SET อาจแตะเบรกสั้นๆ แต่ยังไม่หยุด ไทยลุ้นถูกเก็บภาษีสหรัฐฯ ต่ำกว่า 36% หรือไม่
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ผลการประชุม FED รอบเดือน ก.ค. 68 มีมติ 9-2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.5% เป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน ตามคาด โดย เจอโรม เพาเวล ย้ำว่า “ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม” สำหรับการลดดอกเบี้ย การตอบสนองของสินทรัพย์ต่างๆ หลังประธาน FED มีท่าทีแข็งกร้าวต่อการปรับลดดอกเบี้ย บวกกับความไม่แน่นอนของ TARIFF ผลักให้ DOLLAR แข็งค่าอย่างรวดเร็วสวนทางกับเงินบาทอ่อนค่าในเชิงเปรียบเทียบ
อย่างไรก็ดี ความคาดหวังที่จะเห็น FED ลดดอกเบี้ยในปีนี้ยังไม่ได้หมดไป ส่วนไทยลุ้นถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีต่ำกว่า 36% หรือไม่ ?
แต่หากประเมินจากข้อเสนอที่ไทยให้ต่อสหรัฐฯ มีความใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งการลงทุนและซื้อสินค้าในสหรัฐฯ ทำให้เกิดความคาดหวังว่าไทยจะได้รับอัตราภาษีอยู่ในกรอบ 15%-20%(ภาษีประเทศเพื่อนบ้าน) ช่วงก่อนวันรู้ผล แนะนำ WAIT AND SEE หรือถือเงินสดไว้ในพอร์ตราว 5-10% แต่หากประสงค์อยากได้ CAPITAL GAIN ก็ถือเป็นจังหวะสะสมที่ดี เนื่องจากดัชนีที่ระดับดังกล่าว VALUATION เด่นพร้อมกับการเติบโตของ EPS GROWTH ในปีนี้
TOP PICK เลือก ICHI,SPALI และ CPAL
MARKET HIGHLIGHT
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานในวันพุธที่ผ่านมา (DJIA -0.38%, S&P500 -0.12%, Nasdaq +0.15%) หลัง Fed คงอัตราดอกเบี้ยและถ้อยแถลงของ Jerome Powell ส่งผลให้ตลาดมีความหวังน้อยลงต่อการปรับลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.
- Fed มีมติด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุม FOMC วันที่ 29 - 30 ก.ค. ที่ผ่านมา
- สหรัฐฯ เผยรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอย่าง GDP ไตรมาส 2 ขยายตัวแข็งแกร่งกว่าคาด ขณะที่ GDP ไตรมาส 2 ของยุโรปออกมาสูงกว่าตลาดคาดเช่นกัน
- ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ประกาศผ่าน Truth Social ว่า สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ได้บรรลุข้อตกลงการค้า โดยสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากเกาหลีใต้ในอัตรา 15 %
- Trump ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% จากอินเดีย เนื่องจากอินเดียมีการสั่งซื้ออาวุธจากทางรัสเซีย
- Trump ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารในการระงับสิทธิ์ปลอดภาษีสำหรับสินค้ามูลค่าต่ำ (De Minimis) โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 ส.ค.
- รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้: สหรัฐฯ Personal Income & Spending และ PCE & Core PCE Price Index เดือน มิ.ย.
- ติดตามรายงานผลประกอบการของหุ้นที่สำคัญในวันนี้ อาทิ Apple, Amazon และ Coinbase
- ข่าวหุ้นอัปเดต: Novo Nordisk, Starbucks, L'Oreal, Hermes, Adidas, Booking Holdings, Visa, Li Auto, CATL
STOCK HIGHLIGHT
- Novo Nordisk (NVO US) ปรับลดคาดการณ์ยอดขายและกำไรปี 2025 ลงอีกครั้ง ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดยาลดน้ำหนัก โดยคาดยอดขายจะเติบโตระหว่าง 8% - 14% YoY (จากเดิม 13% - 21%) ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานคาดจะเติบโต 10% - 16% YoY (จากเดิม 16% - 24%) ฝ่ายกลยุทธ์ฯ แนะนำระมัดระวังในระยะสั้น เนื่องจากบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายและกำไรปี 2025 ลงอีกครั้ง (NVO US แนวรับ 45.5/38.2 แนวต้าน 56.4/64.9)
- Starbucks (SBUX US, SBUX80 TB) รายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด โดยมีรายได้มากกว่าตลาดคาด พร้อมแผนลงทุนกว่า $500 ล้านในสหรัฐฯ และยุติร้านแบบ Mobile-Only ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดออกมา "ผสมผสาน" โดยมีรายได้ $9.5 พันล้าน +3.75% YoY (สูงกว่าคาด 1.76%) แต่กำไรต่อหุ้น (Adjusted EPS) อยู่ที่ $0.50 หรือ -46.2% YoY (ต่ำกว่าคาด 22.74%) ฝ่ายกลยุทธ์ฯ แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น หลังมีสัญญาณเชิงบวกจากการฟื้นตัวของยอดขายสาขาเดิมในจีน (SBUX US แนวรับ 82.4/71.6 แนวต้าน 99.2/116.9)
- L'Oreal (OR FP, LOREAL80) เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ขณะที่รายได้จากสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัว รายได้รวมอยู่ที่ 1.07 ล้านยูโร -1.2% YoY (ต่ำกว่าคาด 0.3%) โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราการเติบโตในยุโรปชะลอตัวลงเกินคาด อย่างไรก็ตาม ยอดขายในสหรัฐฯ และจีนเริ่มมีการฟื้นตัว ฝ่ายกลยุทธ์ฯ แนะนำเก็งกำไร (OR FP แนวรับ 361.1/332.2 แนวต้าน 412/460.7)
- Booking Holdings (BKNG US, BKNG80 TB) รายงานกำไรไตรมาส 2 ดีกว่าคาด ได้แรงหนุนจากนักท่องเที่ยวเอเชีย แม้ยอดจองในสหรัฐฯ ชะลอตัว สำหรับไตรมาส 2 ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน บริษัทมีรายได้รวม $6.8 พันล้าน เพิ่มขึ้น 16% YoY (สูงกว่านักวิเคราะห์คาด 3.7%) ขณะที่กำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ $55.40 เพิ่มขึ้น 32% YoY (ดีกว่าคาด 10%) ฝ่ายกลยุทธ์ฯ แนะนำเก็งกำไร หลังผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ออกมาดีกว่าคาด โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจีนระดับบน (BKNG US แนวรับ 5211/4707 แนวต้าน 5853/6555)
- Visa (V US, VISA80 TB) รายงานกำไรไตรมาส 3 ดีกว่าคาด ได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายผ่านบัตร ขณะที่ยังคงให้คาดการณ์รายได้ทั้งปีแบบระมัดระวัง รายได้รวมเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อยู่ที่ $1.02 หมื่นล้าน (สูงกว่านักวิเคราะห์คาด 3.1%) ขณะที่กำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ $2.98 (ดีกว่าคาด 4.7%) ฝ่ายกลยุทธ์ฯ แนะนำเก็งกำไร หลังการใช้จ่ายผ่านบัตรยังเติบโตได้ดีทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในหมวด e-Commerce และการเดินทางที่ยังมีโมเมนตัมบวก (V US แนวรับ 334.7/306.7 แนวต้าน 376.1/411.4)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ราคาทอง วันพฤหัสบดีที่ 31 ก.ค. 2568 เปิดตลาดปรับลงแรง 250 บาท
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.73 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงหนัก”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : SET อาจแตะเบรกสั้นๆ แต่ยังไม่หยุด ไทยลุ้นถูกเก็บภาษีสหรัฐฯ ต่ำกว่า 36% หรือไม่
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com