AAI ลุยตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงตอบโจทย์เทรนด์ยุคใหม่ ผ่อนคลายมาตรการภาษี ลุ้นอนาคตสหรัฐฯ วางนโยบายเชิงบวก
AAI มั่นใจอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงยังคงโตต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ จับตาสถานการณ์ค่าเงินมีส่วนสำคัญสะท้อนผลประกอบการปีนี้ แต่ผ่านจุดที่น่ากังวลมากที่สุดไปแล้วจากปัจจัยภาษี ขอรอดูการรับรู้และปรับตัวของตลาด เชื่ออนาคตน่าจะมีมาตรการเชิงบวกจากสหรัฐอเมริกา
นายเอกราช พรรณสังข์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAIผู้รับจ้างผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำของไทย และเจ้าของแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยง monchou, Hajiko, Pro เปิดเผยว่า ภาวะอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง สุนัข แมว ทั้งในรูปแบบ อาหารเปียก และอาหารเม็ด เติบโตได้ดีจากตลาดขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากพฤติกรรมของคนในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป เลี้ยงสัตว์เหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว ประกอบกับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุทำให้มีการเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นเพื่อนมากขึ้น โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก เนื่องจากปัจจุบัน ที่อยู่อาศัยในเมือง เช่น คอนโดมิเนียมและอพาร์ทเมนท์ มีพื้นที่จำกัด AAIมีความโดดเด่นในการรับจ้างผลิต (OEM) ครอบคลุมแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก โดยตลาดปัจจุบัน อาทิ สหรฐอเมริกา ยุโรป พร้อมเปิดตลาดใหม่ อาทิ ฮ่องกง ไต้หวัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ ซาอุดิอาระเบีย ในขณะเดียวกันมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดภายในประเทศสำหรับแบรนด์ของบริษัท ให้มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนโดย monchouเป็นอาหารแมว Hajikoอาหารสุนัข และ Pro เป็นอาหารราคาย่อมเยาว์สำหรับสุนัขและแมว ควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงความต้องการเจ้าของสัตว์เลี้ยง และผลักดันขยายการส่งออกผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทให้เพิ่มมากขึ้น นอกเหนือตลาดที่ได้ส่งออกไปแล้วอีกด้วย
อย่างไรก็ตามสถานการณ์อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงในปัจจุบันแม้ว่าทิศทางการเติบโตในเชิงบวก ประกอบกับการที่ไทย ได้ข้อสรุปอัตราภาษีตอบโต้ของประธานาธิบดี ทรัมป์ ที่ 19% ถือว่าเป็นอัตราที่ยังแข่งขันได้ แต่ยังต้องติดตามการตอบรับของผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้รับภาระโดยตรง จากลูกค้าที่เป็นผู้นำเข้าและแบรนด์ที่จำหน่ายสินค้าในห้างสรรพสินค้ามีการปรับขึ้นราคาขายจากภาระภาษีที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งห่วงโซ่อุปทานยังต้องร่วมมือกันเพื่อลดผลกระทบและไม่ผลักภาระไปให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคปลายทางทั้งหมด สำหรับ AAI เองได้มีการเตรียมแผนในการหาทางปรับสูตรผลิตภัณฑ์เพื่อลดผลกระทบจากภาษี โดยต้องไม่กระทบต่อคุณภาพและปริมาณสินค้า ส่วนประเด็นการย้ายฐานไปผลิตที่สหรัฐอเมริกา ยังมองว่า ทางสหรัฐอเมริกายังมีข้อจำกัดในเรื่องแรงงานที่ยังต้องใช้ความชำนาญและทักษะ โดยเฉพาะอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก จึงทำให้การย้ายฐานการผลิตไม่สามารถทำได้ในระยะสั้น
ด้านแนวโน้มผลประกอบการ AAI ยังคงมีการเติบโตในรูปของปริมาณและมูลค่าในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่ต้องติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาท และต้องติดตามแผนของลูกค้าที่ปกติจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ หรือรสชาติใหม่ๆ เพื่อรองรับช่วงปลายปี