ทรัมป์ทำดีลรีดภาษีเกาหลีใต้15%แต่จัดหนักบราซิล50% ด้านรมว.พาณิชย์สหรัฐฯแย้มตกลงกับไทย-กัมพูชาได้แล้ว
ทรัมป์เร่งปิดดีลการค้าก่อนเส้นตายที่กำหนดไว้ในวันศุกร์ (1 ส.ค.) โดยในวันพุธ (30 ก.ค.) ตกลงเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้จากเกาหลีใต้ อัตรา 15% เท่าญี่ปุ่นและอียู แต่จัดหนักรีดบราซิล 50% ด้วยเหตุผลทางการเมือง ขณะเดียวกันรัฐมนตรีพาณิชย์อเมริกาเผยว่า ตกลงกับไทยและกัมพูชาได้แล้วเช่นกัน แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด
ในวันพุธ (30) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์บนแพลตฟอร์มสื่อสังคม ทรูธโซเชียล ของเขาว่า สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าที่ครบถ้วนสมบูรณ์กับเกาหลีใต้ โดยอเมริกากำหนดอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ซึ่งจัดเก็บจากสินค้าเข้าเกาหลีใต้ที่ 15% เท่ากับญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป (อียู) และเท่ากับลดลงจาก 25% ที่ประกาศไว้เมื่อตอนต้นปี
โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ แถลงว่า ภาษีศุลกากรภาคยานยนต์ซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกสำคัญของเกาหลีใต้ ก็จะลดลงจาก 25% อยู่ที่ 15% เช่นกัน นอกจากนั้นอเมริกาจะไม่เรียกเก็บภาษีศุลกากรจากเซมิคอนดักเตอร์และยาของเกาหลีใต้สูงเหมือนประเทศอื่นๆ กระนั้น เหล็กกล้า อะลูมิเนียม และทองแดงจะไม่รวมอยู่ในข้อตกลงนี้
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทางด้านโสมขาวต้องยินยอมเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนนั้น นอกจากยกเลิกภาษีศุลกากรเหลือ 0% สำหรับผลิตภัณฑ์อเมริกันนำเข้าโดยรวมถึงยานยนต์และสินค้าเกษตรด้วยแล้ว ยังต้องยอมตกลงที่จะลงทุนในอเมริกาเป็นมูลค่า 350,000 ล้านดอลลาร์ และต้องซื้อก๊าซธรรมชาติเหลวและผลิตภัณฑ์พลังงานอื่นๆ ของอเมริการวมมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ภายในระยะเวลา 3 ปีครึ่ง ซึ่งเนื้อหาเหล่านี้ก็คล้ายคลึงกับที่คณะบริหารทรัมป์บีบบังคับเอาจากญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปสำเร็จมาก่อนหน้านี้แล้ว
กระนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ยืนยันว่า จะไม่มีการเปิดตลาดข้าวและเนื้อวัวเพิ่มเติม รวมทั้งยังกำลังเจรจากับอเมริกาเรื่องข้อเรียกร้องเกี่ยวกับกฎระเบียบด้านอาหาร
คู ยุนช็อล รัฐมนตรีพาณิชย์เกาหลีใต้ แจกแจงในวันพฤหัสฯ (31 ก.ค.) ว่า การที่โสมขาวตกลงร่วมมือมูลค่า 150,000 ล้านดอลลาร์ภายใต้แคมเปญ “ทำให้อุตสาหกรรมต่อเรือของอเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง” ซึ่งบริษัทต่อเรือของเกาหลีใต้จะเป็นแกนนำในการลงทุนนั้น เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้สามารถทำดีลคราวนี้กันได้
ขณะที่คิม ยองบอม หัวหน้าฝ่ายนโยบายของสำนักประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ระบุว่า การลงทุนในอเมริกาอีก 200,000 ล้านดอลลาร์จะรวมถึงการลงทุนด้านชิป พลังงานนิวเคลียร์ แบตเตอรี่ และยาชีววัตถุ
บราซิลอ่วมถูกรีด50%
วันพุธ ทรัมป์ยังสั่งขึ้นภาษีศุลกากรสินค้าบราซิลอีก 40% รวมภาษีเดิม 10% เป็น 50% โดยอ้างเหตุผลว่าเพื่อตอบโต้ “การล่าแม่มด” ของรัฐบาลบราซิลที่เขากล่าวหาว่า มีแรงจูงใจทางการเมืองในการคุกคาม เลือกปฏิบัติ และดำเนินคดีกับอดีตประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร ซึ่งเป็นพันธมิตรของตัวเขาเอง นอกจากนั้นแล้วอเมริกายังประกาศแซงก์ชันผู้พิพากษาที่รับผิดชอบคดีนี้อีกด้วย
ทรัมป์ยังกล่าวหาว่า บราซิลใช้นโยบายที่ไม่ปกติเพื่อทำร้ายบริษัทอเมริกัน ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีของคนอเมริกัน ตลอดทั้งนโยบายต่างประเทศและเศรษฐกิจของอเมริกา
อย่างไรก็ดี อเมริกายกเว้นการขึ้นภาษีสำหรับเครื่องบินพลเรือน ผลิตภัณฑ์พลังงานบางประเภท แร่เหล็ก และน้ำส้มของบราซิล และจะเริ่มบังคับใช้ภาษีใหม่วันที่ 6 ส.ค.
