FluMist วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก ฉีดเองที่บ้านได้ ครั้งแรกในสหรัฐฯ
ในวันที่ 15 สิงหาคม 2568 AstraZeneca ได้เปิดตัวบริการ FluMist Home ให้ผู้ใช้ใน 34 รัฐสั่งวัคซีนออนไลน์และจัดส่งถึงบ้านได้จริง ภายใต้โครงการนี้ หลังจากที่ วัคซีนพ่นจมูกสำหรับใช้ที่บ้านในสหรัฐฯได้รับ การอนุมัติจาก FDA ครั้งแรกในวันที่ 20 กันยายน 2567 โดยอนุญาตให้ผู้ป่วยฉีดเอง (self-administration) หรือผู้ดูแลฉีดให้เด็ก (caregiver-administration) ได้ที่บ้าน
วัคซีน FluMist คืออะไร?
FluMist ผลิตโดยบริษัท AstraZeneca เปิดตัวครั้งแรกในปี 2546 เดิมทีวัคซีนชนิดนี้แม้จะใช้งานง่าย แต่ก็ต้องอาศัยบุคลากรทางการแพทย์เป็นผู้ให้วัคซีนแก่ผู้ป่วยทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้งานถูกต้องและปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ในเดือนกันยายน 2567 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้ประกาศอนุมัติให้ FluMist ใช้ได้เองที่บ้านโดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำกับดูแล ทำให้เป็นวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ตัวแรกที่ประชาชนสามารถฉีดเองได้
ข้อดีของการฉีดเองที่บ้าน
• ความสะดวกสบาย: ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปคลินิกหรือร้านขายยา
• เข้าถึงง่ายขึ้น: สามารถสั่งซื้อทางออนไลน์และฉีดเอง หรือฉีดให้สมาชิกในครอบครัวได้
• เพิ่มอัตราการฉีดวัคซีน: ลดอุปสรรคด้านเวลาและค่าใช้จ่าย ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนมากขึ้น
สิ่งที่ควรระวัง
แม้การฉีดเองจะสะดวก แต่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า
• ควรอ่านคู่มือการใช้งานอย่างละเอียด
• ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
• หากมีอาการผิดปกติหลังการฉีด เช่น หายใจลำบาก บวม หรือแพ้รุนแรง ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที
ก้าวสำคัญของการป้องกันโรค
การอนุมัติให้ประชาชนสามารถฉีดวัคซีนได้เองที่บ้าน ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของระบบสาธารณสุขสมัยใหม่ ที่มุ่งเน้นการทำให้ประชาชนเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้สะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ประสิทธิภาพของ FluMist Home ได้รับการยืนยันจากการศึกษาว่าการฉีดเองที่บ้านมีผลเทียบเท่ากับการฉีดในคลินิกโดยบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งในด้านการกระตุ้นภูมิคุ้มกันและความปลอดภัย ตามข้อมูลจาก AstraZeneca, Nasdaq และ Pharmacy Times นอกจากนี้ FluMist ยังถูกจัดว่ามีประสิทธิภาพคล้ายกับวัคซีนเชื้อตาย (flu shot) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประชากรวัยเด็กถึงวัยผู้ใหญ่ที่อายุต่ำกว่า 50 ปี
ซึ่งสอดคล้องกับรายงานจาก New York Post, TIME และ The Verge อีกทั้งเอกสารข้อมูลทางการ (package insert) ของ U.S. Food and Drug Administration (FDA) ระบุว่า ในกลุ่มเด็ก FluMist สามารถลดอัตราการเกิดไข้หวัดใหญ่ได้ถึง 44.5% เมื่อเทียบกับวัคซีนชนิดฉีด และประสิทธิภาพสูงถึง 84.3% เมื่อเด็กได้รับวัคซีนครบสองโดสในปีถัดมา โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กและเด็กโตที่อยู่ในช่วงทดลองซึ่งสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ตรงกับวัคซีน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี! ย้ำ 7 กลุ่มเสี่ยงรีบเลย หมดเขต 31 สิงหาคม 2568
- หมอมนูญ เผยข้อมูลระบาดวิทยา กรกฎาคม 2568 มีไวรัสอะไรระบาดบ้าง?
- "AstraZeneca" ทุ่ม 5 หมื่นล้านดอลล์ ขยายฐานการผลิตที่สหรัฐฯ
- “สมศักดิ์” พอใจยอดฉีดวัคซีน HPV - ไข้หวัดใหญ่ เกินเป้า ป่วย-เสียชีวิต
- อัตราการฉีดวัคซีนเด็กทั่วโลกถดถอย เสี่ยงโรคระบาดกลับมาอีกครั้ง