที่เลือกอยู่ในเมืองมักยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อความสะดวก ส่วนโครงการรอบนอกก็จับตลาดคนละกลุ่ม ทำให้เฟรเซอร์สมองเห็นโอกาสที่จะสร้างความต่างด้านคุณภาพและทำเล
ในเชิงผลตอบแทน นายภวรัญชน์ยอมรับว่า กำไรขั้นต้น (Gross Profit) ของโครงการต่างจังหวัดหนากว่ากรุงเทพฯ ประมาณ 5% เนื่องจากต้นทุนบริหารจัดการไม่สูง และซัพพลายเชนก่อสร้างเข้าถึงง่ายกว่า แม้ราคาที่ดินในเมืองโคราชจะขยับขึ้นต่อไร่จาก 4-5 ล้านบาทเป็น 6 ล้านบาทในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา แต่การขยายพอร์ตยังคงคุ้มค่า
ทั้งนี้ โครงการล่าสุดของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทยที่โคราช “แกรนดิโอ โคราช-เทอมินอล” (GRANDIO Korat-Terminal) มีมูลค่า 1,860 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 71 ไร่ รวม 320 ยูนิต ตั้งอยู่บนถนนสุระ 2 เชื่อมต่อทั้งถนนมิตรภาพและถนนบายพาส ใกล้มอเตอร์เวย์ M6 และแวดล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า โรงเรียน และโรงพยาบาลชั้นนำของเมือง
บ้านมีให้เลือก 5 แบบ ตั้งแต่บ้านแฝด Adrano พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท ไปจนถึงบ้านเดี่ยวหรู Luzern ขนาด 320 ตร.ม. มาพร้อมสระว่ายนํ้าส่วนตัว ราคาแตะ 20 ล้านบาท จุดขายอยู่ที่การออกแบบสไตล์ยุโรป โทนสีทอง-ขาว เรียบหรูทันสมัย สะท้อนความพรีเมียมที่แตกต่างจากโครงการท้องถิ่น
ส่วนกลางเน้นสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยแบบครอบครัวครบวงจร ด้วยคลับเฮ้าส์ที่ได้แรงบันดาลใจจากสวน “ไฮด์พาร์ก” กรุงลอนดอน พื้นที่กว่า 3 ไร่ มีทั้งสระว่ายนํ้า ฟิตเนส Co-working Space สนามเด็กเล่น พื้นที่ Pet Society และ Jogging Track ภายใต้ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
อีกทั้ง เฟรเซอร์สยังตั้งเป้าการเติบโตในตลาดอีสานเฉลี่ยปีละ 10% พร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ทั้งในโคราช ขอนแก่น และอุดรธานี โดยมองว่าอุดรฯ อาจเป็นจังหวัดถัดไป หากเจอที่ดินคุณภาพและราคาสมเหตุสมผล
ขณะเดียวกันยังคงจับตาตลาดภาคตะวันออก โดยเฉพาะระยองในเขต EEC ที่เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ แม้ภาพรวมอสังหาฯ ไทยอยู่ในช่วงท้าทาย แต่การวางยุทธศาสตร์ขยายสู่หัวเมืองใหญ่ของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ถือเป็นการปรับตัวที่สอดรับกับโครงสร้างเศรษฐกิจภูมิภาค โดยใช้จุดแข็งของแบรนด์บ้านหรูเจาะกลุ่มกำลังซื้อมั่นคง ในขณะที่ผู้ประกอบการหลายรายยังเน้นตลาดกรุงเทพฯ และปริมณฑล การสร้างรากฐานในอีสานอาจกลายเป็นแต้มต่อสำคัญของเฟรเซอร์สในระยะยาว
หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 45 ฉบับที่ 4,128 วันที่ 4 - 6 กันยายน พ.ศ. 2568