ทลาย รง.ผลิตเครื่องสำอางเถื่อนย่านฉะเชิงเทรา มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) พร้อมด้วย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมปฏิบัติการตรวจค้นโรงงานผลิต ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางไม่ได้รับอนุญาต และเครื่องสำอางไม่มีเลขจดแจ้ง ตรวจยึดของกลาง 15 รายการ จำนวนกว่า 234,699 ชิ้น มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึด นำโดย พ.ต.ท.หญิง อนุสรา บัวแดง สว.กก.4 บก.ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาและเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทราว่า มีโรงงานแห่งหนึ่งผลิตเครื่องสำอางโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเลขจดแจ้งเนื่องจากไม่ทราบถึงส่วนผสมและมาตรฐานการผลิต
หากประชาชนซื้อไปใช้อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ และเกิดปัญหาต่อผิวในระยะยาว ประกอบกับได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ให้ทำการตรวจสอบโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ว่ามีการลักลอบผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางโดยไม่ได้รับอนุญาต
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่ามีการลักลอบผลิตเครื่องสำอางในพื้นที่ดังกล่าวจริง โดยมีการสั่งซื้อนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศจีน แล้วนำมาต้ม กวน แบ่งบรรจุ ติดฉลาก นำส่งออกขายต่างประเทศ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อขออนุมัติหมายค้น
ต่อมาในวันที่ 14 สิงหาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา (สสจ.) นำหมายค้นของศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าทำการตรวจค้นสถานที่ผลิตและจัดเก็บผลิตภัณฑ์ดังกล่าว พบ น.ส.ปภาวี (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว โดยขณะตรวจค้นพบการลักลอบผลิตเครื่องสำอางอยู่ด้วยการต้ม กวน และบรรจุลงขวดบรรจุภัณฑ์ ติดฉลากเพื่อรอการส่งให้ลูกค้าตามออเดอร์
ส่วนใหญ่มักจะส่งออกขายต่างประเทศ ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า สถานที่ผลิตดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตผลิตเครื่องสำอาง รวมตรวจยึดและอายัดของกลาง จำนวน 15 รายการ โดยเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจำนวน 9 รายการ จำนวนทั้งสิ้นกว่า 234,699 ชิ้น รวมทั้งเครื่องจักร ฉลาก บรรจุภัณฑ์ และวัตถุดิบในการผลิต รวมมูลค่ากว่า 20,000,000 บาท ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก. ปคบ. ดำเนินคดี
จากการสืบสวนขยายผลทราบว่า สถานที่ผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแต่อย่างใดโดยเจ้าของสถานที่จะลักลอบผลิตและส่งให้ลูกค้าตามออเดอร์โดยส่วนใหญ่จะส่งออกขายต่างประเทศ โดย น.ส.ปภาวีฯ กล่าวอ้างว่า ตนเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว โดยมีหน้าที่ดำเนินกิจการต่าง ๆ แทนกรรมการบริษัทชาวจีน เนื่องจากตนเองมีความรู้ด้านส่วนผสมและผลิตเครื่องสำอางเนื่องจากเรียนจบด้านเคมี โดยโรงงานดังกล่าวทำมาแล้วประมาณ 8 เดือน
เบื้องต้นเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558
1. ฐาน "ผลิตเครื่องสำอางที่ไม่ได้จดแจ้ง" ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ฐาน "ขายเครื่องสำอางที่มิได้จดแจ้ง" ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. ฐาน "ผลิตเครื่องสำอางที่ฉลากไม่แสดงข้อความภาษาไทย" ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายแพทย์รุ่งฤทัย มวลประสิทธิ์พร รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอขอบคุณสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทราในการประสานส่งต่อข้อมูลในพื้นที่ และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ที่สืบสวนขยายผลจนสามารถหาแหล่งผลิตและจำหน่ายรวมถึงตรวจยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ผิดกฎหมายได้จำนวนมาก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบสถานที่ดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตผลิต ขอเตือนผู้ผลิตทุกรายให้ปฏิบัติตามกฎหมาย หากพบการลักลอบผลิตที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย อย. จะดำเนินคดีโดยเคร่งครัด
ขอย้ำเตือนประชาชนว่าการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางควรเลือกซื้อที่มีฉลากภาษาไทย แสดงชื่อเครื่องสำอาง ชื่อทางการค้า ประเภทเครื่องสำอาง ชื่อของสารที่ใช้เป็นส่วนผสม วิธีใช้ ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต ผู้นำเข้า ปริมาณสุทธิ ครั้งที่ผลิต เดือนปีที่ผลิตหรือปีเดือนที่ผลิต คำเตือน (ถ้ามี) และเลขที่ใบรับจดแจ้ง มีการระบุแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์
หากมีปัญหาจะติดต่อผู้รับผิดชอบได้ ซื้อเครื่องสำอางที่ไม่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง อย. ไม่อนุญาตการโฆษณาที่อวดอ้าง เป็นเท็จ หลอกลวง และเกินจริง หากพบจะดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำการโฆษณาทุกกรณี
พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ. กล่าวฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่าระมัดระวังและไตร่ตรองให้รอบคอบ ก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ควรตรวจสอบเลขจดแจ้งจากสำนักคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ฉลาก บรรจุภัณฑ์ รวมถึงสี กลิ่น อย่างถี่ถ้วน
อีกทั้งควรเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยา ที่ถูกเกินกว่าปกติ ฉลากไม่ถูกต้องครบถ้วน หรือโฆษณาอวดอ้างผลที่เกินจริง ให้ระลึกไว้เสมอว่าท่านกำลังเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อการโฆษณาและได้ของปลอม ของไม่มีคุณภาพ ใช้แล้วอาจเกิดอาการแพ้ และขอเน้นย้ำกับผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพทั้งหลายว่าอย่านำสินค้าที่ผิดกฎหมายมาจำหน่ายหรือหลอกลวงผู้บริโภคโดยเด็ดขาด หากพบจะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด