โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

พ่อคิดมาแล้ว! มหาเศรษฐี ตั้งกฎให้ลูกชาย "แบ่งใช้มรดก" เดือนละเท่านี้ อึ้ง 1,750 ปียังไม่หมด

sanook.com

เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • Sanook
คิดมาแล้ว! มหาเศรษฐี ทิ้งมรดกแสนล้านไว้ แต่ให้ลูก

มหาเศรษฐีฮ่องกง ทิ้งทรัพย์สินมหาศาลไว้มหาศาล แต่กลับกำหนดให้เงินลูกชายใช้แค่เดือนละ 2 ล้าน ซึ่งต้องใช้ถึง 1,750 ปีถึงจะหมด!

เห็นชัดว่าลูกชายไม่อาจรักษามรดกได้ มหาเศรษฐีคนดังจากแดนฮ่องกง จึงตัดสินใจตั้งกองทุนทรัสต์ ให้จ่ายเงินรายเดือนให้แก่ลูกชาย แทนที่จะยกมรดกทั้งหมดให้ในครั้งเดียว

ในปี 2018 มหาเศรษฐี ฮื้อ ไซ่ ฟุน (許世勳, Hui Sai Fun) เสียชีวิตในวัย 97 ปี ทิ้งมรดกมหาศาลกว่า 42,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 150,000 ล้านบาท) ไว้เบื้องหลัง แต่แทนที่จะแบ่งมรดกให้ทายาทเหมือนครอบครัวทั่วไป เขากลับนำทรัพย์สินทั้งหมดใส่ไว้ในกองทุนทรัสต์ โดยให้สมาชิกครอบครัว 15 คน รวมถึงลูกชายที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวอย่าง ฮื้อ จุน ฮัง (許晉亨, Julian Hui) ได้รับเงินใช้จ่ายรายเดือนเพียง 2 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 6.8 ล้านบาท)

แม้เงิน 2ล้านดอลลาร์ฮ่องกงต่อเดือน จะนับว่าเป็นเงินจำนวนมากสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับคนในตระกูลฮื้อ นี่คือเงินที่ต้องคิดอย่างรอบคอบก่อนใช้ การตัดสินใจของ ฮื้อ ไซ่ ฟุน สร้างความฮือฮาในฮ่องกง สื่อเรียกเขาว่า“เศรษฐีขี้เหนียว” ส่วนลูกชายและภรรยาก็กลายเป็นประเด็นขำขันในสังคมไฮโซ …..แต่หากมองลึกลงไปในประวัติครอบครัว จะเข้าใจว่าการบริหารทรัพย์สินนี้สะท้อนถึงความคิดลึกซึ้งของ ฮื้อ ไซ่ ฟุน วิสัยทัศน์ระยะยาว และความเข้าใจในนิสัยของลูกชายอย่างถ่องแท้

เส้นทางสู่มหาเศรษฐีของตระกูลฮื้อ

ต้นตระกูลฮื้อเริ่มจาก ฮื้อ อั๊ย จู (許靄祖, Hui Oi Chu) ผู้เป็นพ่อของ ฮื้อ ไซ่ ฟุน ผู้เกิดในครอบครัวชาวนาในมณฑลกวางตุ้ง ด้วยฐานะยากจน เขาไม่ได้รับโอกาสเรียนหนังสือ และต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำตั้งแต่ยังเด็ก โดยตามพ่อไปทำงานเป็นกรรมกรที่ท่าเรือ แต่ด้วยสายตาเฉียบคม เขาเห็นโอกาสจากการเติบโตของการค้าระหว่างประเทศ และเริ่มสะสมเงินซื้อเรือลำแรกของตัวเอง จากจุดเริ่มต้นนั้น เขาค่อยๆ ขยายกิจการ มีเรือจำนวนมาก ทำธุรกิจข้ามภูมิภาค ทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยุโรป และอเมริกา จนได้รับฉายา“เจ้าพ่อเรือสินค้า” ก่อนจะขยับไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