ทางด้านประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ประกาศว่า จะปกป้องอธิปไตยของคนบราซิลจากมาตรการของทรัมป์
ในส่วนอินเดียนั้น ทรัมป์ระบุว่า เป็นมิตรกับอเมริกา แต่เก็บภาษีสินค้าอเมริกันสูงเกินไป พร้อมประกาศอัตราภาษีใหม่สำหรับแดนภารตะ 25% เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ รวมทั้งจะมีมาตรการลงโทษเพิ่มเติมสำหรับการที่อินเดียยังคงซื้ออาวุธและน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งเป็นการส่งเสริมทางอ้อมให้มอสโกทำสงครามในยูเครน
อย่างไรก็ดี เมื่อคืนวันพุธ ทรัมป์เผยว่า ยังคงเจรจากับอินเดียอยู่
ด้านรัฐบาลอินเดียแถลงว่า กำลังศึกษาผลกระทบจากการประกาศภาษีของทรัมป์ ขณะที่เจ้าหน้าที่อินเดียเผยว่า อเมริกาต้องการให้อินเดียเปิดรับสินค้าของตนมากขึ้น และขอให้ละเว้นภาษีศุลกากรสินค้าเกือบทุกรายการ ทว่า อินเดียขอสงวนสิทธิ์ในการเปิดตลาดเกษตรกรรมและผลิตภัณฑ์จากนม
ในส่วนของแคนาดา ซึ่งยังเจรจาทำดีลกับสหรัฐฯไม่ลงตัวนั้น ปรากฏว่าหลังจากนายกรัฐมนตรีมาร์ก คาร์นีย์ ของแดนใบเมเปิล แถลงในวันพุธว่า มีแผนรับรองฐานะความเป็นรัฐของปาเลสไตน์ ในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเดือนกันยายน กลายเป็นชาติสมาชิก จี7 ชาติที่ 3 ตามหลังฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร ซึ่งแสดงท่าทีเช่นนี้ ทางด้านทรัมป์ซึ่งแสดงตัวเข้าข้างอิสราเอลอย่างแนบแน่นยิ่ง ก็โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า การกระทำดังกล่าวอาจทำให้อเมริกาทำข้อตกลงการค้ากับแคนาดายากมาก
ไม่เพียงสหรัฐฯมีการขยับตัวในการทำดีลทวิภาคีกับหลายๆ ประเทศดังกล่าวมานี้ ในวันพุธ ทรัมป์ยังลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารประกาศใช้ภาษีศุลกากรกับผลิตภัณฑ์ทองแดงนำเข้าบางรายการในอัตรา 50% รวมทั้งประกาศยกเลิกการยกเว้นภาษีศุลกากรสำหรับสินค้ามูลค่าต่ำซึ่งส่งมาจากต่างประเทศ
เกี่ยวกับกรณีของไทยและกัมพูชานั้น รัฐมนตรีพาณิชย์ลุตนิกของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยกับทีวีฟ็อกซ์ นิวส์ ในวันพุธว่า วอชิงตันบรรลุข้อตกลงการค้ากับไทยและกัมพูชาแล้ว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
(ที่มา: เอเอฟพี/รอยเตอร์)
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO