ญี่ปุ่นเล็งปรับเข้มเงื่อนไขการขอวีซ่าธุรกิจ ป้องกันการตั้งบริษัทบังหน้า
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ว่า สื่อท้องถิ่นหลายแห่งในญี่ปุ่น นำโดยสำนักข่าวเกียวโด ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนเพิ่มเกณฑ์การขอวีซ่าธุรกิจและบริหารจัดการ ซึ่งแนวทางที่อยู่ระหว่างการพิจารณา รวมถึงการเพิ่มเงินลงทุนจาก 5 ล้านเยน (ราว 1.1 ล้านบาท) เป็น 30 ล้านเยน (ราว 6.6 ล้านบาท) และการบังคับให้ผู้ขอวีซ่าต้องจ้างพนักงานประจำอย่างน้อยหนึ่งคนในบริษัท
ขณะเดียวกัน ผู้ขอวีซ่าจะต้องมีประสบการณ์ทำงานอย่างน้อย 3 ปี หรือมีคุณวุฒิทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการบริษัท นอกจากนี้ ยังต้องให้ผู้เชี่ยวชาญซึ่งถือใบรับรองที่ปรึกษาการจัดการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตรวจสอบแผนธุรกิจใหม่ของตนด้วย
การแก้ไขดังกล่าว เป็นการปรับปรุงกฎกระทรวง ซึ่งเสนอโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น มีเหตุผลเพื่อป้องกันการตั้งบริษัทบังหน้า ด้วยเหตุผลเพียงเพื่อใช้ประกอบการขอวีซ่า เบื้องต้นมีการคาดการณ์ว่า ระบบใหม่น่าจะมีผลได้ในเดือน ต.ค. นี้ หลังเปิดให้สาธารณชนแสดงความคิดเห็นจนถึงวันที่ 24 ก.ย. นี้
ปัจจุบัน บุคคลสามารถขอวีซ่าธุรกิจได้หากมีสำนักงานธุรกิจอยู่ในญี่ปุ่น ไม่ว่าบริษัทจะดำเนินงานหรือไม่ก็ตาม และมีเงินทุนอย่างน้อย 5 ล้านเยน หรือมีพนักงานประจำตั้งแต่สองคนขึ้นไป
ขณะที่สถิติของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น ระบุว่า จำนวนชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศด้วยวีซ่าธุรกิจ มีจำนวนทั้งสิ้น 41,615 คน ณ สิ้นปี 2567 โดยเป็นผู้ถือสัญชาติจีนมากที่สุด 21,740 คน รองลงมาคือเนปาล 2,830 คน และเกาหลีใต้ 2,741 คน
อย่างไรด็ตาม ในบรรดาผู้ถือวีซ่าดังกล่าว มีเพียงราว 4% เท่านั้น ที่จะผ่านเกณฑ์ใหม่ซึ่งต้องมีเงินลงทุนขั้นต่ำ 30 ล้านเยน.
เครดิตภาพ : AFP