แพทย์เผยผลกระทบอันน่าสะพรึงกลัวต่อร่างกายมนุษย์ หากอดนอนเกิน 24 ชั่วโมง
โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเราอดนอนติดต่อกันหลายชั่วโมงหรือหลายวัน มักจะพบอาการที่บ่งบอกว่าร่างกายกำลังมีปัญหา เช่น ตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้ไม่ดี, ความจำบกพร่อง, เหนื่อยล้า, หงุดหงิด เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า สมองบางส่วนอาจหยุดทำงาน
ดร. ไมเคิล การ์ทเนอร์ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมักจะโพสต์คำแนะนำด้านสุขภาพแก่ผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียของเขา ได้แสดงความคิดเห็นโดยเป็นการรีแอคชันต่อคลิปวิดีโอที่บรรยายถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ หากร่างกายของเราอยู่ในสภาวะที่ไม่หลับไม่นอนเลยเป็นเวลานานหลายชั่วโมง แบ่งออกเป็นระยะเวลาแต่ละช่วงดังนี้
เมื่ออดนอน 24 ชั่วโมง
ร่างกายจะเริ่มแสดงอาการคล้ายคนเมาสุรา โดยมูลนิธิแห่งการนอนหลับระบุว่า การอดนอนในช่วงนี้จะทำให้ความสามารถในการรับรู้และเวลาตอบสนองลดลงอย่างชัดเจน ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ชี้ว่า อาการดังกล่าวเทียบเท่ากับการมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 0.1% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดสำหรับการขับขี่ (0.08%)
นอกจากนี้ ยังอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น อาการง่วงซึมและอ่อนเพลียอย่างรุนแรง การตัดสินใจบกพร่อง ความจำแย่ลง หงุดหงิดง่าย และมีความผิดปกติในการประสานงานของอวัยวะต่างๆ
เมื่ออดนอน 36-48 ชั่วโมง
ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะหลับในซึ่งเป็นการหลับระยะสั้น (Microsleeps) โดยไม่รู้ตัว ส่วนสมรรถภาพทางร่างกายและสติปัญญาจะลดลงอย่างมาก ในช่วงนี้อาการที่สังเกตได้ชัดเจนคือ รู้สึกง่วงนอนอย่างมาก รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น เริ่มเกิดภาพหลอน การรับรู้เวลาผิดเพี้ยนไป และเกิดอาการวิตกกังวลอย่างรุนแรง
เมื่ออดนอนเกิน 72 ชั่วโมง
การอดนอนในระยะนี้ถือว่าอันตรายอย่างยิ่ง แม้สถิติโลกจะระบุว่ามีคนเคยอดนอนได้นานถึง 11 วัน แต่โดยทั่วไปร่างกายจะเริ่มแสดงอาการรุนแรงขึ้นมาก ได้แก่ เห็นภาพหลอนรุนแรงขึ้น อาจเกิดอาการหวาดระแวง ความสามารถทางกายบกพร่องอย่างรุนแรง เริ่มมีความคิดผิดเพี้ยน และไม่สามารถควบคุมการนอนได้
เมื่ออดนอนเกิน 96 ชั่วโมง
นายแพทย์การ์ทเนอร์ชี้ว่า การอดนอนในระยะนี้จะส่งผลต่อความจำอย่างรุนแรง เทียบเท่ากับผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ในระยะเริ่มต้น อีกทั้งยังทำให้รู้สึกหงุดหงิดอย่างรุนแรง และการรับรู้ความเป็นจริงบิดเบือนไปจนคล้ายกับอาการทางจิต
นอกจากนี้ การอดนอนเป็นเวลานานๆ ยังอาจกลายเป็นสาเหตุของโรคนอนไม่หลับเรื้อรังในอนาคตได้อีกด้วย ดังนั้น เราจึงควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออยู่เสมอ
ที่มา : ladbible.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES