โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

ทฤษฎีจิตวิทยา อธิบายเหตุเด็กทำร้ายครู เพราะไม่ใจคะแนนสอบ

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ข่าวเด็กทำร้ายครู หลังไม่พอใจคะแนนสอบ มองภาพจากที่เกิดขึ้นโดยใช้ทฤษฎีทางจิตวิทยา อาจเป็นไปได้จากหลายสาเหตุ

กลายเป็นประเด็นพูดกันอย่างมากในโลกออนไลน์ จากคลิปข่าวเหตุการณ์นักเรียนชายชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.อุทัยธานี เข้าทำร้ายร่างกายครูอย่างรุนแรง หลังไม่พอใจคะแนนสอบกลางภาค ทำให้คุณครูได้รับบาดเจ็บซี่โครงอักเสบ

นอกจากการดำเนินคดีและการเยียวยาจิตใจของครูแล้ว อีกประเด็นที่ต้องมองคือพฤติกรรมแสดงความรุนแรงของเด็กแบบนี้ เกิดขึ้นมาได้อย่างไร? โดยหากมองภาพจากที่เกิดขึ้นโดยใช้ทฤษฎีทางจิตวิทยา อาจเป็นไปได้จากหลายสาเหตุ

ทฤษฎีจิตวิทยา ทำไมเด็กถึงเลือกใช้ความรุนแรง

1. ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม หรือ Social Learning Theory

พูดถึงว่าเด็กคนหนึ่งจะเรียนรู้พฤติกรรมต่างๆ รวมถึงพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง จากการสังเกตคนรอบข้างและเลียนแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่มีความสำคัญต่อพวกเขา เช่น พ่อแม่ คนในครอบครัว หรือคนที่อุปการะเลี้ยงดู เมื่อเด็กเห็นพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงซ้ำๆ เรียนรู้ว่าเป็นเรื่องของการแสดงออกทั่วไป ก็มีแนวโน้มที่จะเอาพฤติกรรมอบบนี้มาใช้ในสังคม หรือกับคนที่ไม่ใช่สมาชิกในครอบครัว

2. ทฤษฎีความคับข้องใจ-ความก้าวร้าว หรือ Frustration-Aggression Theory

ทฤษฎีนี้ อธิบายไว้ว่า เมื่อมีความรู้สึกไม่พอใจ หรือเกิดอุปสรรคที่ขัดขวางเป้าหมาย เด็กเลือกจะแสดงความก้าวร้าวออกมาเพื่อจัดการกับความรู้สึกทางลบเหล่านั้น เด็กที่ประสบกับความคับข้องใจซ้ำๆ อาจเรียนรู้ที่จะใช้ความรุนแรงเพื่อตอบสนองต่อความคับข้องใจ

3. ทฤษฎีสัญญาณความก้าวร้าว หรือ Aggression Cues Theory

อธิบายว่า สถานการณ์หรือสิ่งเร้าภายนอกบางอย่างสามารถกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว แม้ว่าตัวเด็กจะไม่ได้รู้สึกคับข้องใจมาก่อนก็ตาม ตัวอย่างเช่น การเห็นอาวุธหรือการได้ยินคำพูดที่รุนแรง อาจกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าวในเด็กได้

ผลจากสังคมหรือการเลี้ยงดู

แน่นอนความรุนแรงไม่ได้เกิดขึ้นมาโดยธรรมชาติ แต่เกิดขึ้นการการล่อหลอม และสิ่งแวดล้อมรอบตัวของเด็ก ทฤษฎีเหล่านี้จึงมองว่าความรุนแรงไม่ได้เป็นเพียงการกระทำของเด็กที่แสดงออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ

แต่การแสดงออกอย่างรุนแรงของเด็ก ยังเป็นผลมาจากโครงสร้างทางสังคมและวัฒนธรรมที่สนับสนุนความรุนแรงด้วย เช่น การเลี้ยงดูในครอบครัวที่มีความรุนแรง หรือการอยู่ในสังคมที่ยอมรับความรุนแรง อาจส่งเสริมให้เด็กมีพฤติกรรมรุนแรง

ในกรณีของเด็กชาย ม.5 รายนี้ อาจต้องทำความเข้าใจถึงภูมิหลังของเด็กว่าเป็นเช่นไหร่ ครอบครัวได้มีความคาดหวังหรือกดดันต่อตัวเด็กหรือไม่ และควรจะต้องอยู่ใกล้ชิดการดูแลของจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยา แน่นอนว่า พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นต่อทั้งผู้เรียนและผู้สอน สังคมไม่ควรเข้าข้าง หรือตัดสินเอนเอียงฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ทุกฝ่ายต้องได้รับการตัดสินอย่างยุติธรรม เมื่อดูแลสภาพจิตใจของเด็กแล้ว ก็จำเป็นต้องเยียวยาทั้งทางร่างกายและจิตใจของครูด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNN ช่อง16

จีนเปิด “ศูนย์หุ่นยนต์ 4S” แห่งแรกของโลก ให้บริการด้านหุ่นยนต์ครบวงจร

30 นาทีที่แล้ว

ไทยครองอันดับ 1 เอเชียด้านมรดกวัฒนธรรม ติดท็อป 8 โลก

34 นาทีที่แล้ว

Microsoft เปิดตัว Copilot 3D เปลี่ยนภาพถ่าย 2 มิติ เป็นโมเดล 3 มิติด้วย AI

36 นาทีที่แล้ว

สพฐ. ห่วงเหตุครูเอกชนถูกนักเรียนทำร้าย ย้ำโรงเรียนต้องปลอดภัยสำหรับทุกคน

44 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่น ๆ

7 วิธีลดช่องว่างระหว่างวัย เข้าใจผู้สูงอายุ อยู่ร่วมกันได้สุขภาพจิตดี

PPTV HD 36

รพ.จุฬาภรณ์ เตือน! คนเกิดก่อนปี 2535 ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ป้องกันมะเร็งตับ

สยามนิวส์

5 โรคยอดฮิตในผู้สูงอายุ แพทย์แนะไม่ควรละเลยโปรแกรมตรวจสุขภาพ

PPTV HD 36

“นุ่น สินิทธา” เปิดคลับสุขภาพ “IF & Water Fasting” ชวนฟังเสียงตัวเองสู่ชีวิตยืนยาว!

สยามรัฐวาไรตี้

ประโยชน์ “ดอกมะลิ” สัญลักษณ์ดอกไม้วันแม่ ตามตำรับยาไทย ช่วยผ่อนคลาย

PPTV HD 36

รู้จัก “โรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ” แบบเจาะลึกเผยสาเหตุ และ วิธีป้องกัน

PPTV HD 36

ข่าวและบทความยอดนิยม

"อาชีพทำเงิน" รับจ้างหว่านข้าว รายได้วันละ 14,000 บาท | เรื่องดีดีทั่วไทย | 2-07-68

TNN ช่อง16

ความรุนแรงในครอบครัว! เพิ่มโทษ-บทนิยาม ชง ครน. ทันที 21 มี.ค.นี้

TNN ช่อง16

มติครม. ไฟเขียวเพิ่มอัตราโทษ ผู้กระทำความรุนแรงในครอบครัว

TNN ช่อง16
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...