กทม.เพิ่มมาตรการควบคุมจุดก่อสร้าง ป้องกันผิวจราจรเสียหาย ปชช.เดือดร้อน
(18 ก.ค.68) นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวความคืบหน้าแนวทางแก้ปัญหาถนนชำรุดเสียหายจากการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานว่า เรื่องนี้ มีอุปสรรคสำคัญคือ พื้นที่กรุงเทพฯ มีโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคจำนวนมาก ทำให้ผิวจราจรและทางเท้าเสียหาย ส่งผลกระทบต่อประชาชนหลายพื้นที่ จากการจำแนกพบว่า เป็นโครงการของการไฟฟ้านครหลวง 205 โครงการ การประปานครหลวง 150 โครงการ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) 32 โครงการ รวมทั้งหมด 387 โครงการ
โดยภาพรวมเป็นการก่อสร้างใต้ดิน เช่น ท่อร้อยสาย ท่อประปา ท่อส่งน้ำมัน จึงมีฝาบ่อบนผิวถนนจำนวนมาก โดยเฉพาะการไฟฟ้านครหลวง มีถึง 660 บ่อ คืนผิวถนนแล้ว 274 บ่อ ยังอยู่บนผิวถนนอีก 368 บ่อ ซึ่ง กทม.ไม่สามารถส่งเจ้าหน้าที่ติดตามทุกวันได้ เพราะงานก่อสร้างมีการเปิดฝาบ่อทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 22.00 น.-04.00 น.
แนวทางแก้ไขคือ ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น จัดทำแผนที่จุดก่อสร้าง ให้เขตช่วยติดตาม และเปิดรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผ่านระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์ ระบบออนไลน์ต่าง ๆ รวมถึงสำนักงานเขต โดยเฉพาะการจัดทำแผนที่จุดก่อสร้างออนไลน์ ระบุข้อมูลสถานะการขออนุญาตก่อสร้าง เช่น อยู่ระหว่างขออนุญาต อยู่ระหว่างดำเนินการ-หลังดำเนินการ หรืออยู่ระหว่างประกันผลงาน เป็นต้น เพื่อให้สำนักงานเขตและสำนักการโยธาใช้ในการติดตามกำกับดูแลโครงการในพื้นที่รับผิดชอบอย่างทั่วถึงมากขึ้น
ในกรณีพบข้อร้องเรียนหรือตรวจพบปัญหา กทม.จะดำเนินการ 4 มาตรการ ประกอบด้วย 1.แจ้งเตือนเร่งด่วน ในกรณีได้รับเรื่องร้องเรียนจากทราฟฟี่ ฟองดูว์ หรือช่องทางต่าง ๆ หน่วยงานรับผิดชอบของ กทม.จะแจ้งเตือนให้โครงการแก้ปัญหา 2.ออกหนังสือแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการ ที่ผ่านมาส่งหนังสือแจ้งเตือนไปแล้วมากกว่า 110 เรื่อง 3.ระงับใบอนุญาต ในกรณีแก้ไขล่าช้า หรือจนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ 4.ยกเลิกใบอนุญาต เช่น บริเวณทางเท้าถนนอโศกมนตรี การไฟฟ้านครหลวงมีการก่อสร้างเพื่อนำสายไฟฟ้าลงดินเป็นเวลาหลายปี ทำให้ผู้ใช้ทางเท้าไม่ได้รับความสะดวก กทม.จึงยกเลิกใบอนุญาต และเข้าไปดำเนินการเอง และจะมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากการไฟฟ้านครหลวงต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเพิ่มเติม ได้แก่ 1.ตรวจสอบโพรงใต้ดินก่อนส่งมอบงานทุกบ่อ เพื่อป้องกันปัญหาดินทรุดภายหลัง 2.เปิดช่องทางรับเรื่องร้องเรียนหลากหลาย โดยเฉพาะระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์ เพื่อรับเรื่องร้องเรียนในวงกว้าง และแจ้งเตือนการแก้ไขอย่างรวดเร็ว 3.เนื่องจากที่ผ่านมา เงื่อนไขในการคืนสภาพผิวถนนของ กทม.ยังไม่เข้มข้น ทำให้เกิดปัญหาตามมา ปัจจุบัน กทม.จึงเพิ่มข้อกำหนดให้มีการติดกล้อง CCTV ในโครงการก่อสร้าง เพื่อการติดตามความเรียบร้อยก่อนคืนสภาพได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงกำหนดให้ลอกท่อระหว่างการก่อสร้าง เพื่อไม่ให้เศษวัสดุอุดตันกีดขวางทางระบายน้ำ และต้องเก็บวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ ให้เรียบร้อยก่อนคืนสภาพ
ในกรณีการก่อสร้างบนถนนที่มีความยาว พบว่า ผู้รับจ้างไม่ค่อยคืนสภาพผิวถนนเป็นบางช่วง เนื่องจากที่ผ่านมาการนับประกันผลงานจะรอให้มีการก่อสร้างครบทุกส่วนก่อน ทำให้ผู้รับจ้างรอให้การก่อสร้างครบทั้งหมดก่อนคืนสภาพ กทม.จึงเปลี่ยนเงื่อนไขให้สามารถคืนสภาพบางส่วนก่อนได้ และการเริ่มนับการค้ำประกันสามารถเริ่มนับเป็นบางส่วนได้ เพื่อให้มีการคืนผิวจราจรหรือทางเท้าเป็นช่วง ๆ มาใช้ประโยชน์ก่อน ลดความเดือดร้อนประชาชน