รวมพลังแผ่นดินจัดใหญ่ส.ค.
"รวมพลังแผ่นดิน" เผยยอดบริจาคก่อนปิดบัญชีทะลุ 30 ล้านบาท หักค่าใช้จ่ายการชุมนุมรวม 2 ล้าน เหลือมอบให้กองทัพกว่า 28 ล้าน "ปานเทพ" ย้ำจุดยืน “สนธิ” ไม่เอารัฐประหาร “แก้วสรร” ดีใจศาล รธน.
สั่งนายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ยันทำถูกต้องแล้ว เหมือน "ปธน.นิกสัน" ถูกอิมพีชเมนต์ ขณะที่ "จตุพร" ฟาดพรรคส้ม ถ้าทำหน้าที่จะช่วยปิดประตู รปห.สิ้นเชิง เตรียมนัดชุมนุมใหญ่กลาง ส.ค.นี้ ปลุกช่วยหนุนทัพหน้า คปท.
ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ เวลา 14.00 น. วันที่ 1 กรกฎาคม คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย แถลงข่าวภายหลังจากการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน แถลงว่า ได้รับมอบหมายจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล ให้มาตอบคำถามประชาชนว่า จุดยืนของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ เป็นสิ่งที่นายสนธิสนับสนุนทุกประการ ไม่เอาด้วยกับการรัฐประหาร และยืนยันในสองข้อหลักคือ นายกรัฐมนตรีลาออก และพรรคร่วมรัฐบาลลาออก ดังนั้น จุดยืนเรื่องนี้ยังเป็นจุดยืนที่ตรงกันในทุกประการ
นายปานเทพกล่าวว่า ยอดเปิดรับบริจาคจนถึงเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.68 อยู่ที่ 30,771,061 บาท จากจำนวนผู้บริจาครวม 56,200 คน ซึ่งเงินจำนวนนี้ถูกใช้ในวันที่มีการชุมนุมรวม 2,072,535 บาท ทำให้เหลือเงินที่จะมอบให้กับหน่วยงานความมั่นคงของประเทศ 28,698,525 บาท โดยจะมอบให้กับกองทัพภาคที่ 1 จำนวน 1,100,000 บาท คงเหลือเงินที่จะมอบให้กับกองทัพภาคที่ 2 จำนวน 27,598,525 บาท ในจำนวนนี้ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้แถลงข่าวขอบคุณพี่น้องประชาชนที่รวมพลังกันในการสนับสนุนในเรื่องของการปกป้องอธิปไตยของชาติ พร้อมแจ้งว่าไม่ประสงค์ที่จะรับเงินสด เนื่องด้วยต้องผ่านกลไกและคณะกรรมการอีกหลายขั้นตอนในระบบราชการ เราจึงได้ประสานกับกองทัพภาคที่ 2 ว่าต้องการสิ่งใดขอให้บอก เราได้ทำการจัดซื้อจัดหาอากาศยานคนขับลาดตระเวนป่าไม้ในเวลากลางคืน ซึ่งจะไม่บอกรุ่นและสเปก เพื่อความมั่นคงแห่งรัฐ 11,060,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของสาธารณูปโภคเพื่อความปลอดภัยของทหาร ความเป็นอยู่ของการเข้าถึงฐานปฏิบัติการ ห้องน้ำสำเร็จรูปไฟเบอร์กลาส ตู้คอนเทนเนอร์ พื้นคอนกรีตแบบตันลวดหกเส้น รถตักหน้าขุดหลังล้อยาง รถไถนาเดินตาม รถขุดบางรุ่น ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดเพื่อความมั่นคงของทหารให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด รวมมูลค่าประมาณ 10,055,000 บาท ส่วนที่สามเกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภคและความเป็นอยู่ด้านการใช้พลังงานทั้งสิ้น เช่น เครื่องปั่นไฟ รวมไปถึงแบตเตอรี่ โซลาร์เซลล์ สายไฟ พร้อมประสานผู้เชี่ยวชาญอย่างกองทัพธรรมให้มาช่วยดูเรื่องโซลาร์เซลล์ด้วย
"เมื่อรวมสามยอดนี้เข้าด้วยกัน เป็นเงินจำนวน 25 ล้านบาท ดังนั้นเรายังเหลือเงินอีก 2 ล้านบาท จะทำการประสานเพิ่มเติมเพื่อใช้เงินให้หมดจนเกิดประโยชน์สูงสุดกับกองทัพภาคที่ 2 ต่อไป ยังมีการมอบเงินอีก 1 ล้านบาทนอกเหนือจากที่กล่าวมา มอบให้ทางกองทัพเรือเพื่อเสริมน่านน้ำชายแดนด้วย" นายปานเทพกล่าว
นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงว่า ได้รับมอบหมายเรื่องของคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พวกเราดีใจมากที่กฎหมายได้ทําหน้าที่ให้บ้านให้เมือง คณบดีคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ไปออกโซเชียลฯ ว่าจะใช้กฎหมายจะใช้ศาลสร้างสถานการณ์ ศาลไม่ใช่เครื่องมือที่จะมาแก้สถานการณ์สร้างสถานการณ์ วันนี้ศาลตัดสินตามกฎหมายทั้งสิ้น ภาษาฝรั่งเรียกว่า Impeachment คือการเอาคนในออฟฟิศในสํานักงานของรัฐในตําแหน่งสําคัญๆ ออกไป เอาออก ถอดถอนออกจากตําแหน่ง ด้วยเหตุประพฤติผิดในหน้าที่ ไม่ว่าจะผิดต่อความไว้วางใจหรือเกิดติดสินบนเสียหายอย่างเช่นในสมัยประธานาธิบดีนิกสัน ก็ถูก impeachment ในฐานที่ใช้หน่วยงานของรัฐไปดักฟังหนังสือพิมพ์ เป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ
"วันนี้ศาลตัดสินถูกแล้ว ในส่วนคําสั่งที่ 2 คือให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ เป็นศัพท์กฎหมายเขาเรียกว่าวิธีการชั่วคราว เพราะว่าข้อหาอันนี้เป็นจริง ถ้าให้ยังสวมตําแหน่งนายกฯ แล้วก็ได้ใช้อํานาจในตําแหน่งหน้าที่นี้เป็นที่ไว้วางใจไม่ได้ มีความผิดปรากฏขึ้น ข้อหานี้เป็นจริงก็จําเป็นต้องมีวิธีการชั่วคราวระวังไว้ก่อน ไม่ใช่ให้เสียหายไปกว่านี้ แต่ส่วนในท้ายที่สุด หลังจากศาลใช้อํานาจไต่สวน จะตัดสินอย่างไรก็แล้วแต่ศาล" นายแก้วสรรกล่าว
นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า มติของคณะรวมพลังแผ่นดินฯ ชัดเจนว่าไม่เอาการรัฐประหาร และไม่เอา น.ส.แพทองธาร คำพูดของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ก็เป็นลักษณะการตัดพ้อต่อว่า ไม่ใช่เป็นการเรียกร้อง ขอบอกไปยังพรรคเพื่อไทยว่า ถ้าคุณรังเกียจการรัฐประหารคุณไปรับเสียง สว. 152 เสียง มาโหวตให้นายเศรษฐา ทวีสิน มาเป็นนายกฯ ทำไม ส่วนพรรคประชาชนนั้น ตนไม่แปลกใจเลยว่าทำไม่การปรับ ครม.จึงมีตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจถึง 2 คน ที่ออกแถลงการณ์ให้ประชาชนออกจากการชุมนุม อยากบอกว่าพวกเราแสดงตนรับผิดชอบไม่มีหน้าที่ยุให้คนอื่นไปชุมนุมแล้วตัวเองไม่รับผิดชอบ ไม่มีใครสามารถกวักมือให้ทหารมา แต่การรัฐประหารมันเกิดจากเหตุผลเดิมๆ ที่รัฐบาลทุจริตฉ้อฉล การแทรกแซงองค์กรอิสระ การสร้างความแตกแยก การหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือแม้กระทั่งเรื่องการขายชาติ
"พรรคฝ่ายค้านจะทำอย่างไรในการหยุดยั้งรัฐประหาร คือต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้าน มี 3 กรณีที่เข้าข่ายน่าสงสัย คือเมื่อคุณอภิปรายไม่ไว้วางใจประเด็นหลบเลี่ยงภาษีตั๋ว P/N การรุกที่ดินเขาใหญ่ การโกงที่วัดสร้างสนามกอล์ฟอัลไพน์ และบอกว่าจะโรยเกลือ ปรากฏว่าไม่มีเกลือ เหลือแต่สารส้มทุบ เพราะถ้าไปยื่นยังศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องจริยธรรมของนายกฯ น.ส.แพทองธาร เมื่อพรรคภูมิใจไทยเสนอยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 150 ในประเด็นเรื่องความมั่นคงจากกรณีคลิปหลุด และพฤติกรรมต่างๆ แต่พรรคประชาชนยังไม่เห็นชอบด้วยจนบัดนี้ ถามจริงๆ คุณเป็นฝ่ายไหนกันแน่ ถ้าคุณได้ทำหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้าน ปิดประตูการทำรัฐประหารโดยสิ้นเชิง" นายจตุพรกล่าว
นายจตุพรกล่าวอีกว่า ขณะนี้เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เป็นเหมือนทัพหน้าที่ตั้งการชุมนุมมาเป็นปีบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ มีการปราศรัยกันทุกวัน และคอยประคับประคองสถานการณ์ เปรียบเป็นแนวหน้าให้ก่อนที่ทัพใหญ่จะรวมตัว เพราะฉะนั้นในระหว่างนี้พี่น้องประชาชนสามารถไปร่วมชุมนุมได้ทุกวัน อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้นัดหมายชุมนุมใหญ่ครั้งต่อไปกลางเดือน ส.ค.นี้ ส่วนมวลชนจะมามากขนาดไหนขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ความชอบธรรมของการชุมนุม และเหตุผลในการชุมนุม ระยะนี้ขอมวลชนสนับสนุนเงินทุนให้ คปท.-ศปปส.-กองทัพธรรม เพื่อเป็นด่านหน้าตรึงกำลังที่ทำเนียบรัฐบาล.