"กลิ่นตัว" บ่งบอกสุขภาพได้ กลิ่นตัวแบบไหน บอกโรคที่ซ่อนอยู่ ?
กลิ่นตัวคุณบอกโรคอะไร ? "กลิ่นตัว" สามารถบ่งบอกสุขภาพได้ กลิ่นตัวแบบไหน บอกโรคที่ซ่อนอยู่ ? "กลิ่นตัว" สัญญาณบ่งชี้ว่าเราอาจกำลังเจ็บป่วย
บทความของBBC นำเสนอเรื่องราวของ เพื่อนร่วมงานของ นักเคมีวิเคราะห์ คนหนึ่ง ที่เธออ้างว่าสามารถได้"กลิ่นโรคพาร์กินสัน" นำไปสู่เรื่องราวมหากาฬของ "กลิ่นตัวที่บ่งบอกสุขภาพของคุณได้อย่างไรบ้าง"
มนุษย์เราปล่อยสารเคมีออกมาเป็นละอองผ่านรูขุมขนและลมหายใจ สารเคมีบางชนิดเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเราอาจกำลังเจ็บป่วย และอาจนำไปใช้ในการวินิจฉัยโรคล่วงหน้าได้นานหลายปี
ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์กำลังพัฒนาเทคนิคในการตรวจหาสารบ่งชี้ทางชีวภาพ (biomarker) ที่มีกลิ่นฉุนอย่างเป็นระบบ ซึ่งอาจช่วยเร่งการวินิจฉัยโรคต่างๆ ได้อย่างน่าทึ่งตั้งแต่โรคพาร์กินสัน การบาดเจ็บที่สมอง ไปจนถึงโรคมะเร็ง กุญแจสำคัญในการตรวจพบสารบ่งชี้เหล่านี้อาจซ่อนอยู่ตรงหน้าเรา
มีโรคบางชนิดที่ส่งกลิ่นเฉพาะตัวรุนแรงมากจนคนส่วนใหญ่สามารถได้กลิ่นได้
เช่น ลมหายใจหรือผิวหนังของผู้ป่วย "โรคเบาหวาน" ที่กำลังมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ อาจมีกลิ่นผลไม้หรือ"กลิ่นแอปเปิลเน่า" เนื่องมาจากการสะสมของสารเคมี กรดที่มีกลิ่นผลไม้ ที่เรียกว่าคีโตนในกระแสเลือด คีโตนเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อร่างกายเผาผลาญไขมันแทนกลูโคส
ผู้ที่เป็น"โรคตับ" อาจปล่อย"กลิ่นอับหรือกลิ่นกำมะถัน" ออกมาจากลมหายใจหรือปัสสาวะ
ในขณะที่หากลมหายใจของคุณมี"กลิ่นแอมโมเนีย" หรือมีกลิ่น"คาว" หรือ "เหมือนปัสสาวะ" อาจเป็นสัญญาณของ"โรคไต" ได้
โรคติดเชื้อบางชนิดก็ส่งกลิ่นเฉพาะตัวเช่นกัน
"อุจจาระ" ที่มี"กลิ่นหวาน" อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้ออหิวาตกโรค หรือ แบคทีเรีย Clostridioides difficile ซึ่งเป็นสาเหตุทั่วไปของโรคท้องร่วง
"วัณโรค" สามารถทำให้ลมหายใจมี"กลิ่นเหม็นเหมือนเบียร์เก่า" และ"ผิวหนังมีกลิ่นเหมือนกระดาษแข็งสีน้ำตาลเปียกๆ และน้ำเกลือ"
ทำไมโรคต่างๆ ถึงส่งผลต่อกลิ่นตัวของเรา?
สาเหตุมาจากกลุ่มโมเลกุล ที่เรียกว่า สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs)
เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ร่างกายของเราต้องเปลี่ยนอาหารและเครื่องดื่มให้เป็นพลังงานอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นภายใน"ไมโทคอนเดรีย" ซึ่งเป็นโครงสร้างขนาดเล็กในเซลล์ ที่เปลี่ยนน้ำตาลจากอาหารให้เป็นพลังงานที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้
ปฏิกิริยาเคมีเหล่านี้ก่อให้เกิดโมเลกุลที่เรียกว่า"เมแทบอไลต์" ซึ่งบางชนิดระเหยง่าย ซึ่งหมายความว่าโมเลกุลเหล่านี้สามารถระเหยได้ง่ายที่อุณหภูมิห้อง และอาจถูกจมูกของเรารับกลิ่นได้ จากนั้นสาร VOCs จะถูกขับออกจากร่างกาย
“หากคุณกำลังทุกข์ทรมานจากการติดเชื้อ โรคภัยไข้เจ็บ หรือการบาดเจ็บ ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่ระบบเผาผลาญของคุณจะได้รับผลกระทบ” บรูซ คิมบัลล์ นักนิเวศวิทยาเคมีจากศูนย์วิจัย Monell Chemical Senses Centre ในเมืองฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา กล่าว
“การเปลี่ยนแปลงของระบบเผาผลาญจะเกิดขึ้นจากการกระจายตัวของสารเมตาบอไลต์ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย”
กล่าวอีกนัยหนึ่ง การมีโรคภัยไข้เจ็บอาจทำให้สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC) ที่ผลิตขึ้นเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้ลายนิ้วมือของกลิ่นตัวเราเปลี่ยนไป
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของ VOC หลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับโรคเหล่านี้มีความละเอียดอ่อนเกินกว่าที่มนุษย์จะรับรู้ได้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมสุนัข หรือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ดมกลิ่น จึงสามารถช่วยเราวินิจฉัยโรคร้ายแรงบางชนิดที่ตรวจพบได้ยากในอนาคตได้
กลิ่นตัวอาจบ่งบอกได้ว่ามีคนเป็นโรคมาลาเรีย
ในปี 2018 นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าเด็กที่ติดเชื้อมาลาเรียจะส่งกลิ่นเฉพาะตัวผ่านทางผิวหนัง ซึ่งทำให้ยุงชอบเป็นพิเศษ
จากการศึกษาตัวอย่างจากเด็ก 56 คน ทางตะวันตกของเคนยา ทีมงานได้ระบุกลิ่น "กลิ่นผลไม้และกลิ่นหญ้า" ที่ดึงดูดแมลงที่บินและกัดได้อย่างน่าประหลาด การวิเคราะห์เพิ่มเติมของตัวอย่างเหล่านี้พบสารเคมีที่เรียกว่า แอลดีไฮด์ (Aldehyde) โดยเฉพาะ เฮปทานอล (Heptanol) , ออกทานัล (Octanal) และโนนอะนัล (nonanal) ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นเฉพาะตัว
งานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้พัฒนาวิธีการทดสอบโรคมาลาเรียแบบใหม่ได้ ในขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์หวังว่าจะสามารถจำลองกลิ่นดังกล่าวและใช้เป็นเหยื่อล่อเพื่อดักจับยุง โดยดึงดูดยุงให้ออกจากชุมชนและหมู่บ้าน
อ้างอิงจาก : BBC