ครอบครัวผู้สูญเสียยืนอยู่เงียบ ๆ เรียกหา ‘ความยุติธรรม’ ขณะที่ทูตโลกยืนมองความจริงจาก ‘อาชญากรรมสงคราม’
บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ — จุดที่จรวด BM-21 จากฝั่งกัมพูชาตกใส่ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อกลางชุมชนไทย
วันนี้…ท่ามกลางแสงแดดที่แผดกล้า เงาของกรอบรูปผู้เสียชีวิตจากจรวด BM-21 ของกัมพูชา — ตั้งเรียงอยู่เบื้องหน้าซากปั๊ม ปตท. และร้านสะดวกซื้อที่พังยับเยิน
ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 8 รายไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ร้องขออะไรเกินไปกว่าคำว่า “ความยุติธรรม”
พวกเขาเพียงแค่มายืน
…ยืนเพื่อเป็นพยาน
…ยืนเพื่อถามคำถามที่ไม่มีใครในฝั่งกัมพูชากล้าตอบ
ว่าทำไมอาวุธสงครามถึงถูกยิงใส่ “พลเรือน”
หลักฐานอยู่ตรงหน้า — ไม่มีข้อแก้ตัวใดหลีกเลี่ยงได้อีก
การเยือนพื้นที่จริงของคณะทูตและทูตทหารจากกว่า 30 ประเทศ รวมถึง สื่อมวลชนต่างชาติ ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ หากแต่เป็นการเปิดเผย “ความจริง” ที่กัมพูชาไม่สามารถกลบเกลื่อนได้อีกต่อไป
ผู้บาดเจ็บ 10 ราย รวมถึงเด็กในชุมชน คือหลักฐานของการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และซากจาก BM-21 ที่ฝังอยู่ในพื้นดินก็คือ “เสียงโต้แย้ง” ที่ดังยิ่งกว่าคำแถลงการณ์ใด ๆ ของกัมพูชา
คณะผู้ร่วมตรวจสอบความจริงในพื้นที่:
พล.ท.อานุภาพ ศิริมณฑล – รองเสนาธิการทหารบก
พล.อ.ท.ณรัฐ บุญประเสริฐ – เจ้ากรมกิจการพลเรือน ทอ.
นายรัศม์ ชาลีจันทร์ – ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
เอกอัครราชทูตและอุปทูตจาก 11 ประเทศ
ทูตทหารจาก 23 ประเทศ
สื่อมวลชนจากทั้งไทยและต่างประเทศ
นี่ไม่ใช่แค่ “การปะทะตามแนวชายแดน” — แต่นี่คือ อาชญากรรมสงคราม
และโลกกำลัง “เห็น” ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
> เมื่อทูต-ทูตทหารจากนานาชาติ ยืนอยู่ต่อหน้าความเสียหาย และเงียบไป — นั่นคือเสียงที่ดังกว่าอะไรทั้งหมด