ฮื้อ อั๊ย จู มีลูกชายสามคน ซึ่ง ฮื้อ ไซ่ ฟุน เป็นคนเล็ก และมีพรสวรรค์ด้านธุรกิจมากที่สุด เมื่อพี่ชายทั้งสองเสียชีวิตก่อนวัย เขาจึงเข้ารับช่วงต่อจากบิดา แต่เขาแตกต่างจากพ่อที่มีบุคลิกเปิดเผย ฝ่ายลูกชายกลับเป็นคนเก็บตัว ไม่ชอบออกสื่อ และไม่หลงใหลในความหรูหราแบบทายาทเศรษฐีทั่วไป เขาทุ่มเทบริหารกิจการที่ได้รับมอบหมาย รู้ดีว่าการรักษาทรัพย์สินนั้นยากกว่าการสร้างมันขึ้นมาเสียอีก

ภายใต้ความผันผวนของตลาด เขาเลือกทางสายกลาง เน้นความมั่นคงและขยายธุรกิจครอบครัวในด้านขนส่งและอสังหาริมทรัพย์ จนวันหนึ่งเขาตัดสินใจขายเรือทั้งหมดของบริษัท นำเงินไปลงทุนในอสังหาฯ ด้วยกลยุทธ์“ซื้อถูก เก็บไว้นาน” จนสามารถสะสมทรัพย์สินคุณภาพสูงได้มากมาย ผลจากความชาญฉลาดทางธุรกิจ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งใน 10 มหาเศรษฐีของฮ่องกง เขายังขยายอิทธิพลไปยังสื่อ ธนาคาร และพลังงาน โดยเคยดำรงตำแหน่งบรรณาธิการ South China Morning Post, ผู้อำนวยการบริษัทไฟฟ้าฮ่องกง และธนาคาร HSBC

บทเรียนจากมหาเศรษฐีถึงลูกชาย

ฮื้อ ไซ่ ฟุน มีลูก 3 คน ลูกชาย 2 และลูกสาว 1 คน โดยลูกชายคนโตเคยถูกวางตัวเป็นทายาทหลัก เพราะแสดงให้เห็นพรสวรรค์ด้านธุรกิจตั้งแต่วัยเด็ก แต่เสียชีวิตด้วยโรคภัยในปี 2014 เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องฝากความหวังไว้ที่ลูกชายคนเล็กอย่าง ฮื้อ จุน ฮัง (Julian Hui) ซึ่งมีบุคลิคตรงข้ามกับพี่ชาย เพราะเป็นเด็กที่ได้รับการตามใจ ขาดความพยายาม และไม่สนใจธุรกิจ เขาเป็นที่รู้จักในวงสังคมว่าเป็น “หนุ่มเพลย์บอย” เข้าร่วมงานปาร์ตี้บ่อยครั้ง และมีข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์กับดาราหญิงมากมาย

ในปี 1991 พ่อจัดงานแต่งให้เขากับ โฮ เชาเชียง (何超瓊, Pansy Ho) ลูกสาวของเจ้าพ่อคาสิโน โฮ ห่งซาน (何鴻燊, Stanley Ho) เพื่อสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ แต่ชีวิตสมรสไม่มีความสุข และจบลงในอีก 10 ปีต่อมา และต่อมาปี 2008 แม้จะถูกคัดค้าน ฮื้อ จุน ฮัง ก็แต่งงานกับ หลี่ กา ซิน (李嘉欣, Michelle Reis) หรือ มิสฮ่องกงที่สวยที่สุด ซึ่งมีข่าวฉาวมากมาย การแต่งงานครั้งนี้ยิ่งทำให้พ่อกังวลเรื่องชื่อเสียงและอนาคตของตระกูล

ในสายตาของ ฮื้อ ไซ่ ฟุน ลูกชายคนเล็กไม่มีความสามารถบริหารทรัพย์สิน และอดีตของลูกสะใภ้ก็อาจทำให้ชื่อเสียงครอบครัวเสื่อมเสีย จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาเลือกตั้งกองทุนทรัสต์ให้จ่ายเงินรายเดือน แทนที่จะให้มรดกก้อนโตทันที เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สิน และสร้างการเติบโตระยะยาว โดยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหรือการบริหารจัดการที่ผิดพลาด การให้เงินใช้จ่ายรายเดือนยังเป็นวิธีป้องกันไลฟ์สไตล์ฟุ่มเฟือย และกระตุ้นให้ลูกหลานขยันสร้างตัว และวิธีนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกในหมู่มหาเศรษฐีฮ่องกงหรือระดับโลก เช่น โฮ ห่งซาน (Stanley Ho) เจ้าพ่อคาสิโน ก็มีการตั้งกองทุนลักษณะเดียวกัน เพื่อให้ลูกหลานรับเงินประจำเดือนเท่านั้น

สำหรับ ฮื้อ ไซ่ ฟุน มรดกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาทิ้งไว้ไม่ใช่แค่ 42,000 ล้าน HKD แต่คือระบบการจัดการทรัพย์สินที่จะช่วยให้ตระกูลสามารถรักษาทรัพย์และคุณค่าครอบครัวไปได้หลายชั่วรุ่น และทางด้าน ฮื้อ จุน ฮัง แม้จะถูกจำกัดด้านการเงิน แต่ก็ยังใช้ชีวิตหรูหราอยู่ในคฤหาสน์ของครอบครัว ออกงานสังคมระดับไฮเอนด์ และไม่มีข่าวอื้อฉาวด้านการเงิน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก sanook.com

เนื้อสัตว์แปรรูป กินแบบไหนให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ?

40 นาทีที่แล้ว

ชาวเน็ตช็อก! "มาเตตา" เซลฟี่กับแฟนบอลสาว แต่ซูมเจออะไรบางอย่างที่ทำเอาหลอนสุดๆ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"เอกิติเก" ทั้งยิงทั้งจ่าย! ลิเวอร์พูล รัวท้ายเกมทุบ บอร์นมัธ 4-2 เปิดหัวซีซันใหม่

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิน เมธวิน เปิดหน้าครอบครัว แม่ถูกแซวเหมือนแม่ผัวร้ายในซีรีส์เกาหลี เจ้าตัวตอบกลับแบบพีคๆ

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

ทรัมป์-ปูติน ประชุมร่วมที่อะแลสกาเสร็จสิ้น "ยังไม่มีข้อตกลงเกิดขึ้น" เกี่ยวกับสงครามในยูเครน

TNN ช่อง16

รัสเซียปลื้ม ทรัมป์ปูพรมแดงต้อนรับปูติน ชี้เป็นสัญญาณของการยอมรับ

เดลินิวส์

ทรัมป์ยืนยันหารือกับปูติน “เป็นไปด้วยดี” แต่ “ยังไม่มีข้อตกลง”

เดลินิวส์

สรุปประชุมสุดยอด 'ทรัมป์-ปูติน' ยังไม่ได้ดีล อาจมีรอบต่อไปที่มอสโก

กรุงเทพธุรกิจ

ปูตินเตือนยูเครน-ยุโรป “อย่าทำลาย” ความคืบหน้าจากการหารือกับทรัมป์

เดลินิวส์

“ทรัมป์-ปูติน” พบกันครั้งแรกในรอบ 7 ปี ถกกว่า 3 ชั่วโมง เพื่อ “แสวงหาสันติภาพ”

เดลินิวส์

ช่วยเหลือกองทัพไทย ยามที่ประเทศชาติต้องการ

สยามรัฐ

สตาร์บัคส์เกาหลี ห้ามลูกค้านำคอมพิวเตอร์เข้าร้าน ด้วยเหตุผลนี้

MATICHON ONLINE

ข่าวและบทความยอดนิยม

เหตุใดอัตราเกิดมะเร็ง ในประเทศร่ำรวยจึง “สูงกว่า” ประเทศยากจน? ปรากฎว่ากลายเป็นข้อดี!

sanook.com

แพทย์ฮาร์วาร์ดเผย 3 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ "หม้อทอดไร้น้ำมัน" หลายคนใช้ผิดวิธีอยู่

sanook.com

4 อาหารที่ถูกตีตราว่า "อันตราย" ต่อสุขภาพ แต่แท้จริงแล้วมีประโยชน์มาก

sanook.com
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...