มาเลเซียขยับหมากเงียบ สงครามพรมแดนเปิดพื้นที่ลงทุน จับตาช่องว่างทุนไทยในกัมพูชา!! จากบทไกล่เกลี่ยเปิดทางสู่ผู้เล่นเศรษฐกิจ
(30 ก.ค. 68) ขณะที่มาเลเซียได้รับเสียงชื่นชมจากนานาชาติในบทบาทผู้ไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา แต่ในอีกด้านหนึ่งรัฐบาลมาเลเซีย และภาคเอกชนกลับเดินเกมคู่ขนาน ด้วยการเร่งขยายบทบาททางเศรษฐกิจในกัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่นักลงทุนไทยต้องถอนตัวออกมา
จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา การลงทุนจากไทยมีมูลค่ากว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ครอบคลุมทั้งอาหาร เกษตร อุตสาหกรรม และค้าปลีก ทว่าความขัดแย้งชายแดนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 40 รายและผู้อพยพอีกหลายแสนคน ส่งผลให้บริษัทใหญ่หลายแห่ง เช่น Carabao Group และ President Foods ต้องระงับกิจการชั่วคราว สูญเสียรายได้รวมกันหลายร้อยล้านดอลลาร์
จุดผ่านแดน 7 แห่งถูกปิดลง ทำให้ห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก การค้าชายแดนไทย-กัมพูชาหดตัวกว่า 65% ภายในสัปดาห์เดียว ในสภาพที่เศรษฐกิจหยุดชะงัก กัมพูชาจำเป็นต้องมองหาพันธมิตรรายใหม่ และมาเลเซียกำลังก้าวเข้ามาแทนที่ด้วยความพร้อมและประสบการณ์
บริษัทมาเลเซียหลายแห่งเริ่มขยับ เช่น Axiata Group ที่เป็นเจ้าของเครือข่ายมือถือ Smart Axiata ในกัมพูชา, Gamuda และ IJM Corporation ที่เร่งเสนอแผนฟื้นฟูถนน-โรงพยาบาลที่เสียหายจากการสู้รบ รวมถึง Petronas ซึ่งกำลังศึกษาพื้นที่พลังงานใหม่ใกล้ชายแดนที่คาดว่ามีทรัพยากรธรรมชาติมูลค่ามหาศาล
ในภาคการท่องเที่ยว บริษัท Berjaya Corporation ของมาเลเซียก็เริ่มเจรจากับทางการเสียมราฐเพื่อพัฒนาโรงแรม รีสอร์ต และโครงการอสังหาริมทรัพย์รองรับการฟื้นตัวหลังความขัดแย้ง โดยอาศัยจังหวะที่คู่แข่งอย่างไทยต้องชะลอหรือถอนตัว
แม้มาเลเซียจะไม่ใช่ผู้เล่นที่ดังที่สุดในสมรภูมินี้ แต่การเดินเกมอย่างสุขุม มีระยะห่างทางการทูตจากทั้งจีนและสหรัฐ ทำให้มาเลเซียสามารถขยับตัวได้ยืดหยุ่นกว่า และในขณะที่ทุนไทยยังรอความชัดเจนทางความมั่นคง เพื่อนบ้านรายนี้อาจกลายเป็นผู้ครองพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในระยะยาว